เปิดคดีศพเด็กข้างถนน พ่อแม่เชื่อถูกฆ่า แต่ ตร. บอกเป็นอุบัติเหตุ ผ่านเป็นปี คดีไม่คืบ

          น้องโอมได้เสียชีวิตไปเมื่อปี 2561 ซึ่งนายสุริยา และ น.ส.เจียม เชื่อว่าลูกถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต แล้วคนร้ายนำศพไปออกทิ้งเพื่ออำพรางคดี เนื่องจากมีหลักฐานกล้องวงจรปิดคล้ายมีการขนศพอำพรางคดี แต่ตำรวจกลับลงความเห็นว่าเป็นอุบัติเหตุ จึงออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม

          ล่าสุด ทนายรณณรงค์ พร้อมกับพ่อแม่ของน้องโอม จึงได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต. สมชาย นุ่มโต ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ขอให้ชุดสืบสวนเข้าที่คลายคดีนี้ และตั้งข้อสังเกตจากหลักฐานว่า ที่เกิดเหตุมีความผิดปกติหลายอย่าง กล่าวคือ สภาพศพน้องโอมดูสะอาดสะอ้าน ไม่เปรอะเปื้อน หากน้องโอมประสบอุบัติเหตุขณะขับขี่รถจักรยานยนต์จนลมลงและเสียชีวิตจริง น่าจะปรากฏร่องรอยไถลกับถนน หรือบาดแผลบ้าง
          ทนายรณณรงค์กล่าวว่า พนักงานสอบสวนไม่ได้อายัดเสื้อผ้าไปตรวจ ไม่ได้เก็บหลักฐานตั้งแต่ต้น และไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้แค่ไหน อย่างไรบ้าง เพราะหลักฐานบางอย่างหายไป คาดว่าในตอนแรกพนักงานสอบสวนคิดว่าการเสียชีวิตน่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ คงไม่ได้คิดว่าเป็นการฆาตกรรม

          สำหรับวันที่น้องโอมเสียชีวิตนั้น ในช่วงก่อนเกิดเหตุ น้องโอมอยู่ที่บ้านของรุ่นพี่ชื่อ นายเก้อ ซึ่งนายเอ็ม (นามสมมุติ) หนุ่มใบ้ รุ่นพี่อีกคนหนึ่งของน้องโอม ได้พบเห็นเหตุฆาตกรรม ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์นำศพออกไปทิ้ง โดยรายชื่อรุ่นพี่ของน้องโอม รวมทั้งคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่เป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้คือ 

          - นายปอม เพื่อนน้องโอม ได้ลงมือบีบคอน้องโอม
          - นายอาทิตย์ เพื่อนผู้อยู่ในเหตุการณ์
          - นายเมศ พ่อของนายเก้อ เพื่อนน้องโอม ได้ทุบหัว และขนศพจะไปทิ้งช่วงแรก
          - นางรุน แม่ของนายเก้อ ขนศพไปช่วงแรก
          - นายเป๊ปซี่ ขนส่งไปช่องที่สอง
          นายเก้อ อายุ 18 ปี หนึ่งในผู้ต้องสงสัย ได้ปฏิเสธทุกการกล่าวหา ชี้แจงว่า ในวันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 09.00 น. น้องโอมมาหาตนที่บ้าน ตนกับน้องโอมเดินทางไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์ในตัวเมืองด้วยกัน ซึ่งมีเพื่อนอีกหลายคนไปด้วย และได้แยกย้ายกันไป หลังจากดูหนังเสร็จ

          ต่อมาในเวลาประมาณ 19.00 น. เพื่อน ๆ ได้นัดกันมาที่บ้านตนอีกครั้ง น้องโอมก็มาด้วย แต่น้องโอมบอกว่าจะออกไปหาเด็กสาวคนหนึ่ง ซึ่งเป็นแฟนเก่าที่มีแฟนใหม่แล้ว แต่ยังแอบคุยกัน น้องโอมได้ยืมรถจักรยานยนต์ของเพื่อนคนหนึ่งชื่อปอม เพื่อจะพาสาวไปดูหนังกลางแปลง

          กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. ปอมได้โทร. หาน้องโอม บอกให้รีบกลับ ตอนนั้นเพื่อน ๆ คนอื่นก็อยู่กันครบ รวมทั้ง ปอม อาทิตย์ และ เป๊ปซี่ ส่วนนางรุน แม่ของตน นอนอยู่ในบ้าน ขณะที่นายเมศ พ่อของตน ได้ออกไปกินเหล้าและดูหนังกลางแปลงกับเพื่อน  ต่อมาในเวลาประมาณ 23.00 น. ตนกับพรรคพวกได้ออกจากบ้านไปดูหนังกลางแปลง ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้านไป

          นายเก้ออ้างว่า พ่อของตนไม่ได้เอาไม้ไปทบตีศีรษะน้องโอมจนตาย เพราะไม่ได้อยู่บ้าน อีกทั้งถ้าดื่มเหล้าแล้วจะไม่ไปยุ่ง ไม่ไปสุงสิงกับใคร ดังนั้นข้อกล่าวหาจึงไม่เป็นความจริง นอกจากนี้แล้ว แม่ของตนที่ถูกกล่าวหาว่าเอาศพออกไป ก็ไม่จริงเช่นกัน เพราะแม่สายตาไม่ดี ขับขี่ในเวลากลางคืนไม่ได้

          ส่วนกรณีที่มีภาพวงจรปิดออกมา ตนยืนยันว่าไม่มีใครผ่านไปในในเส้นทางที่พบศพน้องโอม และไม่มีใครไปเจอน้องโอมอีก รถจักรยานยนต์ที่เห็นในภาพก็ไม่ใช่รถของบ้านตน และไม่มีเพื่อนคนไหนใช้จักรยานยนต์ลักษณะเช่นนั้น และวันนั้นไม่มีใครสวมกางเกงขาสั้น ตามที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิดด้วยเช่นกัน

          ส่วนกรณีที่ นายเอ็ม (นามสมมุติ) คนใบ้ ที่ได้ออกมาให้ข้อมูลนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะในวันเกิดเหตุ ตนมีพยานว่านายเอ็มอยู่ที่บ้านคนอื่น ไม่มีทางพบเห็นเหตุการณ์ฆาตกรรมตามได้กล่าวหาพวกตน ตนขอยืนยันว่าตนและครอบครัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอุ้มฆ่า หรือฆาตกรรมน้องโอมอย่างแน่นอน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก