เพื่อนไม่เชื่อ ลูกชาย ฆ่าหั่นศพแม่ ชี้คนเจอศพติดหนี้อยู่ร่วมแสน วอนเข้าฝันบอกความจริง

        เพื่อนอีกคนไม่เชื่อ ลูกชายลงมือฆ่าแม่ตัวเองยัดตู้เย็น พร้อมเผยก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยทะเลาะกับคนพบศพ เรื่องเงินที่ยืมไปกว่า 8 หมื่นบาท วอนเพื่อนมาเข้าฝันบอกความจริง 

        จากกรณี นายศิระ สมเดช หรือ กาย ก่อเหตุฆ่า น.ส.ยุรีย์ เถาวัลย์ แม่ของตัวเอง ก่อนอำพรางศพด้วยการหั่นเป็นชิ้นแช่ตู้เย็น และใช้ปืนจ่อยิงศีรษะตัวเองหลังจากเพื่อนแม่รู้ความจริง จากนั้นชาวเน็ตได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่ายังมีพิรุธหลายอย่าง จนล่าสุดทางตำรวจได้เปิดเผยหลังตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วว่านายศิระเป็นผู้ลงมือฆ่าแม่ของตัวเองจริง ตามที่ได้มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

อ่านข่าว : รอง ผบช.น. ยันคดีฆ่าหั่นศพยัดตู้เย็น เป็นฝีมือลูกชาย - ตำรวจเห็นตอนยิงตัวตาย

        ล่าสุด วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า นางก้อย (นามสมมติ) เพื่อน น.ส.ยุรีย์ ที่ถูกฆ่าหั่นศพยัดตู้เย็น เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับ น.ส.ยุรีย์ ครั้งล่าสุดทางโทรศัพท์เมื่อวันเสาร์ (23 พฤศจิกายน) โดยตนชวนเพื่อนไปบวชชี เพราะรู้สึกไม่สบายใจ ซึ่ง น.ส.ยุรีย์ ก็ตอบตกลงเพราะอยากไป จนวันอาทิตย์ (24 พฤศจิกายน) ยังพูดคุยกันทางไลน์ แต่เวลา 20.47 น. ตนส่งไลน์ไป แต่อีกฝ่ายไม่ยอมอ่าน ตนจึงคิดว่า น.ส.สุรีย์ น่าจะมีงานเช้าจึงนอนเร็ว โดยไม่ได้เอะใจอะไร

        กระทั่งวันจันทร์ (25 พฤศจิกายน) ตนก็ส่งไลน์ไปหาแต่อีกฝ่ายไม่อ่าน โดยช่วงเที่ยง น.ส.วรนุช ซึ่งเป็นเพื่อนรวมถึงเป็นลูกจ้างร้านเสริมสวยของ น.ส.ยุรีย์ โทร. มาหาตนว่าติดต่อ น.ส.ยุรีย์ ไม่ได้ ซึ่งตนก็คิดว่าเป็นปกติที่เวลายุ่ง น.ส.ยุรีย์ อาจไม่รับสาย แต่ตนได้ลองโทร. ไปก็พบว่า น.ส.ยุรีย์ ไม่รับสายเช่นกัน จึงบอกให้เพื่อนอีกคนลองโทร. หา ปรากฏว่าอีกฝ่ายไม่รับ 

        จากนั้น น.ส.วรนุช โทร. มาชวนตนไปที่บ้าน น.ส.ยุรีย์ แต่ตนไม่ไปเพราะติดธุระ กระทั่ง น.ส.วรนุช ตัดสินใจเดินทางไปเอง พร้อมเพื่อนอีกคน ก่อนโทรศัพท์มาหาตน บอกว่าเจอนายศิระ หรือ กาย ไล่ออกมา โดยรถของ น.ส.ยุรีย์ ก็จอดอยู่ที่บ้าน และกระเป๋าก็อยู่ในบ้าน นอกจากนี้นายกายยังอาละวาด และบอกว่ามีคนมาเอาแม่ไปแล้ว พร้อมตะโกนว่าอยากตาย แม่ไม่อยู่ ซึ่งตนได้ยินเสียงลอดมาจากปลายสาย ตนจึงบอกให้ น.ส.วรนุช เปิดลำโพง เพราะอยากคุยกับนายกาย เพื่อถามว่าเพื่อนของตนหายไปไหน แต่ น.ส.วรนุช บอกว่าคุยไม่รู้เรื่องแล้ว เพราะนายกายมีอาการคลุ้มคลั่ง ตนจึงบอกให้ น.ส.วรนุช ถอยออกมา บอกว่าจะให้คุยกับเพื่อนอีกคนที่น่าจะคุยได้


        หลังจากนั้น น.ส.วรนุช บอกว่าจะโทร. ตามเพื่อนคนอื่นมาช่วย โดยไม่บอกว่าเป็นใคร ก่อนวางสายไป จากนั้นประมาณ 10 นาที อีกฝ่ายได้โทรศัพท์มาหาตนอีกครั้ง พร้อมร้องกรี๊ดบอกว่า น.ส.ยุรีย์ ถูกนายกายฆ่าตายแล้ว ตนก็ตกใจมาก จึงตัดสินใจขับรถไปที่บ้าน น.ส.ยุรีย์ ปรากฏว่าขณะที่ไปถึงนายกายเพิ่งจะยิงตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งตนก็งงไปหมด เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก

        จากนั้นตนได้ถาม น.ส.วรนุช ว่าได้ขึ้นห้อง น.ส.ยุรีย์ หรือไม่ น.ส.วรนุช บอกว่าขึ้นไปค้นในตู้เสื้อผ้า ซึ่งตนก็แปลกใจ เพราะห้องของ น.ส.ยุรีย์ ไม่มีตู้เสื้อผ้า มีเพียงราวแขวนเสื้อผ้าสูง 3 ชั้น เนื่องจากเสื้อผ้า น.ส.ยุรีย์ มีเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ปกติบ้าน น.ส.ยุรีย์ รวมถึงห้องนอน มีกล้องวงจรปิด แต่นายชัย เพื่อนที่เข้าไปพร้อมกับ น.ส.วรนุช บอกว่า น.ส.ยุรีย์ ถอดออกไปแล้ว เพราะกล้องเชื่อมกับ Wi-Fi กลัวลูกจะเห็นเวลาอยู่ในบ้าน ซึ่งตนก็แปลกใจคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะ น.ส.ยุรีย์ ติดกล้องเพื่อดูทรัพย์สินในบ้านตลอด

        ทั้งนี้ ปืนที่ใช้ยิง ทราบว่าเป็นปืนของ น.ส.ยุรีย์ โดยที่ผ่านมา น.ส.ยุรีย์ เก็บไว้ในตู้เซฟตลอด แต่ น.ส.วรนุช บอกว่า น.ส.ยุรีย์ พกปืนติดตัวตลอดเพราะมีทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ตนไม่เชื่อว่านายกายจะฆ่าแม่ตัวเอง เพราะนายกายเป็นคนร่าเริง รักแม่ ขี้เล่น ที่ผ่านมา น.ส.ยุรีย์ ให้ความรักความอบอุ่นกับลูก และทั้ง 2 คนสนิทกัน ไม่เคยมีปัญหารุนแรง โดยเคยมีแค่งอนกันเท่านั้น แต่นายกายจะเป็นคนมาง้อแม่ตลอด

        ส่วนเรื่องโรคซึมเศร้า ตนไม่เคยทราบเรื่องมาก่อนว่านายกายเป็นโรคดังกล่าว ซึ่งช่วงที่เกิดเหตุ น.ส.วรนุช โทร. มาบอกตนว่านายกายเอาเอกสารเกี่ยวกับโรคซึมเศร้ามาให้ดู แต่ตนคิดว่าการเป็นโรคซึมเศร้าก็ไม่น่าจะฆ่าคนอื่น เพราะที่ผ่านมามีแต่คนเป็นโรคซึมเศร้าจะฆ่าตัวตาย นอกจากนี้ตนยังถาม น.ส.วรนุช ว่าช่วงที่เข้าบ้านได้กลิ่นคาวเลือดหรือไม่ ซึ่ง น.ส.วรนุช บอกว่าไม่ได้กลิ่น ซึ่งตนก็รู้สึกแปลก ๆ

        โดย น.ส.วรนุช มีปัญหากับ น.ส.ยุรีย์ เกี่ยวกับเรื่องเงินร้านเสริมสวย เพราะ น.ส.วรนุช เป็นช่างในร้าน แต่ค้างเงิน น.ส.ยุรีย์ อยู่ประมาณ 80,000 บาท ซึ่ง น.ส.ยุรีย์ มีการพูดสั่งสอนไป จนห่างกันไปประมาณเกือบ 2 เดือน

        ส่วนการตั้งข้อสังเกตในโลกออนไลน์ เรื่องการเปิดตู้เย็น ตนก็สงสัยเช่นกัน ว่าคนปกติจะเข้าไปเปิดตู้เย็นทำไม เหมือนรู้ว่าอีกฝ่ายน่าจะเสียชีวิตแล้ว นอกจากนี้นายชัย คนที่เข้าไปพร้อม น.ส.วรนุช ซึ่งเป็นคนส่งเอกสารให้ น.ส.ยุรีย์ สามารถเข้า-ออกบ้าน น.ส.ยุรีย์ ได้เป็นปกติ

        ทั้งนี้ ตนยังไม่ได้ปักใจเชื่อว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ โดยคิดว่าหากผลสรุปออกมา ปรากฏว่านายกายเป็นคนก่อเหตุ ความจริงก็ได้ตายไปพร้อมนายกายแล้ว และคิดว่าคงทำบุญร่วมกันมาแค่นี้ แต่หากไม่ใช่ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์ออกมา และหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ โดยตนภาวนาให้เพื่อนมาเข้าฝัน เพื่อมาบอกว่าใครเป็นคนก่อเหตุ


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก