ดีเอสไอ เผยผลสกัดดีเอ็นเอกระดูก 9 ชิ้น ที่พบหลังตรวจหาหลักฐานรอบ 2 ไม่ชัดเป็นของบิลลี่ เชื่อไม่มีผลต่อรูปคดี
จากกรณีการเสียชีวิตของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกรอย จ.เพชรบุรี หลังผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของชิ้นส่วนกระดูกทั้ง 9 ชิ้นที่พบในพื้นที่เดียวกับที่พบชิ้นส่วนกะโหลกของนายบิลลี่ บริเวณอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อยู่ห่างจากบริเวณที่พบกระดูกที่เป็นชิ้นส่วนของกะโหลกศีรษะพอสมควร และผลตรวจออกมาพบว่า กระดูกมีความเสื่อมสภาพ ขณะที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ได้เข้ามอบตัวที่ดีเอสไอ กรณีถูกศาลออกหมายจับ 5 ข้อหา พร้อมยืนยันว่าตนเองและพวกบริสุทธิ์ ตามที่ได้มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : ชัยวัฒน์ พร้อมลูกน้อง มอบตัวกับดีเอสไอ พ้อโดนสร้างสตอรี่ จนวันนี้กลายเป็นผู้ร้าย
ล่าสุดวันที่ 3 ธันวาคม 2562 ข่าวช่องวัน รายงานว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ ดีเอสไอ ยืนยันว่า กระดูกทั้ง 9 ชิ้นที่เสื่อมสภาพนั้น ไม่สามารถนำไปสกัดสารดีเอ็นเอออกมาตรวจพิสูจน์ได้ว่าเป็นของใคร จึงไม่สามารถนำไปพิสูจน์และยืนยันได้ว่าเป็นของนายบิลลี่หรือไม่ และพิสูจน์ไม่ได้ว่า เป็นของบุคคลอื่นหรือไม่ด้วย เพราะกระดูกทั้ง 9 ชิ้นที่พบนั้น เป็นการไปค้นหาเพิ่มเติม หลังจากพบชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะในถังน้ำมัน ที่ตรวจพบว่ามีดีเอ็นเอตรงกับของแม่ของนายบิลลี่ โดยซึ่งกระดูกทั้ง 9 ชิ้นสามารถตรวจยืนยันได้เพียงแค่ว่า เป็นชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์เท่านั้น
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ทั้งนี้ ยืนยันว่าผลการตรวจพิสูจน์กระดูกทั้ง 9 ชิ้นนี้ ไม่มีผลต่อรูปคดี เพราะเป็นการตรวจพิสูจน์ในการหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม จากหลักฐานกะโหลกศีรษะที่พบพร้อมกับถังน้ำมันไปก่อนหน้านี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ข่าวช่องวัน