
สมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 อดีตกษัตริย์เบลเยียม ทรงยอมรับแล้ว มีบุตรสาวนอกสมรสจริง จากสัมพันธ์ลับในอดีต หลังผลตรวจดีเอ็นเอมัด
วันที่ 28 มกราคม 2563 เว็บไซต์ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า สมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 อดีตกษัตริย์เบลเยียม ทรงออกมายอมรับแล้วว่าพระองค์ทรงเป็นพระบิดาผู้ให้กำเนิด เดลฟีน โบเอล ศิลปินหญิงวัย 51 ปี ภายหลังผลการตรวจดีเอ็นเอ ภายใต้คำสั่งของศาลอุทธรณ์กรุงบรัสเซลส์ ได้กลายเป็นหลักฐานยืนยันเรื่องดังกล่าว
เป็นระยะเวลาเนิ่นนานกว่า 20 ปี ที่ เดลฟีน โบเอล พยายามออกมาเปิดเผยความจริงว่าสมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 ทรงเคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวอย่างลับ ๆ กับมารดาของเธอ ในช่วงปี 2509-2527 ตั้งแต่ยังไม่ทรงขึ้นครองราชย์ และเธอก็เป็นบุตรสาวนอกสมรสของพระองค์ อย่างไรก็ตาม สมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 ทรงปฏิเสธเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด โดยที่ทางศิลปินหญิงก็ไม่สามารถทำอะไรได้
จนกระทั่งถึงคราวที่สมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 ทรงสละราชสมบัติในปี 2556 เดลฟีน โบเอล จึงเริ่มกระบวนการฟ้องร้องตามกฎหมาย ขอให้ศาลมีการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของเธอกับสามีของมารดา ซึ่งเป็นผู้เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เยาว์วัย จนกระทั่งได้รับการยืนยันว่าเขาไม่ใช่บิดาโดยสายเลือดของเธอ
กระทั่งในปี 2561 เดลฟีน โบเอล ก็ยังคงเดินหน้าต่อสู้ในชั้นศาล เพื่อจะพิสูจน์ความจริงที่ว่าอดีตกษัตริย์แห่งเบลเยียม คือบิดาที่แท้จริงของเธอ จนในที่สุดศาลอุทธรณ์ก็มีคำสั่งให้ทำการตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งทีแรกสมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 ทรงแสดงท่าทีปฏิเสธ กระทั่งศาลมีคำสั่งปรับเงินพระองค์วันละ 5,000 ยูโร (ราว 169,000 บาท) หากยังทรงปฏิเสธ สมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 จึงทรงยอมส่งมอบตัวอย่างพระเขฬะ (น้ำลาย) เพื่อใช้ในการตรวจดีเอ็นเอ ในเดือนพฤษภาคม 2562
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา ทนายความในสมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 ก็ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า อดีตกษัตริย์เบลเยียมทรงทราบผลการตรวจดีเอ็นเอแล้ว และข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์ก็บ่งชี้ว่าพระองค์เป็นพระบิดาผู้ให้กำเนิด เดลฟีน โบเอล ด้วยเหตุนี้สมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 จึงทรงตัดสินพระทัยยุติขั้นตอนการต่อสู้ทางกฎหมายที่แสนเจ็บปวดนี้ ด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีของพระองค์
ขณะที่ทนายความของ เดลฟีน โบเอล เปิดเผยผ่านสื่อโทรทัศน์ว่า ลูกความของเขาก็รู้สึกโล่งใจจากผลที่ออกมาเช่นกัน หลังจากที่ชีวิตของเธอติดอยู่กับฝันร้ายมาแสนนาน เนื่องจากความสงสัยในตัวตนของเธอ และยังถูกบิดาผู้ให้กำเนิดปฏิเสธตัวตนของเธออย่างโหดร้าย เมื่อมีข้อกังขาในความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพระองค์ปรากฏต่อสาธารณะ






