พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อภิปรายปัญหาของการเกษตรไทย เปรียบเป็นกระดุม 5 เม็ด วงเวียนปัญหาที่ทำกินและหนี้สินของเกษตร ไม่มีที่ดิน ไม่มีเงินทุน กู้นอกระบบมาลงทุน ผลพวงทำให้ยิ่งทำการเกษตรมาก ยิ่งจน !
วันที่ 26 กรกฎาคม 2562 วันที่สองของการแถลงและอภิปรายนโยบายของรัฐบาล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ได้อภิปรายความคิดเห็นต่อนโยบายด้านการเกษตรของประเทศไทย พร้อมสะท้อนถึงนโยบายที่รัฐบาลแถลง ระบุว่า หลายนโยบาย ไม่มีการวิเคราะห์ปัญหาต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกันเป็นระบบ จึงยากที่จะทำให้นโยบายนั้นสำเร็จได้จริง ปัจจุบันเกษตรกรไทยที่ร่ำรวยลืมตาอ้าปากได้ มีไม่ถึงร้อยละ 1 เท่านั้น
จากนั้น นายพิธา ได้ยกตัวอย่างเรื่องกระดุม 5 เม็ด พร้อมแนะนำรัฐบาลติดกระดุมแก้ปัญหาให้ครบทั้ง 5 เม็ด เพื่อให้ปัญหาทุกอย่างถูกแก้ไขอย่างถูกจุดและยั่งยืน
ภาพจาก สถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา
กระดุมเม็ดที่ 1 การแก้ไขเรื่องที่ดิน
ที่ดินเป็นปัญหาคอขวดของปัญหาเกษตรกรรมทั้งหมด ที่ดินคือชีวิต ที่ดิน คือสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน เป็นกระดุมเม็ดแรกที่หากแก้ปัญหาถูกจะทำให้แก้ปัญหาได้เช่นกัน เพราะเกษตรกรเหล่านี้ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง และนำไปสู่วงจรหนี้สิน
- คนไทยร้อยละ 75 ไม่มีที่ดินของตนเอง ทำให้ปัจจุบันเกษตรกรต้องเช่าที่ดินเพื่อทำการเกษตรร้อยละ 45
- เมื่อไม่มีที่ดินของตนเอง จึงไม่มีทรัพย์สินค้ำประกันและเข้าไม่ถึงเงินทุน ทำให้ไปต้องกู้เงินนอกระบบ และนำไปสู่วงจรหนี้สิน
- ขอ GAP (Good Agriculture Practices) รับรองก็ไม่ได้ เพราะไม่มีเอกสารสิทธิ์ ทำให้ผลผลิตถูกกดราคา
กระดุมเม็ดที่ 2 การแก้ปัญหาหนี้สิน
- เกษตรกรไทย มีรายได้เฉลี่ยเพียง 4,750 บาทต่อเดือน และเมื่อรายได้ไม่เพียงพอ แถมไม่มีทรัพย์ที่ดินหรือสินค้ำประกันเพื่อกู้เงินในระบบ จึงต้องกู้นอกระบบซึ่งมีดอกเบี้ยสูง
- เมื่อเกษตรกรเข้าอยู่ในวงจรหนี้สิน จดจ่อต่อการใช้หนี้ ทำให้ต้องการความแน่นอนในผลผลิต
- เกษตรกรจึงทำการเกษตรด้วยวิธีการเดิม ๆ ปลูกพืชเดิม ๆ ไม่มีการปลูกพืชหมุนเวียน
- และด้วยความที่ต้องมุ่งมั่นหาเงินใช้หนี้ จึงจำเป็นต้องใช้สารเคมีเยอะเพื่อให้ได้ผลผลิตที่แน่นอนและมีคุณภาพ แต่ก็มีปัจจัยเรื่องการกดดันราคาสารเคมีเกษตร
กระดุมเม็ดที่ 3 การประกันราคาพืชผล และการใช้ยาฆ่าแมลง
- เมื่อเกษตรกรใช้สารเคมีเยอะ จะทำให้ผลผลิตถูกกดราคา
- ทำให้ต้นการผลิตสูง แต่กลับรายได้ต่ำ
- ในขณะที่นโยบายประกันราคามีจุดอ่อน เพราะเจ้าของที่ดินจะขอขึ้นค่าเช่า เมื่อทราบว่าเกษตรกรได้เงินเพิ่มจากนโยบายรัฐบาล
กระดุมเม็ดที่ 4 การแปรรูปสินค้าด้วยนวัตกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่า
- เมื่อเกษตรกรมีต้นทุนการผลิตสูง แต่ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทำให้ไม่สามารถเก็บออมเงินได้
- เมื่อไม่มีเงินออม ไม่มีเงินลงทุน เกษตรกรจึงไม่สามารถเข้าถึงการแปรรูป และการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้
- ทำให้เกษตรกรไปไม่ถึงโอกาสใหม่ ๆ ในการพัฒนาตัวเอง ไม่สามารถแปรรูปผลิตภัณฑ์ให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ไม่สามารถให้บริการด้านการท่องเที่ยวเชิงเกษตร
กระดุมเม็ดที่ 5 การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร
- เกษตรกรไม่สามารถทำการท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้ เพราะไม่มีที่ดินและติดข้อจำกัดด้านกฎหมาย จึงเป็นวงจรวนเวียนไปสู่กระดุมเม็ดที่ 1 เรื่องที่ดิน วนเวียนแบบนี้เรื่อยไป
โดยนายพิธา ได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินของเกษตรกร ระบุว่า เมื่อประเทศไทยมีเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเปิดให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ เหตุใดจึงไม่มีเขตเศรษฐกิจของประชาชนไทยด้วยกัน เป็นเขตสังคมพิเศษ เริ่มจากการยุติข้อพิพาทระหว่างรัฐและประชาชน ที่ต้องการมีที่ดินอยู่อาศัยและที่ทำกิน หรือเพิ่มบทเฉพาะกาลให้ประชาชนอาศัยอยู่ได้ ด้วยการรับรองสิทธิชุมชน ให้มีไฟฟ้าและประปาใช้
ส่วนข้อเสนอแก้ปัญหากระดุมเม็ดที่ 2 นายพิธา เสนอให้ใช้ระบบการสร้างเครดิตทางเลือก หรือ Alternative Credit Scoring ซึ่งเป็นวิธีการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ที่โลกดิจิทัลช่วยได้ ซึ่งทั้ง 2 เรื่องมีความเกี่ยวเนื่องกัน หากเกษตรกรยังอยู่ในวงจรหนี้ จดจ่อต้องจ่ายหนี้ให้ได้ ก็ไม่กล้าเสี่ยงทำการเกษตรด้วยวิธีอื่น
ส่วนกระดุมเม็ดที่ 3 นายพิธา ยกตัวอย่างประเทศจีน ที่ใช้นโยบายกรีนไชน่า ลดการใช้สารเคมีเกษตรร้อยละ 10 มีการตั้งสถาบันชีวภาพ สนับสนุนการใช้ยาสมุนไพร แต่ประเทศไทยกลับนำเข้าสารเคมีจากจีนมากที่สุด รวมถึงนโยบายแก้ปัญหาเกษตรกรด้วยมาตรการระยะสั้นของรัฐบาล อย่างนโยบายประกันราคา นายพิธาบอกว่าส่วนตัวไม่ขัดข้อง แต่ฝากเรื่องคอร์รัปชัน การสวมสิทธิ์ และความเหลื่อมล้ำด้านการชดเชยราคา หากเกษตรกรและชาวนาที่เช่านาไม่มีสัญญาการเช่า จะมีโอกาสได้รับชดเชยหรือไม่ อีกทั้งผลประโยชน์ที่จะได้รับ หากชาวนาและเกษตรกรถูกหักลบจากค่าเช่าที่ดิน
กระดุมเม็ดที่ 4 เรื่องนวัตกรรมและการแปรรูปสินค้าเกษตร นายพิธา ยกตัวอย่างการใช้กัญชาในฐานะผู้ป่วย เพราะเป็นโรคลมชัก ซึ่งพืชกัญชามีคุณค่ามากกว่ามูลค่าในตัวเอง การที่จะผลักดันกัญชาทางการแพทย์ให้เป็นเบอร์ 1 ของเอเชีย โดยไม่ลักลอบ รัฐบาลต้องให้เรื่องการปลูกกับการแปรรูปอยู่ใกล้กัน เพื่อป้องกันการลักลอบ สุดท้ายกระดุมเม็ดที่ 5 การท่องเที่ยวเชิงเกษตร การที่เกษตรกรจะมาถึงจุดนี้ได้ เกิดจากการปลดล็อกกระดุมทุกเม็ด
วันที่ 26 กรกฎาคม 2562 วันที่สองของการแถลงและอภิปรายนโยบายของรัฐบาล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ได้อภิปรายความคิดเห็นต่อนโยบายด้านการเกษตรของประเทศไทย พร้อมสะท้อนถึงนโยบายที่รัฐบาลแถลง ระบุว่า หลายนโยบาย ไม่มีการวิเคราะห์ปัญหาต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกันเป็นระบบ จึงยากที่จะทำให้นโยบายนั้นสำเร็จได้จริง ปัจจุบันเกษตรกรไทยที่ร่ำรวยลืมตาอ้าปากได้ มีไม่ถึงร้อยละ 1 เท่านั้น
จากนั้น นายพิธา ได้ยกตัวอย่างเรื่องกระดุม 5 เม็ด พร้อมแนะนำรัฐบาลติดกระดุมแก้ปัญหาให้ครบทั้ง 5 เม็ด เพื่อให้ปัญหาทุกอย่างถูกแก้ไขอย่างถูกจุดและยั่งยืน
ภาพจาก สถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา
ที่ดินเป็นปัญหาคอขวดของปัญหาเกษตรกรรมทั้งหมด ที่ดินคือชีวิต ที่ดิน คือสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน เป็นกระดุมเม็ดแรกที่หากแก้ปัญหาถูกจะทำให้แก้ปัญหาได้เช่นกัน เพราะเกษตรกรเหล่านี้ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง และนำไปสู่วงจรหนี้สิน
- คนไทยร้อยละ 75 ไม่มีที่ดินของตนเอง ทำให้ปัจจุบันเกษตรกรต้องเช่าที่ดินเพื่อทำการเกษตรร้อยละ 45
- เมื่อไม่มีที่ดินของตนเอง จึงไม่มีทรัพย์สินค้ำประกันและเข้าไม่ถึงเงินทุน ทำให้ไปต้องกู้เงินนอกระบบ และนำไปสู่วงจรหนี้สิน
- ขอ GAP (Good Agriculture Practices) รับรองก็ไม่ได้ เพราะไม่มีเอกสารสิทธิ์ ทำให้ผลผลิตถูกกดราคา
กระดุมเม็ดที่ 2 การแก้ปัญหาหนี้สิน
- เกษตรกรไทย มีรายได้เฉลี่ยเพียง 4,750 บาทต่อเดือน และเมื่อรายได้ไม่เพียงพอ แถมไม่มีทรัพย์ที่ดินหรือสินค้ำประกันเพื่อกู้เงินในระบบ จึงต้องกู้นอกระบบซึ่งมีดอกเบี้ยสูง
- เมื่อเกษตรกรเข้าอยู่ในวงจรหนี้สิน จดจ่อต่อการใช้หนี้ ทำให้ต้องการความแน่นอนในผลผลิต
- เกษตรกรจึงทำการเกษตรด้วยวิธีการเดิม ๆ ปลูกพืชเดิม ๆ ไม่มีการปลูกพืชหมุนเวียน
- และด้วยความที่ต้องมุ่งมั่นหาเงินใช้หนี้ จึงจำเป็นต้องใช้สารเคมีเยอะเพื่อให้ได้ผลผลิตที่แน่นอนและมีคุณภาพ แต่ก็มีปัจจัยเรื่องการกดดันราคาสารเคมีเกษตร
กระดุมเม็ดที่ 3 การประกันราคาพืชผล และการใช้ยาฆ่าแมลง
- เมื่อเกษตรกรใช้สารเคมีเยอะ จะทำให้ผลผลิตถูกกดราคา
- ทำให้ต้นการผลิตสูง แต่กลับรายได้ต่ำ
- ในขณะที่นโยบายประกันราคามีจุดอ่อน เพราะเจ้าของที่ดินจะขอขึ้นค่าเช่า เมื่อทราบว่าเกษตรกรได้เงินเพิ่มจากนโยบายรัฐบาล
กระดุมเม็ดที่ 4 การแปรรูปสินค้าด้วยนวัตกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่า
- เมื่อเกษตรกรมีต้นทุนการผลิตสูง แต่ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทำให้ไม่สามารถเก็บออมเงินได้
- เมื่อไม่มีเงินออม ไม่มีเงินลงทุน เกษตรกรจึงไม่สามารถเข้าถึงการแปรรูป และการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้
- ทำให้เกษตรกรไปไม่ถึงโอกาสใหม่ ๆ ในการพัฒนาตัวเอง ไม่สามารถแปรรูปผลิตภัณฑ์ให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ไม่สามารถให้บริการด้านการท่องเที่ยวเชิงเกษตร
กระดุมเม็ดที่ 5 การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร
- เกษตรกรไม่สามารถทำการท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้ เพราะไม่มีที่ดินและติดข้อจำกัดด้านกฎหมาย จึงเป็นวงจรวนเวียนไปสู่กระดุมเม็ดที่ 1 เรื่องที่ดิน วนเวียนแบบนี้เรื่อยไป
โดยนายพิธา ได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินของเกษตรกร ระบุว่า เมื่อประเทศไทยมีเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเปิดให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ เหตุใดจึงไม่มีเขตเศรษฐกิจของประชาชนไทยด้วยกัน เป็นเขตสังคมพิเศษ เริ่มจากการยุติข้อพิพาทระหว่างรัฐและประชาชน ที่ต้องการมีที่ดินอยู่อาศัยและที่ทำกิน หรือเพิ่มบทเฉพาะกาลให้ประชาชนอาศัยอยู่ได้ ด้วยการรับรองสิทธิชุมชน ให้มีไฟฟ้าและประปาใช้
ส่วนข้อเสนอแก้ปัญหากระดุมเม็ดที่ 2 นายพิธา เสนอให้ใช้ระบบการสร้างเครดิตทางเลือก หรือ Alternative Credit Scoring ซึ่งเป็นวิธีการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ที่โลกดิจิทัลช่วยได้ ซึ่งทั้ง 2 เรื่องมีความเกี่ยวเนื่องกัน หากเกษตรกรยังอยู่ในวงจรหนี้ จดจ่อต้องจ่ายหนี้ให้ได้ ก็ไม่กล้าเสี่ยงทำการเกษตรด้วยวิธีอื่น
ส่วนกระดุมเม็ดที่ 3 นายพิธา ยกตัวอย่างประเทศจีน ที่ใช้นโยบายกรีนไชน่า ลดการใช้สารเคมีเกษตรร้อยละ 10 มีการตั้งสถาบันชีวภาพ สนับสนุนการใช้ยาสมุนไพร แต่ประเทศไทยกลับนำเข้าสารเคมีจากจีนมากที่สุด รวมถึงนโยบายแก้ปัญหาเกษตรกรด้วยมาตรการระยะสั้นของรัฐบาล อย่างนโยบายประกันราคา นายพิธาบอกว่าส่วนตัวไม่ขัดข้อง แต่ฝากเรื่องคอร์รัปชัน การสวมสิทธิ์ และความเหลื่อมล้ำด้านการชดเชยราคา หากเกษตรกรและชาวนาที่เช่านาไม่มีสัญญาการเช่า จะมีโอกาสได้รับชดเชยหรือไม่ อีกทั้งผลประโยชน์ที่จะได้รับ หากชาวนาและเกษตรกรถูกหักลบจากค่าเช่าที่ดิน
กระดุมเม็ดที่ 4 เรื่องนวัตกรรมและการแปรรูปสินค้าเกษตร นายพิธา ยกตัวอย่างการใช้กัญชาในฐานะผู้ป่วย เพราะเป็นโรคลมชัก ซึ่งพืชกัญชามีคุณค่ามากกว่ามูลค่าในตัวเอง การที่จะผลักดันกัญชาทางการแพทย์ให้เป็นเบอร์ 1 ของเอเชีย โดยไม่ลักลอบ รัฐบาลต้องให้เรื่องการปลูกกับการแปรรูปอยู่ใกล้กัน เพื่อป้องกันการลักลอบ สุดท้ายกระดุมเม็ดที่ 5 การท่องเที่ยวเชิงเกษตร การที่เกษตรกรจะมาถึงจุดนี้ได้ เกิดจากการปลดล็อกกระดุมทุกเม็ด