แม่ชีถูกคริสตจักรขับไล่ กลายเป็นคนเร่ร่อน ไม่มีที่ไป หลายคนต้องกลายเป็นโสเภณี พระคาร์ดินัลเผย ตอนนี้โป๊ปฟรานซิสสั่งสร้างบ้านพักในวาติกัน ต้อนรับแม่ชีเหล่านี้แล้ว
![]()
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2563 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส (Pope Francis) โปรดให้สร้างบ้านพักในนครรัฐวาติกัน
เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าแม่ชีที่ถูกคริสตจักรทอดทิ้ง จนไม่มีที่ไป
กลายเป็นแม่ชีไร้สังกัด เป็นคนเร่ร่อนริมถนน
และหลายคนถึงขั้นต้องค้าประเวณีเพื่อความอยู่รอด
โดยสมเด็จพระสันตะปาปาต้องการแก้ไขปัญหาในอดีต
และป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
โจอาว บราซ เจ อาวีซ พระคาร์ดินัลชาวบราซิลประจำวาติกัน เปิดเผยกับนิตยสาร Women Church World ของวาติกัน ว่า ในสมัยก่อน แม่ชีจำนวนมากได้ถูกคริสตจักรขับไล่ออกจากคอนแวนต์ หรืออารามแม่ชี
ในบางกรณี แม่ชีประจำอารามจะดูแลเรื่องนี้โดยตรง แม่ชีบางคนอาจต้องการลาออกไปเอง แต่ส่วนใหญ่มักจะถูกสั่งให้ออกไป ผู้หญิงเหล่านี้เข้าคริสตจักรมาเพื่อรับใช้พระผู้เป็นเจ้า เมื่อถูกปฏิบัติเช่นนี้ ชีวิตของพวกเธอก็พังลง และไม่มีที่ไป โดยเฉพาะแม่ชีที่เป็นชาวต่างประเทศ
อดีตแม่ชีเหล่านี้ต้องหาเลี้ยงชีพด้วยตัวเอง ซึ่งก็มีจำนวนไม่น้อยที่ตัดสินใจเลือกไปเป็นโสเภณีข้างถนน ขายตัวเพื่อหาเงินประทังชีวิต
พระคาร์ดินัลอาวีซ กล่าวอีกว่า วาติกันจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงมุมมองเสียใหม่ในการปฏิเสธผู้หญิงเหล่านี้เข้ามาเป็นแม่ชี และควรเลิกคิดว่าเรื่องนี้ "ไม่ใช่ปัญหาของพวกเรา" ซึ่งในปัจจุบันความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญได้มาถึง
หลังจากที่สมเด็จพระสันตะปาปาทรงตัดสินพระทัยให้สร้างบ้านพักขึ้น
เพื่อต้อนรับอดีตแม่ชีทุกคนที่ถูกทอดทิ้ง ทั้งแม่ชีถูกไล่จากวาติกัน
และแม่ชีถูกไล่จากอารามต่าง ๆ
ทั้งนี้ นับตั้งแต่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงได้รับเลือกตั้งเป็นประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกในปี 2556 พระองค์ทรงให้ความสำคัญอย่างมากในการทรงงานหลายอย่างเพื่อช่วยเหลือบุคคลยากไร้และด้อยโอกาสในสังคม ตั้งแต่ผู้อพยพที่หลบหนีชีวิตที่ถูกกดขี่และความแห้งแล้ง คนไร้บ้าน ไปจนถึงนักโทษ และโสเภณี
นอกจากนี้แล้วในปี 2559 พระองค์ก็ได้เสด็จไปเยือนเซาฟ์เฮ้าส์สตรีในกรุงโรม ซึ่งเป็นที่พักพิงของเหล่าผู้หญิงจากแอฟริกาและยุโรปตะวันออก ที่เคยตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์และบังคับให้ค้าประเวณี
สำหรับบ้านพักอดีตแม่ชีในวาติกัน พบว่าสร้างขึ้นมานานกว่า 1 ปีแล้ว พระคาร์ดินัลอาวีซได้เคยเดินทางไปเยี่ยมเยียนผู้หญิงเหล่านี้แล้ว เขาบรรยายว่าที่แห่งนั้นไม่ต่างอะไรกับโลกอันเจ็บปวดและเต็มไปด้วยบาดแผล แต่ก็ยังคงมีความหวังหลงเหลืออยู่

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
โจอาว บราซ เจ อาวีซ พระคาร์ดินัลชาวบราซิลประจำวาติกัน เปิดเผยกับนิตยสาร Women Church World ของวาติกัน ว่า ในสมัยก่อน แม่ชีจำนวนมากได้ถูกคริสตจักรขับไล่ออกจากคอนแวนต์ หรืออารามแม่ชี
ในบางกรณี แม่ชีประจำอารามจะดูแลเรื่องนี้โดยตรง แม่ชีบางคนอาจต้องการลาออกไปเอง แต่ส่วนใหญ่มักจะถูกสั่งให้ออกไป ผู้หญิงเหล่านี้เข้าคริสตจักรมาเพื่อรับใช้พระผู้เป็นเจ้า เมื่อถูกปฏิบัติเช่นนี้ ชีวิตของพวกเธอก็พังลง และไม่มีที่ไป โดยเฉพาะแม่ชีที่เป็นชาวต่างประเทศ
อดีตแม่ชีเหล่านี้ต้องหาเลี้ยงชีพด้วยตัวเอง ซึ่งก็มีจำนวนไม่น้อยที่ตัดสินใจเลือกไปเป็นโสเภณีข้างถนน ขายตัวเพื่อหาเงินประทังชีวิต
ทั้งนี้ นับตั้งแต่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงได้รับเลือกตั้งเป็นประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกในปี 2556 พระองค์ทรงให้ความสำคัญอย่างมากในการทรงงานหลายอย่างเพื่อช่วยเหลือบุคคลยากไร้และด้อยโอกาสในสังคม ตั้งแต่ผู้อพยพที่หลบหนีชีวิตที่ถูกกดขี่และความแห้งแล้ง คนไร้บ้าน ไปจนถึงนักโทษ และโสเภณี
นอกจากนี้แล้วในปี 2559 พระองค์ก็ได้เสด็จไปเยือนเซาฟ์เฮ้าส์สตรีในกรุงโรม ซึ่งเป็นที่พักพิงของเหล่าผู้หญิงจากแอฟริกาและยุโรปตะวันออก ที่เคยตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์และบังคับให้ค้าประเวณี
สำหรับบ้านพักอดีตแม่ชีในวาติกัน พบว่าสร้างขึ้นมานานกว่า 1 ปีแล้ว พระคาร์ดินัลอาวีซได้เคยเดินทางไปเยี่ยมเยียนผู้หญิงเหล่านี้แล้ว เขาบรรยายว่าที่แห่งนั้นไม่ต่างอะไรกับโลกอันเจ็บปวดและเต็มไปด้วยบาดแผล แต่ก็ยังคงมีความหวังหลงเหลืออยู่






