อธิบดีดีเอสไอ เผยเร่งเทียบผล บินสำรวจเส้นทางแก่งกระจาน กับคำให้การปิดช่องโหว่คดี บิลลี่ พอละจี แหล่งข่าวเผยเล็งฟันโทษไล่ออก ทีมเจ้าหน้าที่ชุดคุมตัว
อ่านข่าว : รมว.ยุติธรรม มอบเงินเยียวยา เมียบิลลี่ พอละจี 1.4 แสน เก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้ลูก
คืบหน้าวันที่ 7 ตุลาคม 2562 สปริงนิวส์ รายงานว่า พ.ต.อ. ไพสิฐ
วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้าคดีฆาตกรรมนายพอละจี
รักจงเจริญ ว่า
ดีเอสไอมีความจำเป็นที่ต้องพิสูจน์ทราบเส้นทางเข้า-ออกทุกจุดภายในอุทยานแก่งกระจาน
เพื่อนำมาตรวจสอบเปรียบเทียบกับคำให้การของพยานว่าในแต่ละจุดเกิดเหตุ
ในช่วงเวลาต่าง ๆ ตรงกับข้อเท็จจริงในคำให้การหรือไม่
เนื่องจากข้อเท็จจริงในทุกจุดจะถูกหยิบมาเป็นประเด็นต่อสู้ในทางคดีได้ทั้งหมด
แม้ว่าขณะนี้จะทราบผลพิสูจน์ว่าเจ้าของชิ้นส่วนกระดูกมีดีเอ็นเอไมโทรคอนเดรียตรงกับนางโพเราะจี
รักจงเจริญ แม่ของบิลลี่
แต่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ต้องการตรวจพิสูจน์ให้ได้ผลชัดเจน
เพื่อระบุตัวตนของผู้ตายให้ได้
เพื่อไม่ให้คดีมีช่องโหว่ให้ผู้ต้องหานำไปใช้ต่อสู้ว่าเจ้าของกระดูกอาจเป็นเครือญาติของบิลลี่
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า สำหรับพยาน 20 ปากที่พนักงานสอบสวนกำหนดให้เรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติม เป็นพยานในส่วนของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนในพื้นที่เกิดเหตุ แพทย์นิติเวช และพนักงานสอบสวนชุดต่าง ๆ ที่ต้องให้การยืนยันในสำนวนก่อนขึ้นเป็นพยานในชั้นศาล
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
จากกรณีที่ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่
แกนนำกะเหรี่ยงบางกลอย-โป่งลึก หายตัวไปอย่างลึกลับ เมื่อวันที่ 17 เมษายน
2557 หลังถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
ควบคุมตัวไปในข้อหาครอบครองน้ำผึ้งป่า
ซึ่งต่อมาทางดีเอสไอได้แถลงพบหลักฐานชี้ชัดว่า บิลลี่ เสียชีวิตแล้ว
จากกระดูกในถังน้ำมัน บริเวณสะพานแขวน ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
จึงคาดว่าจะถูกฆาตกรรมยัดถัง ก่อนเผาอำพรางคดี
และเตรียมเปลี่ยนสำนวนคดีเป็นคดีฆาตกรรม เดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐาน
เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ
อ่านข่าว : รมว.ยุติธรรม มอบเงินเยียวยา เมียบิลลี่ พอละจี 1.4 แสน เก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้ลูก
อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอยังไม่สามารถสรุปสำนวนการสอบสวนได้ในทันที
โดยจะต้องนำข้อมูลที่ได้มาประกอบกับการจำลองเหตุฆาตกรรมภาคพื้นดิน
และยังต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ชิ้นส่วนกระดูกอีก 8 ชิ้น
ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า สำหรับพยาน 20 ปากที่พนักงานสอบสวนกำหนดให้เรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติม เป็นพยานในส่วนของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนในพื้นที่เกิดเหตุ แพทย์นิติเวช และพนักงานสอบสวนชุดต่าง ๆ ที่ต้องให้การยืนยันในสำนวนก่อนขึ้นเป็นพยานในชั้นศาล
รวมถึง พ.ต.ท. สิริพงษ์ ศรีตุลา ผอ.สำนักปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2
ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีเจ้าหน้าที่อุทยาน กับพวก กระทำความผิดฐานทุจริต หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
ไม่เปรียบเทียบปรับ และไม่นำตัวบิลลี่
ซึ่งกระทำความผิดฐานลักลอบเก็บน้ำผึ้งป่า ส่งให้พนักงานสอบสวน
สภ.แก่งกระจาน เนื่องจากมีสาเหตุโกรธเคืองบิลลี่มาก่อน
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก