ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์แล้ว สำหรับมหากาพย์คดีบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ลักลอบโฆษณาเกินเวลา จนทำให้บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เสียเงินไปกว่า 138 ล้านบาท โดยมีคนดังของสังคมอย่างนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรและนักเล่าข่าวชื่อดัง เข้าไปมีเอี่ยวกับการกระทำความผิดในครั้งนี้โดยตรงในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัท ไร่ส้ม จำกัด จนในที่สุด วันที่ 21 มกราคม 2563 ศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุก นายสรยุทธ 6 ปี 24 เดือน ไม่รอลงอาญา ทำให้นายสรยุทธ ต้องถูกคุมตัวไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทันที
"จุดเริ่มต้นของบริษัท ไร่ส้ม จำกัด"
เดือนมิถุนายน 2546 บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ บมจ.อสมท ได้จัดทำสัญญาว่าจ้าง นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ให้เป็นพิธีกรแบบรายวัน ดำเนินรายการ "ถึงลูกถึงคน" ในอัตราค่าจ้าง 5,000 บาทต่อตอน และรายการได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
เนื่องจากรายการที่นายสรยุทธจัด ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล รายการถึงลูกถึงคน แม้จะเป็นรายการดึกตอน 5 ทุ่ม แต่กลับมีผู้ชมที่ติดใจสไตล์การเล่าข่าวของนายสรยุทธ ที่ดุดัน ตีแสกหน้า ตรงไปตรงมา นายสรยุทธจึงได้ตั้งบริษัท ไร่ส้ม จำกัด โดยมีนายสรยุทธ เป็นกรรมการผู้จัดการ มี น.ส.อังคณา วัฒนมงคลศิลป์ และ น.ส.สุกัญญา แซ่ลิ้ม เป็นกรรมการบริษัท และเข้าทำสัญญาร่วมผลิตรายการกับ อสมท ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2548 จนถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2549
นอกเหนือจากรายการ ถึงลูกถึงคน แล้ว บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ได้เข้าทำสัญญากับ บมจ.อสมท ร่วมผลิตรายการ "คุยคุ้ยข่าว" ออกอากาศทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ครั้งละ 60 นาที (รวมเวลาโฆษณา) โดย บมจ.อสมท ตกลงแบ่งเวลาโฆษณาให้ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ได้ครั้งละ 5 นาที ถ้ามีโฆษณาเกินกว่ากำหนด บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ต้องชำระค่าโฆษณาเกินเวลาให้ บมจ.อสมท ในอัตรานาทีละไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท
"อสมท เริ่มระแคะระคาย บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ค้างค่าโฆษณากว่า 100 ล้านบาท"
"ส่งเรื่อง ป.ป.ช. ไต่สวนพร้อมฟันธง บริษัท ไร่ส้ม จำกัด มีมูลความผิดชัดเจน"
ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนของ ป.ป.ช. ปรากฏว่า นางพิชชาภา หรือ ชนาภา เอี่ยมสะอาด หรือ บุญโต เจ้าหน้าที่ธุรการระดับ 5 สำนักกลยุทธ์การตลาด บมจ.อสมท เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำคิวโฆษณารวม และเป็นผู้รายงานโฆษณาเกินเวลาเพื่อเรียกเก็บเงินจาก บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ได้ให้ความช่วยเหลือ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด โดยไม่มีการรายงานการโฆษณาเกินเวลาของ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด เพื่อเรียกเก็บเงิน ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2548 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2549 โดยมีการใช้น้ำยาลบคำผิด ลบคิวตารางในส่วนที่บริษัท ไร่ส้ม จำกัด โฆษณาเกินเวลาออก
จากการไต่สวนปรากฏว่า นายสรยุทธ ได้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คของธนาคารธนชาต สาขาพระราม 4 ให้นางพิชชาภา โดยมีการทำเอกสารหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้รวม 6 ครั้ง เป็นเงิน 739,770.50 บาท (นายสรยุทธ กล่าวว่า เงินส่วนนี้ไม่ใช่เงินสินบน แต่เป็นเงินที่ให้จากการขายโฆษณา) เพื่อตอบแทนที่นางพิชชาภามิได้รายงานการโฆษณาเกินเวลาของบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ทาง ป.ป.ช. ได้มีมติ 7 ต่อ 0 ชี้มูลความผิด
"ป.ป.ช. ส่งเรื่องยื่นฟ้องคดีไร่ส้ม"
หลังจากที่ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดจำเลยทั้งหมดแล้ว จึงได้ส่งรายงานถึงอัยการสูงสุด ฟ้องต่อศาลในคดีอาญา โดยใช้ระยะเวลาปีกว่าในการรวบรวมสำนวน ก่อนจะมีคำสั่งฟ้อง ดังนี้
1. นางพิชชาภา หรือ ชนาภา เอี่ยมสะอาด หรือ บุญโต เจ้าหน้าที่ธุรการระดับ 5 สำนักกลยุทธ์การตลาด บมจ.อสมท
2. นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด
3. บริษัท ไร่ส้ม จำกัด
4. น.ส.มณฑา ธีระเดช เจ้าหน้าที่ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด
ตามความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 6, 8, 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และ 91
"สรยุทธ ขึ้นศาลครั้งแรก ก่อนได้รับอนุญาตให้ประกันตัว"
"ศาลชั้นต้นสั่งจำคุก พร้อมกับสั่งห้ามออกนอกประเทศ"
จากนั้นเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559 ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาให้จำคุก นายสรยุทธ และลูกน้อง คนละ 20 ปี แต่ลดเหลือ 13 ปี 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ส่วนนางพิชชาภา ถูกจำคุก 30 ปี แต่ให้ลดเหลือ 20 ปี โดยไม่รอลงอาญาเช่นกัน พร้อมปรับบริษัท ไร่ส้ม จำกัด เป็นเงิน 8 หมื่นบาท ซึ่งต่อมาศาลได้อนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว นายสรยุทธ พร้อมพวก โดยตีราคาประกันคนละ 2 ล้านบาท และกำหนดรายงานตัวทุก 30 วัน พร้อมกับสั่งห้ามออกนอกประเทศ
"ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ยืนตามศาลชั้นต้น"
"ศาลฎีกาชี้ชะตาปิดมหากาพย์ 10 ปี คดีไร่ส้ม"
และล่าสุด วันที่ 21 มกราคม 2563 วันชี้ชะตาของนักเล่าข่าวชื่อดัง สรยุทธ สุทัศนะจินดา ก็มาถึง เมื่อศาลฎีกาได้นัดอ่านคำพิพากษาจำเลยคดีบริษัท ไร่ส้ม จำกัด โดยตัดสินให้นายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา จำเลยที่ 3 และ 4 มีความผิด 6 กระทง กระทงละ 2 ปี จำคุก 13 ปี 4 เดือน แต่เนื่องจากนายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา ให้การเป็นประโยชน์ และนายสรยุทธ เคยทำความดีมาก่อนในฐานะสื่อมวลชน จึงลดโทษให้เหลือจำคุก 6 ปี 24 เดือน โดยไม่รอลงอาญา
ส่วนนางพิชชาภา หรือ นางชนาภา บุญโต มีความผิด 6 กระทง กระทงละ 3 ปี จำคุก 20 ปี ลดโทษเหลือ 12 ปี โดยไม่รอลงอาญา ขณะที่ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ได้มีการลดโทษปรับจาก 80,000 เหลือ 72,000 บาท
ภาพจาก สปริงนิวส์, เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา, เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว