การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคชี้แจงเพิ่มเติม ปมเดินสายเคเบิลโบราณสถาน วัดไชยวัฒนาราม ยืนยันไม่ใช่พื้นที่กำแพงอายุเก่าแก่กว่า 300 ปี ชี้หากดำเนินการเสร็จจะคืนสภาพให้สมบูรณ์ดังเดิม
จากกรณีดราม่า ขุดเจาะวางแนวสายเคเบิลใต้ดินในพื้นที่โบราณสถานของ วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่าเหตุใดต้องรื้อแนวกำแพงอิฐที่มีอายุเก่าแก่กว่า 300 ปี ซึ่งนักโบราณคดีก็ได้ออกมาชี้แจงว่า ส่วนที่รื้อออกไป เป็นกำแพงที่เพิ่งก่อบูรณะ อายุไม่เกิน 30 ปี ซึ่งไม่กระทบกับหลักฐานเดิมนั้น
อ่านข่าว : นักโบราณคดี แจงดราม่า เดินสายเคเบิลวัดไชยวัฒนาราม ไม่ได้ทำลายโบราณสถาน
ล่าสุด (20 สิงหาคม 2562) เฟซบุ๊ก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 1 ภาคกลาง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้โพสต์จดหมายชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ระบุว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในฐานะคู่สัญญา ผู้ได้รับการว่าจ้างจากกรมศิลปากรในการก่อสร้างโครงการประดับไฟโบราณสถาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการท่องเที่ยวในยามค่ำคืน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีจำนวนทั้งสิ้น 9 วัด
โดยได้รับการว่าจ้างให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2561 กำหนดแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2562 ภายใต้การควบคุมการทำงานร่วมกันของเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร นักโบราณคดี และผู้ควบคุมงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งในจุดที่มีปัญหาเกิดขึ้นเป็นจุดกำแพงที่เพิ่งผ่านการบูรณะขึ้นมาใหม่ ไม่ใช่กำแพงอายุเก่าแก่กว่า 300 ปี และจุดดังกล่าวจะต้องมีท่อสายไฟฟ้าลอดผ่าน อีกทั้งมีความจำเป็นที่ต้องใช้เครื่องจักรกลตัดผ่าน เพื่อวางระบบในบริเวณกำแพงดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ได้มีการขออนุญาตจากทางกรมศิลปากรในจุดที่มีแนวกำแพงระดับต่ำที่สุด เพื่อจะได้ส่งผลกระทบต่อโบราณสถานให้น้อยที่สุด ตามแผนงานก่อสร้างของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หลังจากได้ทำการขุดวางเคเบิลใต้ดินแล้วเสร็จ จะทำการคืนสภาพหน้างานให้มีสภาพสมบูรณ์ดังเดิมด้วยวัสดุใหม่ที่เป็นชนิดเดียวกัน
ทั้งนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและกรมศิลปากร ได้ตระหนักถึงความสำคัญของโบราณสถานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทยดังนั้นการดำเนินงานก่อสร้างโครงการดังกล่าวที่จะดำเนินการต่อไปให้แล้วเสร็จนั้น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและกรมศิลปากร จะหามาตรการควบคุมดูแลการก่อสร้างที่จะลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
เฟซบุ๊ก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 1 ภาคกลาง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จากกรณีดราม่า ขุดเจาะวางแนวสายเคเบิลใต้ดินในพื้นที่โบราณสถานของ วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่าเหตุใดต้องรื้อแนวกำแพงอิฐที่มีอายุเก่าแก่กว่า 300 ปี ซึ่งนักโบราณคดีก็ได้ออกมาชี้แจงว่า ส่วนที่รื้อออกไป เป็นกำแพงที่เพิ่งก่อบูรณะ อายุไม่เกิน 30 ปี ซึ่งไม่กระทบกับหลักฐานเดิมนั้น
อ่านข่าว : นักโบราณคดี แจงดราม่า เดินสายเคเบิลวัดไชยวัฒนาราม ไม่ได้ทำลายโบราณสถาน
ล่าสุด (20 สิงหาคม 2562) เฟซบุ๊ก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 1 ภาคกลาง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้โพสต์จดหมายชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ระบุว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในฐานะคู่สัญญา ผู้ได้รับการว่าจ้างจากกรมศิลปากรในการก่อสร้างโครงการประดับไฟโบราณสถาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการท่องเที่ยวในยามค่ำคืน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีจำนวนทั้งสิ้น 9 วัด
โดยได้รับการว่าจ้างให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2561 กำหนดแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2562 ภายใต้การควบคุมการทำงานร่วมกันของเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร นักโบราณคดี และผู้ควบคุมงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งในจุดที่มีปัญหาเกิดขึ้นเป็นจุดกำแพงที่เพิ่งผ่านการบูรณะขึ้นมาใหม่ ไม่ใช่กำแพงอายุเก่าแก่กว่า 300 ปี และจุดดังกล่าวจะต้องมีท่อสายไฟฟ้าลอดผ่าน อีกทั้งมีความจำเป็นที่ต้องใช้เครื่องจักรกลตัดผ่าน เพื่อวางระบบในบริเวณกำแพงดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ได้มีการขออนุญาตจากทางกรมศิลปากรในจุดที่มีแนวกำแพงระดับต่ำที่สุด เพื่อจะได้ส่งผลกระทบต่อโบราณสถานให้น้อยที่สุด ตามแผนงานก่อสร้างของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หลังจากได้ทำการขุดวางเคเบิลใต้ดินแล้วเสร็จ จะทำการคืนสภาพหน้างานให้มีสภาพสมบูรณ์ดังเดิมด้วยวัสดุใหม่ที่เป็นชนิดเดียวกัน
ทั้งนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและกรมศิลปากร ได้ตระหนักถึงความสำคัญของโบราณสถานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทยดังนั้นการดำเนินงานก่อสร้างโครงการดังกล่าวที่จะดำเนินการต่อไปให้แล้วเสร็จนั้น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและกรมศิลปากร จะหามาตรการควบคุมดูแลการก่อสร้างที่จะลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
เฟซบุ๊ก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 1 ภาคกลาง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
