พีท คนเลือกบวก ยอมรับ มีคู่นอนมาแล้วพันคน มีเซ็กส์ทั้งแบบสดและไม่สด แต่ไม่มีใครติดเชื้อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ ยอมรับ ทฤษฎี U=U อย่างที่พีทอ้างนั้นเป็นจริง แต่มีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาร่วมด้วย
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 จากกรณีที่พีท คนเลือดบวก ออกมาเปิดคอร์สสอนมีเซ็กส์แบบไม่ป้องกัน สำหรับคนติดเชื้อ HIV แต่กลับถูกกระแสต่อต้านจากโลกโซเชียลหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กิ่ง นริญญา ที่ออกมาเปิดหน้าวิวาทะกับพีทแบบสด ๆ จนกลายเป็นเรื่องร้อนแรงในโลกออนไลน์ (เปิดคอมเมนต์ พยาบาลสาว จัดหนักแรงให้ พีท คนเลือดบวก อ่านแล้วหน้าสั่น)
ล่าสุด รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า พีท คนเลือดบวก เผยว่า พีทรับเชื้อมาทั้งหมด 4 ปีแล้ว และพีทไปตรวจเจอเชื้อโดยบังเอิญ แต่ตอนนี้พีทรับยาต้านไวรัสอย่างสม่ำเสมอ เมื่อตรวจเลือดก็พบว่าค่าเชื้อน้อยกว่า 40 จึงทำให้ไม่ได้ส่งต่อเชื้อไปยังคนอื่น
ทั้งนี้ ตนเคยโพสต์เรื่องการมีเซ็กส์โดยไม่ใช้ถุงยางแบบปลอดภัยมาแล้ว เพราะในสังคมมีคนที่นิยมมีเซ็กส์โดยไม่ใส่ถุงยางจริง ๆ ตนหวังให้คนกลุ่มนี้ได้รับการช่วยเหลือ ส่วนเรื่องการฟ้องพยาบาล กิ่ง นริญญา เพราะเขาเข้าใจใจตนผิด และพูดถึงตนในทางเสียหาย แต่สิ่งที่ตนอธิบายนั้น เป็นเรื่องที่ถูกแล้ว
เมื่อถามว่า พีทมีคู่นอนมาแล้วเท่าไร พีทบอกว่า ประมาณพันกว่าคน
และมีทั้งแบบใส่ถุงยางและไม่ใส่ถุงยาง ตรงตามทฤษฎี U=U (ไม่พบเชื้อ =
ไม่แพร่เชื่อ) ส่วนที่มีคนบอกว่า ถ้าคนมีเชื้อ HIV ไปมีเซ็กส์กับคนมีเชื้อ
HIV แล้วจะเป็นการรับเชื้อมาเพิ่มนั้น ตนถามศูนย์วิจัยโรคเอดส์แล้ว
ได้คำตอบว่า ทฤษฎีนี้ไม่มีจริง
เป็นเพียงทฤษฎีที่มีไว้หลอกคนเลือดบวกไม่ให้มีเซ็กส์โดยไม่ใส่ถุงยางเท่านั้น
สิ่งที่ตนพูด เพราะหวังให้คนในสังคมยอมรับคนเลือดบวกมากขึ้น อยากให้เกิดความเท่าเทียม คนที่กินยาต้าน เพราะเขาไม่ต้องการแพร่เชื้อให้ใคร ส่วนกับพยาบาลสาวนั้น ตนไม่ได้ติดต่อคู่กรณี หากเขาจะขอโทษ ตนก็พร้อมรับไว้ และยุติเรื่องราวทั้งหมด ให้โอกาสน้องเขาต่อไป ไม่ร้องเรียนไปยังหน่วยงานต้นสังกัด
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พีทพูดมันทำให้เกิดความเข้าใจผิด ความหมายของหมอคือ คนติดเชื้อ HIV ต้องกินยาต้านเป็นประจำ จากนั้นจะสามารถมีชีวิตได้ตามปกติ รวมไปถึงการมีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่สิ่งที่พีทพูดกลับทำให้คนเข้าใจผิด เหมือนชวนคนมีมามีเซ็กส์กันแบบสด ๆ โดยไม่ใส่ถุงยางอนามัย ไม่ว่าคนนั้นจะมีเชื้อหรือไม่มีเชื้อก็ตาม
ส่วนยาต้านที่องค์การเภสัชกรรมของไทยผลิตนั้น จะมี 3 สูตรรวมกัน ให้ผู้ป่วยกิน 6 เดือน คนที่กินยาจะมีเชื้อในเลือดน้อยมาก ทำให้การแพร่เชื้อไม่เป็นที่น่ากังวล แต่อยากฝากเอาไว้ว่า เราไม่มีทางรู้ว่าคนที่เรามีเพศสัมพันธ์นั้น ติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อ การสวมถุงยางอนามัยจึงเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด
ด้าน นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระ กล่าวว่า
ที่ผ่านมามีองค์กรที่พยายามรณรงค์เรื่องเพศ และสร้างการรับรู้ในสังคมไทย
แต่ถูกยุบไป เพราะคนในสังคมไม่มีวิสัยทัศน์ในเรื่องนี้มากพอ
กรณีของพีทนั้น เป็นการโพสต์ข้อความหว่านเกินไป จนจุดเป็นกระแสในสังคม
หากพีทต้องการสร้างการรับรู้ในเรื่อง HIV อย่างถูกวิธี
พีทควรให้ข้อมูลโดยละเอียด สังคมจะได้เปลี่ยนจาก
ใครที่ติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อ กลายเป็น ใครที่แพร่เชื้อหรือไม่แพร่เชื้อ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก