ไขคดี น้องต่อ น.ส.กลิ่นเกษร วงษ์สิงห์ พบกล้องหน้ารถสำคัญ กล้องพังแต่เมมโมรี่กู้คืนได้ ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้ อยากรู้เข็นรถลงน้ำ หรือติดเครื่องให้รถลงน้ำ ต้องดูที่ลูกสูบ
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
จากกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.กลิ่นเกษร วงษ์สิงห์ หรือ ต่อ อายุ 36 ปี เซลส์ขายปุ๋ย ที่มีการพบศพของเธอในสภาพถูกห่อด้วยผ้า และถูกทิ้งไปพร้อมรถในคลองน้ำชัยนาท-ป่าสัก หมู่ 1 ต.หนองโป่ง อ.หนองโดน จ.สระบุรี เป็นเวลานาน 3 ปี ซึ่งก่อนเสียชีวิตพบว่า น้องต่อติดพันอยู่กับเสี่ยเจ้าของโรงงานปุ๋ยด้วย (อ่านเพิ่มเติม : พิรุธ เซลส์ตายในรถทิ้งคลอง 3 ปี พบเคยแอบกิ๊กเสี่ย-เสี่ยหลุดโป๊ะกับญาติเอง !)
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานชิ้นหนึ่งที่สำคัญคือ กล้องหน้ารถ ซึ่งตำรวจได้ส่งตรวจเพื่อทำการกู้ภาพแล้ว
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
ทางทีมข่าวยังได้ไปที่โรงงานปุ๋ย และพบกับ นางขวัญ (นามสมมติ) อายุ 65 ปี พนักงานโรงงาน ซึ่งเผยว่า ตนทำงานที่นี่มากว่า 20 ปี เสี่ยเจ้าของโรงงานก็ดูแลพนักงานอย่างดี ปกติเสี่ยจะไม่ค่อยเข้ามา จะมาก็เฉพาะวันสำคัญ ตนก็ไม่รู้ว่าเสี่ยอยู่ที่ไหน
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
แต่หากรถติดเครื่องแล้วพุ่งลงน้ำ จะพบว่าก้านลูกสูบอาจคด สลักก้านสูบหรือวาล์วบนฝาสูบจะมีรอยสึก เมื่อรถตกน้ำ น้ำจะเข้าไปจนทำให้เครื่องยนต์ช็อต ลูกสูบจะเกิดสนิม
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
นอกจากนี้หากปิดกระจกรถยนต์แล้วรถตกน้ำ รถจะจมน้ำช้ากว่าการเปิดกระจกรถยนต์ โดยน้ำจะซึมเข้ามารอบ ๆ ตามรูระบายอากาศ และหัวรถจะจมลงไปก่อนเพราะมีเครื่องยนต์ด้านหน้า จากนั้นน้ำจะไหลเข้าห้องเครื่องยนต์ ห้องโดยสาร และใช้เวลาเพียง 1 นาที รถก็จะจมทั้งคัน แต่ถ้าหากเปิดกระจกรถยนต์เอาไว้ น้ำก็จะไหลเข้ามาเร็วกว่านั้น
ส่วนเรื่องตำแหน่งเกียร์รถยนต์ก็สำคัญ เพราะกู้ภัยบอกว่า ตอนที่เอารถขึ้นมา ตำแหน่งรถอยู่เกียร์ D ซึ่งหากอยู่เกียร์ D แสดงว่าคนที่ลงมือฆ่าอยู่นอกรถ เข้าเกียร์ D ปิดประตูรถ แล้วปล่อยให้รถพุ่งลงน้ำ หรืออาจจะนำหินมาทับไว้ที่คันเร่งก็เป็นได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก