กองทัพภาค 4 ยันข่าวประกาศเคอร์ฟิวชายแดนใต้ ไม่เป็นความจริง ผลตรวจปลอกกระสุนปืนเหตุสังหารหมู่ ชรบ. 15 ศพ พบโยงตระกูลหลำโสะ ล่าสุดรวบผู้ต้องหาได้แล้ว 1 ราย เร่งขยายผล
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 เดลินิวส์ รายงานว่า พ.อ. ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองทัพภาค 4 เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่า กองทัพภาคที่ 4 ได้ประกาศเคอร์ฟิวทั่วพื้นที่เพื่อตามล่ากลุ่มโจร BRN ที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญสังหารหมู่ประชาชน 15 ศพ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ว่า เจ้าหน้าที่จะใช้มาตรการทางกฎหมายภายใต้อำนาจที่มีอยู่ด้วยความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้กระทบสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพี่น้องประชาชน โดยไม่มีเหตุผล หรือความจำเป็นอันใดที่จะต้องประกาศใช้เคอร์ฟิวในพื้นที่ตามที่เป็นข่าว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังต้องขอความร่วมมือกับไปยังพี่น้องประชาชนให้ช่วยกันตรวจสอบ และแจ้งเบาะแสกลุ่มคนร้ายให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อเข้าดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พ.อ. ปราโมทย์ ระบุอีกว่า กองทัพภาค 4 ได้สั่งการให้มีการบูรณาการกำลัง เข้าบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มบุคคลที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุ จากหลักฐาน เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้แล้วจำนวนหนึ่ง และได้มีการเปิดแผนปฏิบัติการเข้าติดตาม จับกุม กดดัน กลุ่มคนร้ายในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เขานางจันทร์ ซึ่งมีเขตรอยต่อ จ.ยะลา และ จ.สงขลา และได้พบฐานปฏิบัติการร้างของกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้วจำนวน 1 จุด โดยหน่วยปฏิบัติการพิเศษได้เข้าไปปิดล้อมกดดันบริเวณเทือกเขานางจันทร์แล้วจำนวน 4 เป้าหมาย
ส่วนกลุ่มที่สองคือ กลุ่มบุคคลเป้าหมายที่คอยให้การช่วยเหลือสนับสนุนกลุ่มคนร้าย ที่พาหลบหนี เป็นพื้นที่หมู่บ้านจำนวน 9 เป้าหมาย และเป้าหมายสุดท้ายคือทการเข้าติดตามตัวบุคคลที่เป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง และมีบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว จำนวน 21 เป้าหมาย
ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ พล.ท. พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้มีการใช้กฎหมายขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยได้ 1 ราย เป็นคนในพื้นที่ ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับจุดที่คนร้ายก่อเหตุวางระเบิด โปรยตะปูเรือใบ และเผายางรถยนต์เพื่อสกัดกั้นการเข้าช่วยเหลือ พร้อมยึดของกลางได้หลายรายการ ขณะหลบหนีไปซ่อนตัวที่ อ.ธารโต จ.ยะลา โดยเจ้าหน้าที่กำลังซักถามขยายผลถึงเครือข่ายก่อเหตุอยู่ที่หน่วยซักถามเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 43 ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี
ส่วนมาตรการในการรักษาความปลอดภัยนั้น ขณะนี้ได้ปรับแผนให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่ทหารเข้าเสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และชุมชนให้รัดกุมมากขึ้น ทั้งนี้ เพราะชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เป็นเพียงประชาชนจิตอาสา ที่เสียสละ และอุทิศตน เข้ามาช่วยกันดูแลความปลอดภัยชุมชนของตนเอง ไม่ใช่เป็นกองกำลังติดอาวุธฝ่ายพลเรือนดังที่องค์กรแนวร่วม และกลุ่มเปอร์มาส นำมาบิดเบือนเพื่อสร้างความชอบธรรมในการก่อเหตุของกลุ่มขบวนการ BRN ดังที่ปรากฏให้เห็นในช่วงที่ผ่านมา
ซึ่งเหตุการณ์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถออกหมายจับได้ 21 คน เป็นทีมของตระกูล "หลำโสะ" แกนนำปฏิบัติการ ร่วมกับแกนนำก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ซึ่งฝ่ายเจ้าหน้าที่มีข้อมูลทั้งหมดแล้ว ส่วนผู้ต้องสงสัยที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ 1 ราย ขณะนี้อยู่ในกระบวนการซักถามของเจ้าหน้าที่ ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก