พบบัญชี เศรษฐินีถูกฆ่ายัดตู้เย็น มีเงินกว่า 50 ล้าน คนร้ายตระเวนกดไปแล้ว 1.2 ล้าน พบขโมยรถ BMW X1 ของผู้ตาย ขับวนแถว มช.
อ่านข่าว : เปิดคดีโหด เศรษฐีสายบุญถูกฆ่าโบกปูนยัดตู้เย็น - พบบริจาคเงินให้วัดกว่า 10 ล้าน
ขณะที่ ข่าวช่องวัน รายงานเพิ่มเติมว่า จากการสืบสวนพบว่าคนร้ายนำบัตร ATM
ของผู้ตายไปกดเงินครั้งละ 1-2 แสนบาท รวมแล้ว 1.2 ล้านบาท และยังพบรถ BMW
รุ่น X1 ทะเบียน 9 กจ-3769 กทม. ของผู้ตาย
ขับวนเวียนย่านมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งลงพื้นที่ติดตามแล้ว
เว็บไซต์ข่าวช่อง 3 รายงานด้วยว่า เพื่อนบ้านผู้ตาย เผยว่า ผู้ตายเพิ่งมาซื้อตึกแถวที่เกิดเหตุ ราคา 4 ล้านบาท เมื่อ 4 เดือนก่อน พบว่าเป็นคนมีโลกส่วนตัว ไม่สุงสิงกับใคร ปกติเข้า-ออกบ้านคนเดียว ช่วงบ่ายจะขับรถ BMW สีขาว ไปวัด ก่อนจะหายไปกว่า 10 วัน จนกระทั่งพบศพ
![เศรษฐีนีถูกฆ่ายัดตู้เย็น เศรษฐีนีถูกฆ่ายัดตู้เย็น]()
ภาพจาก เว็บไซต์ข่าวช่อง 3
จากกรณีพบศพ น.ส.วรรณี จิรเจริญยิ่ง เศรษฐินีชาวสมุทรปราการ
ในอาคารพาณิชย์ ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
ซึ่งเป็นบ้านที่ผู้ตายพักระหว่างเดินทางมาปฏิบัติธรรมที่วัดในพื้นที่ได้ราว
1 ปี โดยสภาพศพถูกฆ่ายัดตู้เย็น พบว่าเสียชีวิตมาแล้วราว 2 สัปดาห์นั้น
อ่านข่าว : เปิดคดีโหด เศรษฐีสายบุญถูกฆ่าโบกปูนยัดตู้เย็น - พบบริจาคเงินให้วัดกว่า 10 ล้าน
ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 28 ตุลาคม 2562 เดลินิวส์ รายงานว่า จากการสอบสวนพบเบาะแสว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายได้บริจาคเงิน 10
ล้านบาท ในการสร้างตึกอาพาธสงฆ์ ของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
และเพิ่งซื้อรถโฟล์กสวาเกน ป้ายแดง ถวายให้กับเจ้าอาวาสอีกหลายวัด
เพื่อใช้เป็นยานพาหนะไปทำธุระตามกิจของสงฆ์ นอกจากนี้ยังพบว่า
เงินในบัญชีของผู้ตายบัญชีหนึ่งมีเงินอยู่กว่า 50 ล้านบาท
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
เว็บไซต์ข่าวช่อง 3 รายงานด้วยว่า เพื่อนบ้านผู้ตาย เผยว่า ผู้ตายเพิ่งมาซื้อตึกแถวที่เกิดเหตุ ราคา 4 ล้านบาท เมื่อ 4 เดือนก่อน พบว่าเป็นคนมีโลกส่วนตัว ไม่สุงสิงกับใคร ปกติเข้า-ออกบ้านคนเดียว ช่วงบ่ายจะขับรถ BMW สีขาว ไปวัด ก่อนจะหายไปกว่า 10 วัน จนกระทั่งพบศพ
เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเบาะแสว่า
ผู้ตายชอบไปใช้บริการร้านนวดใกล้ ๆ ตึกแถวเป็นประจำ ครั้งสุดท้ายที่ไปคือ
วันที่ 10 ตุลาคม ใช้บริการเวลาประมาณ 19.00 น. จากนั้นก็หายไป
ไม่กลับมาใช้บริการอีกเลย
ทั้งนี้ ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างแกะรอยคนร้ายจากถุงดำที่ใช้ห่อศพ
ซึ่งคาดว่าซื้อจากร้านสะดวกซื้อในพื้นที่
โดยจะเข้าหาเบาะแสจากกล้องวงจรปิดตามร้าน

ภาพจาก เว็บไซต์ข่าวช่อง 3
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก











