เตรียมหน่วงน้ำ แก้วิกฤตน้ำประปาเค็ม - วอนธุรกิจอาบอบนวด ใช้น้ำอย่างประหยัด

         กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำเค็ม รุกคืบแม่น้ำ 4 สายหลัก ตรวจพบสถานีสูบน้ำชลประทานฉะเชิงเทรา มีค่าความเค็มสูงที่สุด เตรียมใช้วิธีหน่วงน้ำเค็ม สำรองน้ำให้ประชาชนใช้


         จากกรณีนักวิชาการได้ออกมาเตือนประชาชน เกี่ยวกับเรื่องน้ำประปา หลังตรวจพบว่ามีค่าความเค็มเกินมาตรฐาน ในแม่น้ำ 4 สายหลัก ส่งผลให้น้ำประปามีรสชาติกร่อย เนื่องจากปัญหาภัยแล้งที่กำลังคืบคลานเข้ามา ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยโรคประจำตัวต่าง ๆ ผู้ป่วยโรคไต โรคหัวใจ เบาหวาน และความดัน จึงขอให้คนกรุงเทพฯ ใช้น้ำประปาด้วยความระมัดระวังนั้น

อ่านข่าว : เตือนวิกฤตภัยแล้ง น้ำประปาเค็ม กระทบคนกรุง คาดยาวนานถึง พฤษภาคม 63

         ล่าสุด (5 มกราคม 2563) กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์ค่าความเค็มและปริมาณน้ำ ในแม่น้ำ 4 สายหลัก ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา, แม่น้ำปราจีน - บางปะกง, แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ระบุว่า หลายสถานีสูบน้ำมีค่าความเค็มของน้ำเกินค่ามาตรฐาน 0.50 กรัม/ลิตร โดยเฉพาะสถานีสูบน้ำชลประทานฉะเชิงเทราในแม่น้ำปราจีน - บางปะกง ที่วัดได้สูงสุด 22.24 กรัม/ลิตร ซึ่งถือว่ามีค่าความเค็มของน้ำสูงกว่าทุกสถานี

          ขณะที่ ไทยพีบีเอส รายงานเพิ่มเติมว่า น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีเหลือเพื่อใช้รักษาระบบนิเวศน์ และอุปโภคบริโภคเท่านั้น จากปกติที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา จะต้องมีน้ำสำรองเพื่อใช้ในฤดูแล้งประมาณ 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ก่อนเข้าสู่ฤดูฝน แต่ปัจจุบัน 4 เขื่อนหลัก ได้แก่ เขื่อนภูมิพล, เขื่อนสิริกิติ์, เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีน้ำเหลือประมาณ 4,280 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งน้อยกว่าปกติ

          อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีการเพาะปลูกข้าวไปแล้วกว่า 1,500,000 ไร่ ทำให้มีการดึงน้ำบางส่วนไปใช้ในการเพาะปลูก และกระทบต่อการผลักดันน้ำเค็มที่กำลังรุกคืบเข้ามา โดยเฉพาะช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ ซึ่งก็มีคำเตือนออกมาว่า พื้นที่กรุงเทพมหานคร อาจจะเสี่ยงต่อน้ำประปารสชาติกร่อย หากไม่ช่วยกันประหยัดน้ำ

          ส่วนน้ำในระบบที่สำรองใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค น่าจะใช้ได้ถึงช่วงเดือนพฤษภาคม นี้ หลังจากนั้นหลายเขื่อนอาจจะต้องสูบน้ำจากก้นเขื่อนมาใช้ ซึ่งทางสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เผยว่า ธุรกิจคาร์แคร์ หรือธุรกิจอาบอบนวด อาจจะต้องลดการใช้น้ำลง แม้ว่าเท่าที่สำรวจพบว่า ธุรกิจอาบอบนวดส่วนใหญ่ใช้น้ำบาดาล แต่น้ำบาดาลเป็นแหล่งที่ต้องนำน้ำมาใช้ หากน้ำในเขื่อนไม่พอ


          ทั้งนี้ อาจจะต้องใช้วิธีหน่วงน้ำเค็ม โดยจะผ่านน้ำจากแม่น้ำแม่กลองมาช่วยแก้น้ำเค็มรุกแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะใช้เส้นทางน้ำผ่านคลองประปาฝั่งตะวันตกเข้ามาทางโรงผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ และระบายน้ำลงสู่คลองปลายบาง, คลองมหาสวัสดิ์ และคลองบางกอกน้อย รวมไปถึงส่งไปที่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยจะมีการขอความช่วยเหลือจากกองทัพเรือ และติดตั้งเครื่องจำนวน 30 เครื่อง แต่ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะถึงแม้น้ำจะกร่อยแต่ก็ยังดื่มได้

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


- กรมชลประทาน