นักมวยต่อยวัยรุ่น 3 คน ลงไปกองกับพื้น ยืนยัน ฝ่ายวัยรุ่นเป็นคนเปิดก่อน จึงป้องกันตัวตามสัญชาตญาณนักมวย แฟนสาวชี้ แม้จะมีอาชีพเป็นนักมวย แต่ก็ไม่ใช่นักเลง
จากกรณีนักมวยหนุ่ม เข้าห้ามกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะกัน แต่กลับถูกต่อยแทน นักมวยหนุ่มจึงจำเป็นต้องป้องกันตัวด้วยแม่ไม้มวยไทย ทำให้วัยรุ่นทั้ง 3 คน น็อกสลบลงกับพื้นนั้น

ล่าสุด (24 พฤศจิกายน 2562) อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า นายกฤษณะ คะเนนอก หรือ ตัวเล็ก นักมวยหนุ่ม ฉายา เพชรทองทั่ว ศิษย์ อบต.จ้อน (กรุงทอง ก.ร่มสีทอง) อายุ 26 ปี เปิดใจว่า ปัจจุบันตนเลิกชกมวยมากว่า 1 ปีแล้ว และหันมาเป็นเทรนเนอร์ในฟิตเนส ที่สอนเกี่ยวกับการป้องกันตัว ซึ่งหลังจากวางมือตนก็ใช้ชีวิตตามปกติ
อย่างไรก็ตาม ในวันเกิดเหตุตนได้เดินทางไปที่ผับในตัวเมืองจันทบุรี พร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน ระหว่างที่ผับปิด ตนก็แยกกับเพื่อนไปเข้าห้องน้ำ หลังจากกลับมาก็พบว่าเพื่อนทั้ง 2 คน กำลังมีเรื่องกับวัยรุ่น 3 คน แต่ยังไม่มีเรื่องชกต่อย ก่อนจะมีการผลักอกและเริ่มมีปากเสียงกัน
โดยเพื่อนตนบอกให้ช่วย ตนจึงเข้าไปยืนอยู่ตรงกลางกลุ่ม จากนั้นก็ถูกกลุ่มวัยรุ่น 3 คน เข้ามาผลักและพยายามหาเรื่อง ซึ่งตนก็พยายามเจรจาห้ามไม่ให้มีเรื่องกัน แต่คนในกลุ่มวัยรุ่นที่ใส่เสื้อสีแดงได้เปิดหมัดชกเข้าที่กกหูขวาของตน ด้วยสัญชาตญาณของอดีตนักมวย ตนก็ฟันศอกกลับ 1 ที ทำให้วัยรุ่นเสื้อแดงร่วงลงกับพื้น
ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นชายอีก 2 คน จะปลดกระเป๋าคาดอกออก แล้วตรงปรี่เข้ามารัวหมัดใส่ ตนจึงสวนกลับไป คนละ 2 ที หลังจากนั้นวัยรุ่นชายเสื้อแดงได้ลุกขึ้นมาอีก ตนจึงสวนกลับอีก 2 ที ก่อนที่ทุกคนจะร่วงลงไปกองอยู่บนพื้น จากนั้นตนก็ปลุกให้วัยรุ่นทั้ง 3 คน ตื่นขึ้นมา เพื่อจะถามว่าทำไมจึงก่อเหตุ ซึ่งก็มีวัยรุ่น 2 คน ตื่นขึ้นมาแล้วยกมือไหว้ก่อนกล่าวขอโทษ


ทั้งนี้ นายกฤษณะ
ยืนยันว่า ตนเป็นเพียงแค่ตัวกลางที่จะระงับเหตุ แต่ถูกทำร้ายร่างกายก่อน
จึงต้องป้องกันตัวเองและตนก็ไม่มีอาวุธ
โดยหลังเกิดเหตุตนได้แสดงความบริสุทธิ์ใจในการยืนรอพบตำรวจ
และถูกแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 2 ฝ่าย คือ ร่วมกันทะเลาะวิวาท
ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ได้แจ้งความเพิ่มเติมกับตน
นอกจากนี้
นายกฤษณะ กล่าวว่า ตนพร้อมที่จะชดใช้ค่าเสียหาย
แต่หากมีการฟ้องหรือเรียกค่าเสียหายมากกว่าคนละ 100,000 บาท
ก็จะให้ไปฟ้องในชั้นศาล แต่หากหลักหมื่น ในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ตนก็พร้อมที่จะจ่ายเยียวยาให้ทันที อย่างไรก็ตาม
ตอนนี้ได้มีหน่วยงานต่างชาติ นักการเมืองไทย
มาเชิญให้ตนร่วมงานด้วยในตำแหน่งบอดี้การ์ด แต่ตนขอปฏิเสธทั้งหมด
เพราะต้องการอยู่แบบปกติ

ทั้งนี้ เหตุการณ์ส่วนใหญ่ที่ต้องมีเรื่อง ก็ไม่ต่างกับเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้น คือการเข้าไประงับเหตุ หรือเป็นตัวกลางแล้วโดนทำร้ายร่างกายก่อน จึงต้องปล่อยหมัดมวยออกไป ส่วนปกติเวลาที่อยู่ด้วยกัน ตนก็เคยถูกแฟนหนุ่มพลั้งมือ แต่เป็นเพียงการเล่นกันตามปกติ ทำให้มีรอยช้ำเขียวเป็นบางครั้ง แม้ว่าแฟนหนุ่มจะอ้างว่าเล่นเบา ๆ แต่ความเบาของนักมวยก็อาจจะหนักสำหรับตน ยืนยันว่าแฟนหนุ่มไม่ใช่คนหัวร้อน แม้จะมีอาชีพเป็นนักมวย แต่ก็ไม่ใช่นักเลง
