สาวเจ้าของบัญชีรับโอนเงินจาก เสี่ยตั้ม สายเปย์ เข้าพบตำรวจกองปราบฯ แสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดี ขิม หลอกโอนเงิน ยอมรับให้เพื่อนยืมชื่อไปเปิดบัญชีธนาคาร
![หลอกโอนเงิน]( "หลอกโอนเงิน")
วันที่ 27 กรกฎาคม 2562 สำนักข่าวไทย รายงานว่า 1 ใน 4 เจ้าของบัญชีธนาคารที่ เสี่ยตั้ม แจ้งความจับนั้น ได้เข้าพบตำรวจกอบปราบปราม เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว แต่ยอมรับว่าให้เพื่อนสนิทยืมชื่อไปเปิดบัญชีธนาคาร
โดย
นางสาวนินนิสา สิงห์ทอง อายุ 34 ปี
ได้ลงบันทึกประจำวันแสดงความบริสุทธิ์ใจหลังตกเป็นผู้ต้องสงสัย ยอมรับว่า 1
ใน 4 บัญชีธนาคารที่ผู้เสียหายโอนเงินไป เป็นชื่อเก่าของตน คือ
นางสาวนันท์ธนะดี ภักดีสิงห์ทอง โดยมีเพื่อนสาวชื่อ ขิม
ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย
ขอยืมใช้ชื่อไปเปิดบัญชีดังกล่าว พร้อมชักชวนให้ร่วมลงทุน
ทำธุรกิจรับตกแต่งสวนกันตั้งแต่เมื่อปี 2558 แต่ขณะนั้นยังมีเงินไม่เพียงพอ
จึงให้เพียงชื่อไปเปิดบัญชี และให้บัตรเอทีเอ็มกับขิมไปด้วย ตั้งใจไว้ว่าหากมีเงินเพียงพอ จะเข้าร่วมธุรกิจด้วยภายหลัง ก่อนที่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
จะเปลี่ยนเป็นชื่อปัจจุบัน
![หลอกโอนเงิน]( "หลอกโอนเงิน")
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
จากกรณีที่ เสี่ยตั้ม สายเปย์ เข้าแจ้งความว่า
ถูกผู้หญิงคนหนึ่ง เอารูปของน้องขิม ซึ่งเป็นนางเอกมิวสิกวิดีโอ มาหลอกลวงนานถึง 4 ปี ทำให้เสี่ยตั้มสูญเงินไปกว่า 7 ล้าน
ก่อนมาพบความจริงว่า น้องขิมที่ตนเองคุยด้วยนั้น ไม่ตรงปกแต่อย่างใด
ซึ่งได้โอนเงินให้ 262 ครั้ง จำนวนน้อยสุด 1,000 บาท มากสุด 100,000 บาท
จนเป็นเงินกว่า 7 ล้านบาท นอกจากนี้พบว่าฝ่ายหญิงมีลูกและสามีแล้วด้วยนั้น (อ่านข่าว : แฉสาวเอารูป ขิม หลอกเสี่ยได้เงิน 7 ล้าน - หลอกดาวน์เรือนหอ
พบมีลูกมีผัวแล้ว)
วันที่ 27 กรกฎาคม 2562 สำนักข่าวไทย รายงานว่า 1 ใน 4 เจ้าของบัญชีธนาคารที่ เสี่ยตั้ม แจ้งความจับนั้น ได้เข้าพบตำรวจกอบปราบปราม เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว แต่ยอมรับว่าให้เพื่อนสนิทยืมชื่อไปเปิดบัญชีธนาคาร
หลังจากปี 2558 ก็ติดต่อกับขิมคนนี้มาโดยตลอด และเพื่อนไม่ได้มีท่าทีพิรุธใด ๆ
ตรงกันข้ามกลับโพสต์เฟซบุ๊กใช้ชีวิตสุขสบาย
จนไม่น่าเชื่อว่าจะมีปัญหาด้านการเงิน กระทั่งเมื่อวานนี้ (26 กรกฎาคม)
เห็นข่าวว่าเสี่ยตั้มถูกหญิงสาวหลอกให้โอนเงินซึ่งเป็นชื่อเก่าของตน ทำให้ตกใจมาก ตนไม่เคยยุ่งเกี่ยวหรือได้เงินใด ๆ จากบัญชีนั้น
แต่กลับตกเป็นผู้ต้องสงสัยทางคดี ยอมรับว่าไม่มีหลักฐานใดมาแสดงต่อตำรวจ
เพราะเรื่องเกิดมานานหลายปีแล้ว หลังจากนี้จะไปขอข้อมูลบัญชีกับธนาคาร
เพื่อมายื่นให้ตำรวจเพิ่มเติม
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
ทั้งนี้ หลังเกิดเรื่อง นางสาวนินนิสาได้พยายามติดต่อไปถาม ขิม เพื่อนสนิท แต่กลับติดต่อไม่ได้
และบ่ายเบี่ยงไม่ตอบคำถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ยอมรับว่าเริ่มเอะใจและกลัวว่าเพื่อนจะเกี่ยวข้องกับการหลอกเสี่ยตั้มจริง ๆ
เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอุทาหรณ์ และบทเรียนครั้งสำคัญว่าไม่ควรไว้ใจใคร
แม้กระทั่งคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทก็ตาม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
