ตำรวจ ปอท. ออกหมายเรียกคนโพสต์ "นวย คนจนผู้ยิ่งใหญ่" มารับทราบข้อหา พ.ร.บ.คอมฯ ม.14(1) นำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ วันที่ 29 มิถุนายน เวลา 10.00 น. อาจเจอคุก 5 ปี ปรับ 1 แสน
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
จากกรณีที่แชร์กันสนั่น กับเรื่องราวที่สาวทำกระเป๋าสตางค์ Chanel หล่นหาย และมีชายชื่อว่า นวย เก็บได้แล้วส่งคืน โดยทรัพย์สินและเอกสารต่าง ๆ อยู่เกือบครบทุกอย่าง ซึ่งหนุ่มรายนี้ได้เขียนโน้ตทิ้งเอาไว้ให้ว่า ขอหยิบเงินออกไป 200 บาท เป็นค่าเหล้ากับค่าส่ง ซึ่งหลังจากนั้นชาวเน็ตก็ต่างพากันตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องดังกล่าวอาจไม่ใช่เรื่องจริง เนื่องจากลายมือในจดหมายนั้นดูคล้ายเป็นลายมือของผู้หญิง รวมถึงกล่องพัสดุก็ดูขัดกับความจริงหลายอย่าง รวมถึงกระเป๋าที่พบก็ดูใหม่ไม่มีรอยเลอะใด ๆ จากการทำหล่นหายแต่อย่างใด ตามที่ได้มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : จับผิด นวย ส่งคืน Chanel ส่อไม่มีตัวตน ชี้ลายมือสวยเกิน ไม่เชื่อกระเป๋าหล่นจริง)
ล่าสุดวันนี้ (21 มิถุนายน 2562) ข่าวช่อง 3 รายงานว่า พ.ต.อ. ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ฐานะโฆษก บก.ปอท. กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. ได้ออกหมายเรียกสาวเจ้าของโพสต์ผู้กระทำความผิดเข้ามารับทราบข้อหาในความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14(1) นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ในวันที่ 29 มิถุนายน เวลา 10.00 น.
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
เบื้องต้น ยังไม่สามารถระบุเจตนาของผู้กระทำนั้นได้แน่ชัด อีกทั้งผู้โพสต์นั้นได้ดำเนินการปิดบัญชีเฟซบุ๊กหลบไปแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บรวบรวมข้อมูลไว้เป็นหลักฐานแล้ว
ส่วนเรื่องที่ประชาชนหลายคนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องให้ความสำคัญนั้น ตนขอชี้แจงว่า กรณีนี้เป็นการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และเป็นเหตุให้สังคมเกิดความสงสัย สับสน หลงเชื่อว่าน่าจะมีเจตนาซ่อนเร้นบางอย่าง และเรื่องนี้โดยแท้จริงแล้วไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะมีผู้แชร์ข้อมูลกระจายไปในโลกโซเชียลมากกว่า 1 แสนราย อีกทั้งยังมีผู้ร้องเรียนเข้ามาในเว็บไซต์ของ บก.ปอท. เป็นจำนวนมากให้ตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม อยากฝากเตือนคนเล่นโซเชียลว่า การโพสต์ข้อความเพื่ออยากสร้างตัวตน โดยสร้างเรื่องราวที่ไม่เป็นความจริง และทำให้สังคมเคลือบแคลงสงสัย จนเกิดความสับสนนั้นเป็นความผิด
สำหรับคดีนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อหากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (1) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ