รู้หรือไม่ การนอนไม่พอส่งผลเสียกว่าที่คิด อาจทำให้เราหงุดหงิดง่ายขึ้นโดยไม่รู้ตัว ผลการวิจัยยัน นอนไม่พอทำให้เกิดอารมณ์โกรธได้มากขึ้น

ในขณะที่การพักผ่อนให้เพียงพอนั้น ถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการดูแลสุขภาพของเรา แต่ด้วยสภาพการทำงาน ความเครียด หรือแม้กระทั่งกิจวัตรประจำวันหลายอย่าง ทำให้เราไม่อาจนอนหลับได้อย่างเพียงพอในแต่ละคืน อย่างไรก็ตามรู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมการนอนเช่นนั้นอาจส่งผลเสียต่อตัวเรามากกว่าที่คิด เพราะนอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพกายแล้ว ยังอาจทำให้เรากลายเป็นคนใจร้อน ขี้หงุดหงิดง่ายขึ้่นโดยไม่รู้ตัว
โดยงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยไอโอวา สหรัฐฯ เมื่อช่วงปลายปี 2561 โดย ซลาทาน คริซาน ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยา ที่ได้รับการตีพิมพ์ลงวารสาร Journal of Experimental Psychology: General ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการนอนไม่พอนั้นส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของคนเราจริง ๆ
ศาสตราจารย์คริซาน เผยว่า งานวิจัยชิ้นอื่น ๆ เผยให้เห็นแล้วว่ามีความเชื่อมโยงกันระหว่างการนอนไม่พอกับความฉุนเฉียว ดังนั้น เขาจึงได้ทำการทดลองขึ้นเพื่อจะตอบคำถามว่า เราจะสามารถโทษการนอนไม่พอ ให้เป็นสาเหตุของอารมณ์ฉุนเฉียวที่เกิดขึ้นได้หรือไม่
โดยในการทดลองนี้ได้แบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกจะเป็นผู้ที่นอนหลับอย่างเพียงพอในตอนกลางคืน คือเฉลี่ยคืนละ 7 ชั่วโมง ส่วนกลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่นอนไม่พอ มีเวลานอนเพียง 4 ชั่วโมงครึ่ง เป็นเวลา 2 คืน จากนั้นให้คนจากทั้ง 2 กลุ่มมาทำการให้คะแนนสินค้าผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
การวิจัยยังสะท้อนให้เห็นว่า คนที่นอนพอจะมีความหงุดหงิดในระดับต่ำกว่า และมีแนวโน้มจะปรับตัวให้คุ้นชินกับเสียงรบกวนได้มากกว่า มีแนวโน้มที่อารมณ์โกรธและขุ่นมัวจะลดลง หากต้องเจอกับเสียงรบกวนเหล่านี้เป็นรอบที่ 2 ในขณะที่กลุ่มคนนอนไม่พอ ไม่เพียงแต่จะโกรธมากขึ้น แต่พวกเขาจะตอบสนองกับเสียงรบกวนเหล่านี้มากขึ้น ชี้ให้เห็นว่าการนอนไม่พอกลายเป็นอุปสรรคต่อการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่มีเรื่องรบกวนจิตใจ
ทั้งนี้ เป็นที่ยอมรับแล้วว่าการนอนไม่พอ จะทำให้อารมณ์ด้านลบเพิ่มมากขึ้น เช่น การวิตกกังวล ความเศร้า และทำให้อารมณ์ด้านบวกอย่างความสุข ความกระตือรือร้น ถูกลดทอนลง ดังนั้น เพื่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี ควรทำให้มั่นใจว่าเราจะได้พักผ่อนกันอย่างเพียงพอในแต่ละคืน ก่อนจะกลายมาเป็นคนหัวร้อนขี้หงุดหงิดไปโดยไม่รู้ตัว






