เปิดวินาที บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ คุยโทรศัพท์กับ เบส สาวที่ปลอมบัญชีเพื่อขอรับบริจาคน้ำท่วม ซักต้อนจนจนมุม ขู่ถ้าพูดความจริงตอนนี้ จะไม่มีการเอาความ จนต้องยอมรับว่าเอาไป
![บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์]( "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์")
ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก ข่าวนกกระจอก ได้เผยคลิปของ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่พูดคุยกับ ทราย และเบส สองพี่น้องที่เป็นผู้สมอ้างบัญชีดังกล่าว โดยที่ตอนแรกนั้นทรายปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ แต่ยอมรับว่าบัญชีเป็นของตนเอง จนบิณฑ์ถึงกับถามว่า ถ้าคนอื่นทำจริง แล้วเขาจะใช้บัญชีของทรายทำไม ถ้าคนอื่นทำจริงก็ต้องเอาเงินเข้าบัญชีคนอื่นสิ
![บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์]( "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์")
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ข่าวนกกระจอก
![บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์]( "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์")
ด้าน เบส น้องสาว ได้เข้ามาคุยและบอกว่า ตนยืนยันว่าตนไม่ได้ทำ มีคนเอารูปมาโพสต์ แต่บิณฑ์ก็ไม่เชื่อ จนบิณฑ์บอกว่า ตนไม่พูดแล้วกับทั้ง 2 คน ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายต่อไป ตนจะไม่ช่วย ไม่อะไรทั้งนั้น หนูจะติดคุกก็ปล่อยไปตามกรรม แต่ถ้าพูดความจริงตอนนี้ จะคุยกับเจ้าหน้าที่ให้ จะให้โอกาสครั้งนี้ครั้งเดียว
จากนั้นจึงมีเสียงในโทรศัพท์ออกมาว่า "ยอมรับก็ได้ค่ะ" แต่บิณฑ์ก็ยังไม่พอใจ มองว่าเหมือนเป็นการบังคับ ทำให้คนในสาย (คาดว่าเป็นเบส) ออกมาบอกว่า "หนูยอมรับว่าหนูทำจริง หนูจะโอนตังค์คืนให้ หนูจะกลับตัวใหม่ ตกลงว่าหนูทำจริงค่ะ" โดยบิณฑ์ให้ลงหน้าเฟซบุ๊กว่าขอโทษ และโอนเงินทุกบาททุกสตางค์ให้บิณฑ์ แล้วบิณฑ์จะไม่เอาโทษ พร้อมกล่าวว่า อนาคตหนูขึ้นอยู่กับหนู ต้องทำตัวดี ๆ ทั้งนี้ ยอดเงินนั้นอยู่ที่ประมาณ 4,000-5,000 บาท
![บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์]( "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์")
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ข่าวนกกระจอก
จากกรณีที่สาวคนหนึ่งสมอ้างรูป บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เพื่อขอรับบริจาคเข้าบัญชีตัวเอง ซึ่งเธอได้ให้สัมภาษณ์กลางรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ และยืนยันว่าไม่ได้เอาเงินไป แต่กลายเป็นว่าเกิดการจับโป๊ะกลางรายการ เพราะมีการหลุดออกมาว่าบัญชีที่อยู่ในรูปนั้น คือบัญชีของพี่สาว
อ่านเพิ่มเติม : ส่อโป๊ะแตก สาวแชร์บัญชีสมอ้าง บิณฑ์ อ้างไม่ได้ทำ แต่ยอมรับ เลขบัญชีเป็นของพี่สาว
อ่านเพิ่มเติม : ส่อโป๊ะแตก สาวแชร์บัญชีสมอ้าง บิณฑ์ อ้างไม่ได้ทำ แต่ยอมรับ เลขบัญชีเป็นของพี่สาว
ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก ข่าวนกกระจอก ได้เผยคลิปของ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่พูดคุยกับ ทราย และเบส สองพี่น้องที่เป็นผู้สมอ้างบัญชีดังกล่าว โดยที่ตอนแรกนั้นทรายปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ แต่ยอมรับว่าบัญชีเป็นของตนเอง จนบิณฑ์ถึงกับถามว่า ถ้าคนอื่นทำจริง แล้วเขาจะใช้บัญชีของทรายทำไม ถ้าคนอื่นทำจริงก็ต้องเอาเงินเข้าบัญชีคนอื่นสิ
ทรายก็ตอบว่า เอทีเอ็มไม่ได้อยู่กับตน แต่อยู่กับเบส ทำให้บิณฑ์ตอบกลับว่า ถ้าอย่างนั้นทั้ง 2 คนคงสมรู้ร่วมคิดกันแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าไม่ยอมรับ ปากแข็งแบบนี้ ตนก็จะดำเนินการตามกฎหมาย แต่ถ้ายอมรับ ก็แค่เอาเงินมาคืน แล้วตนจะไม่เอาความ
ทราย บอกว่า ตนอยากให้เรื่องจบเท่านั้น บิณฑ์ จึงบอกว่า ถ้าหนูไม่ได้ทำแล้วใครทำ บัตรเอทีเอ็มอยู่กับคนโพสต์ ก็แสดงว่าคนโพสต์รู้เห็น ถ้ากล้าทำก็ต้องกล้ารับ ไม่ต้องอาย แล้วไปปรับปรุงตัวใหม่ คนที่อายคือคนที่ทำแล้วไม่ยอมรับ และเรื่องไม่จบหรอก ถ้าหนูไม่ยอมรับ มันเป็นไปไม่ได้
จากนั้นจึงมีเสียงในโทรศัพท์ออกมาว่า "ยอมรับก็ได้ค่ะ" แต่บิณฑ์ก็ยังไม่พอใจ มองว่าเหมือนเป็นการบังคับ ทำให้คนในสาย (คาดว่าเป็นเบส) ออกมาบอกว่า "หนูยอมรับว่าหนูทำจริง หนูจะโอนตังค์คืนให้ หนูจะกลับตัวใหม่ ตกลงว่าหนูทำจริงค่ะ" โดยบิณฑ์ให้ลงหน้าเฟซบุ๊กว่าขอโทษ และโอนเงินทุกบาททุกสตางค์ให้บิณฑ์ แล้วบิณฑ์จะไม่เอาโทษ พร้อมกล่าวว่า อนาคตหนูขึ้นอยู่กับหนู ต้องทำตัวดี ๆ ทั้งนี้ ยอดเงินนั้นอยู่ที่ประมาณ 4,000-5,000 บาท
