นายนิพนธ์ บุญญามณี ยืนยันความบริสุทธิ์ หลังนายศรีสุวรรณ ยื่นหนังสือคัดค้านนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ครม. บิ๊กตู่ 2
1. โครงการประมูลซื้อรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ 52 ล้านบาท ซึ่งศาลได้พิพากษาให้ อบจ.สงขลา ต้องจ่ายเงินทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยตามสัญญา เป็นเหตุให้ราชการเสียหาย และกรณีนี้มีการร้องเรียนไปที่ ป.ป.ช. แล้ว
2. โครงการเงินอุดหนุนสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นการใช้งบประมาณไม่ถูกต้องเกินกว่าอำนาจหน้าที่ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงินและการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำให้รัฐสูญเสียเงินไปกว่า 34 ล้านบาท เรื่องนี้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน มีมติให้เรียกเงินคืนแล้ว แต่ทาง อบจ.สงขลา ยังไม่คืน อีกทั้งเรื่องนี้ถูกส่งไป ป.ป.ช. แล้ว
![ศรีสุวรรณ แฉนิพนธ์ บุญญามณี ศรีสุวรรณ แฉนิพนธ์ บุญญามณี]()
ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการเงินอุดหนุนสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา โดยใช้เงินงบประมาณปี 2558-2559 นั้น ขอยืนยันว่า เงินอุดหนุนดังกล่าวดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนและไม่ได้นำเงินไปอุดหนุนสโมสรกีฬาโดยตรง แต่เป็นการโอนเข้าสมาคมกีฬาตามระเบียบ ขณะที่ข้อกล่าวหาเรื่องโครงการจัดซื้อจัดจ้างรถอุบัติเหตุฉุกเฉินหรือรถพยาบาล ในราคาที่แพงเกินจริง โดยตั้งราคาไว้ที่คันละ 5.7-6 ล้านบาทนั้น ยืนยันว่า การตั้งราคาดังกล่าว เป็นไปตามบัญชีนวัตกรรมของกรมบัญชีกลาง เพื่อยกระดับมาตรฐานของรถพยาบาล
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการตรวจสอบผู้ที่เผยแพร่และแชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับตนเองตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ทนายความดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และขณะนี้อยู่ระหว่างสืบหาแหล่งที่มาของการเผยแพร่เอกสารดังกล่าว โดยส่วนตัวมองว่า มีความพยายามที่จะเผยแพร่เอกสารโจมตีทุกครั้งที่ตนได้รับพิจารณาเลื่อนตำแหน่งต่าง ๆ ที่สูงขึ้น ส่วนจะเป็นสาเหตุทำให้ตนต้องโดนถอดชื่อรัฐมนตรีกลางอากาศหรือไม่นั้น เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะต้องพิจารณา

ภาพจาก สำนักข่าว INN
สืบเนื่องจากที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องร้องเรียน พร้อมส่งข้อมูลหลักฐานต่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ประกอบการพิจารณาตัดสินใจ ไม่เสนอชื่อ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากพบว่ามีประวัติในทางที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหลายเรื่องในระหว่างการทำหน้าที่นายก อบจ.สงขลา อาทิ
1. โครงการประมูลซื้อรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ 52 ล้านบาท ซึ่งศาลได้พิพากษาให้ อบจ.สงขลา ต้องจ่ายเงินทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยตามสัญญา เป็นเหตุให้ราชการเสียหาย และกรณีนี้มีการร้องเรียนไปที่ ป.ป.ช. แล้ว
2. โครงการเงินอุดหนุนสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นการใช้งบประมาณไม่ถูกต้องเกินกว่าอำนาจหน้าที่ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงินและการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำให้รัฐสูญเสียเงินไปกว่า 34 ล้านบาท เรื่องนี้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน มีมติให้เรียกเงินคืนแล้ว แต่ทาง อบจ.สงขลา ยังไม่คืน อีกทั้งเรื่องนี้ถูกส่งไป ป.ป.ช. แล้ว
3. โครงการจัดซื้อรถอุบัติเหตุฉุกเฉิน ราคา 5.7-6 ล้านบาทต่อคัน

ภาพจาก สำนักข่าว INN
ล่าสุด (17 มิถุนายน 2562) มีรายงานว่า นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการแถลงชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวแล้ว โดยยืนยันว่า โครงการประมูลซื้อรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ ชนิด 10 ล้อ 2 คัน วงเงิน 52 ล้านบาทนั้น ไม่ได้มีการทุจริตในเรื่องนี้ ซึ่งการที่ได้สั่งระงับการจ่ายเงินซื้อรถ เนื่องจากมีข้อร้องเรียนในเรื่องความโปร่งใสและมีหนังสือให้ระงับการจ่ายเงินไว้ก่อน
ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการเงินอุดหนุนสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา โดยใช้เงินงบประมาณปี 2558-2559 นั้น ขอยืนยันว่า เงินอุดหนุนดังกล่าวดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนและไม่ได้นำเงินไปอุดหนุนสโมสรกีฬาโดยตรง แต่เป็นการโอนเข้าสมาคมกีฬาตามระเบียบ ขณะที่ข้อกล่าวหาเรื่องโครงการจัดซื้อจัดจ้างรถอุบัติเหตุฉุกเฉินหรือรถพยาบาล ในราคาที่แพงเกินจริง โดยตั้งราคาไว้ที่คันละ 5.7-6 ล้านบาทนั้น ยืนยันว่า การตั้งราคาดังกล่าว เป็นไปตามบัญชีนวัตกรรมของกรมบัญชีกลาง เพื่อยกระดับมาตรฐานของรถพยาบาล
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการตรวจสอบผู้ที่เผยแพร่และแชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับตนเองตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ทนายความดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และขณะนี้อยู่ระหว่างสืบหาแหล่งที่มาของการเผยแพร่เอกสารดังกล่าว โดยส่วนตัวมองว่า มีความพยายามที่จะเผยแพร่เอกสารโจมตีทุกครั้งที่ตนได้รับพิจารณาเลื่อนตำแหน่งต่าง ๆ ที่สูงขึ้น ส่วนจะเป็นสาเหตุทำให้ตนต้องโดนถอดชื่อรัฐมนตรีกลางอากาศหรือไม่นั้น เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะต้องพิจารณา

ภาพจาก สำนักข่าว INN
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN