นายทหารหนุ่มถูกยกเป็นฮีโร่ หลังยอมสละขาตัวเอง มุ่งช่วยชีวิตเพื่อน ๆ จากสถานการณ์ฉุกเฉิน เผยรู้ดีแก่ใจ ว่าการถอยคือความตาย จนสุดท้ายก็ช่วยให้รอดมาได้กันทุกคน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ezra Maes
วันที่ 20 ตุลาคม 2562 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า เอซร่า เมซ นายทหารหนุ่มวัย 21 ปี ได้รับการยกย่องให้เป็นวีรบุรุษของกองทัพสหรัฐฯ หลังจากที่เขายอมสละขาของตนเอง และพยายามดิ้นรนทุกอย่างเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนร่วมทีมของพวกเขา ให้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นระหว่างการฝึกซ้อม
ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว เอซร่า เมซ ได้ถูกส่งไปประจำการในประเทศโปแลนด์ ในส่วนหนึ่งของปฏิบัติการนาโต ระหว่างนั้นเขาได้เข้าร่วมการฝึกซ้อมแบบข้ามคืนกับเพื่อนร่วมทีมอีก 2 คน โดยต้องอยู่ประจำตำแหน่งภายในรถถัง แต่แล้วตอนที่ทั้ง 3 คนกำลังหลับอยู่นั้นเอง อยู่ ๆ เมซก็สะดุ้งตื่นเมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนอย่างหนัก และรับรู้ว่ารถถังของพวกเขากำลังพุ่งลงจากเนินเขาด้วยความเร็ว
ตอนนั้นเมซรีบตะโกนบอกเพื่อนที่ประจำอยู่ตำแหน่งพลขับรถถังให้ทำการเบรก แต่กลับได้ทราบว่าเบรกนั้นไม่ทำงาน รวมถึงระบบเบรกฉุกเฉินก็ไม่ตอบสนองเช่นกัน ทำให้พวกเขาไม่สามารถทำอะไรเพื่อหยุดรถถังหนัก 65 ตัน จากการพุ่งลงไปยังพื้นเบื้องล่างได้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ezra Maes
โดยตอนนั้น วิกเตอร์ อลาโม ซึ่งเป็นคนขับรถถังถูกตรึงอยู่กับที่ หัวของเขากระแทกและได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ สิบเอกหญิง เอเชียร์ ครัมป์ กระดูกขาเคลื่อนและมีเลือดทะลักออกจากแผลลึกตรงต้นขา เมซรู้ว่าหลอดเลือดแดงของเพื่อนฉีกขาด ดังนั้นด้วยความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม เมซรีบบิดตัวและพยายามจะดึงขาของตัวเองออกมาอย่างเต็มแรง เขาหวังว่าขาจะหลุดออกมาจากเหล็กที่บีบรัดอยู่
"แต่ผมกลับรู้สึกถึงแรงฉีกอย่างรุนแรง ตอนนั้นผมคิดว่าดึงขาออกมาได้แล้ว แต่หลังเคลื่อนออกจากจุดนั้น ก็พบว่าขาของผมหายไปแล้ว" เมซ เผยถึงช่วงเวลาที่เขาทำให้ขาตัวเองขาด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ezra Maes
ตอนนั้นเมซได้แต่คิดว่า เขาจะทำต่อไป หรือจะปล่อยให้ทุกคนต้องตาย เขาพยายามบอกให้เพื่อน ๆ โฟกัสกับการหายใจ และให้พวกเขานำเข็มขัดออกมามัดห้ามเลือดชั่วคราว
ในตอนนั้นระบบวิทยุของรถถังได้รับความเสียหาย และโทรศัพท์มือถือของพวกเขาก็พังไป ยกเว้นเพียงเครื่องของเมซ ที่อยู่ ๆ ก็เริ่มมีเสียงดังออกมาราวปาฏิหาริย์ สิบเอกหญิง ครัมป์ รีบคลานเข้าไปคว้าโทรศัพท์มือถือเครื่องนี้โยนให้เมซ เพื่อให้เขาส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือ
ความพยายามของพวกเขาประสบผลสำเร็จ ในที่สุดความช่วยเหลือก็มาถึง อย่างไรก็ตามด้วยสติที่เริ่มจะหายไป สิ่งสุดท้ายที่เมซจำได้ก็คือภาพของผู้บัญชาการ ที่กำลังแบกขาของเขาไว้บนไหล่ ขณะกลับขึ้นไปบนเขา และบอกกับเมซว่า "ผมอยากเก็บมันไปด้วย ลองดูนะว่าจะต่อมันกลับไปได้ไหม"
จากนั้นทหารทั้ง 3 นายก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แพทย์พบว่านอกจากขาที่ขาดออกไป ซึ่งได้รับความเสียหายจนไม่สามารถต่อกลับคืนให้เขาได้แล้ว เมซยังมีกระดูกหักอีกหลายแห่ง นอกจากนี้เขายังเกิดการติดเชื้อ ทำให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดช่วยชีวิตรายวัน และต้องใช้เวลาอยู่ในห้องไอซียูนานถึง 4 เดือน
สิบเอกหญิง เอเชียร์ ครัมป์, พลทหาร เอซร่า เมซ และพลทหาร วิกเตอร์ อลาโม ที่รอดชีวิตมาด้วยกัน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ezra Maes
อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านพ้นเรื่องดังกล่าวมาได้ เมซก็ยอมรับว่าพวกเขาโชคดีมาก ทุกวันที่เขาตื่นขึ้นมาจากนั้น เขายังคงจดจำได้เสมอว่าตัวเองเคยเฉียดใกล้ความตายมาแล้ว แต่เขาก็รอดชีวิตมาได้ สิ่งที่เหลือตอนนี้ก็มีเพียงต้องก้าวต่อไป พร้อมกับบาดแผลที่เกิดขึ้นเท่านั้น