ทหารโพสต์ห่วงรุ่นน้องถูกคุมตัวสอบคดีปล้นทองลพบุรี หวั่นกลายเป็นแพะคดีปล้นร้านทอง ห้างดัง จ.ลพบุรี ด้านตำรวจยันยังไม่มีการคุมตัวทหารสอบ
จากกรณีโจรบุกเดี่ยวชิงทองที่ห้างดัง จ.ลพบุรี โดยมีการยิงสังหารพนักงานขายของร้านทอง รปภ. รวมถึงเด็กชายวัย 2 ขวบเสียชีวิต อีกทั้งยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกหลายราย ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจได้จัดกำลังไล่ล่าหาตัวคนร้าย พร้อมมีการเผยรูปพรรณของคนร้ายเบื้องต้นผ่านสื่อ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและทหารหลายหน่วยงานกำลังเร่งตรวจสอบเส้นทางหลบหนี แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุดังกล่าวได้นั้น
อ่านข่าว : คืบหน้าล่าสุด โจรชิงทอง คาดเป็นวัยรุ่น ยังอยู่ในพื้นที่ - อาการเหยื่อโดนยิงวิกฤต
ล่าสุด วันที่ 12 มกราคม 2563 อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับคดีปล้นทองดังกล่าวว่า "อย่าคิดที่จะหาแพะ ถ้าสงสัยก็ให้น้องกูแสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่กักตัวไว้แบบนี้ #เรื่องนี้มีเงื่อนงำ" ทางผู้สื่อข่าวจึงรีบติดต่อสอบถามเรื่องดังกล่าวไปยังผู้โพสต์
แต่เจ้าตัวปฏิเสธไม่ยอมตอบคำถาม จึงทำการสอบถามไปยังแฟนสาวของผู้โพสต์
ได้ความว่า เรื่องนี้ผู้โพสต์ตั้งข้อสังเกตเท่านั้น
เนื่องจากต้องการปกป้องน้องคนสนิทที่เป็นทหาร เพราะกำลังถูกเรียกสอบ
พล.ต.ต. ณัฐพล ศุกระศร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ได้กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า เรื่องที่มีข่าวออกมาว่ามีการคุมตัวเจ้าหน้าที่ทหารในค่ายเพื่อทำการสอบสอนนั้นไม่เป็นความจริง เพราะพยานหลักฐานยังไปไม่ถึงตัวคนร้าย จึงทำให้ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าใครเป็นคนร้าย ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งนักกีฬาแม่นปืน ข้าราชการ ข้าราชการเออร์ลี่ และผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งจนถึงขณะนี้ตำรวจยังให้น้ำหนักไปที่การจี้ชิงทรัพย์เป็นหลัก ขณะที่ผลการตรวจสอบนิติวิทยาศาสตร์ เริ่มทยอยส่งกลับมาที่ทีมสืบสวนบางส่วนแล้ว ซึ่งจะนำมาพิจารณาประกอบกันอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าการเดินของโจรชิงทองดังกล่าวมีลักษณะขาที่เดินไม่สม่ำเสมอ คล้ายมีความบกพร่องทางการเดิน เมื่อเทียบเคียงกับภาพจากกล้องวงจรปิด เหตุการณ์คนร้ายชิงทองที่ จ.ภูเก็ต เมื่อปี 2556 มีลักษณะการเดินคล้ายกัน และมีการยิงคนเสียชีวิตเหมือนกัน และที่สำคัญเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้
ด้านนายศุภฤกษ์ กาญจนา อดีตผู้จัดการเขต รปภ. ห้างใน จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนได้ดูภาพการก่อเหตุของเหตุการณ์ปล้นทองที่ จ.ลพบุรี และ จ.ภูเก็ต เมื่อ 6 ปีก่อน เชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุที่ จ.ลพบุรี และ จ.ภูเก็ต น่าจะเป็นคนละคนกัน แม้พฤติกรรมการก่อเหตุและการเดินจะคล้ายกัน แต่คนร้ายที่ จ.ลพบุรี ตัวสูงและผอมกว่า และมีความคล่องตัวในการก่อเหตุมากกว่าคนร้ายที่ก่อเหตุที่ จ.ภูเก็ต
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
จากกรณีโจรบุกเดี่ยวชิงทองที่ห้างดัง จ.ลพบุรี โดยมีการยิงสังหารพนักงานขายของร้านทอง รปภ. รวมถึงเด็กชายวัย 2 ขวบเสียชีวิต อีกทั้งยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกหลายราย ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจได้จัดกำลังไล่ล่าหาตัวคนร้าย พร้อมมีการเผยรูปพรรณของคนร้ายเบื้องต้นผ่านสื่อ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและทหารหลายหน่วยงานกำลังเร่งตรวจสอบเส้นทางหลบหนี แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุดังกล่าวได้นั้น
อ่านข่าว : คืบหน้าล่าสุด โจรชิงทอง คาดเป็นวัยรุ่น ยังอยู่ในพื้นที่ - อาการเหยื่อโดนยิงวิกฤต
พล.ต.ต. ณัฐพล ศุกระศร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ได้กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า เรื่องที่มีข่าวออกมาว่ามีการคุมตัวเจ้าหน้าที่ทหารในค่ายเพื่อทำการสอบสอนนั้นไม่เป็นความจริง เพราะพยานหลักฐานยังไปไม่ถึงตัวคนร้าย จึงทำให้ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าใครเป็นคนร้าย ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งนักกีฬาแม่นปืน ข้าราชการ ข้าราชการเออร์ลี่ และผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งจนถึงขณะนี้ตำรวจยังให้น้ำหนักไปที่การจี้ชิงทรัพย์เป็นหลัก ขณะที่ผลการตรวจสอบนิติวิทยาศาสตร์ เริ่มทยอยส่งกลับมาที่ทีมสืบสวนบางส่วนแล้ว ซึ่งจะนำมาพิจารณาประกอบกันอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าการเดินของโจรชิงทองดังกล่าวมีลักษณะขาที่เดินไม่สม่ำเสมอ คล้ายมีความบกพร่องทางการเดิน เมื่อเทียบเคียงกับภาพจากกล้องวงจรปิด เหตุการณ์คนร้ายชิงทองที่ จ.ภูเก็ต เมื่อปี 2556 มีลักษณะการเดินคล้ายกัน และมีการยิงคนเสียชีวิตเหมือนกัน และที่สำคัญเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้
ด้านนายศุภฤกษ์ กาญจนา อดีตผู้จัดการเขต รปภ. ห้างใน จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนได้ดูภาพการก่อเหตุของเหตุการณ์ปล้นทองที่ จ.ลพบุรี และ จ.ภูเก็ต เมื่อ 6 ปีก่อน เชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุที่ จ.ลพบุรี และ จ.ภูเก็ต น่าจะเป็นคนละคนกัน แม้พฤติกรรมการก่อเหตุและการเดินจะคล้ายกัน แต่คนร้ายที่ จ.ลพบุรี ตัวสูงและผอมกว่า และมีความคล่องตัวในการก่อเหตุมากกว่าคนร้ายที่ก่อเหตุที่ จ.ภูเก็ต
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
