สาวเปิดใจถูกช่างร้านทำผม ใช้น้ำยากัดสีผมทำหัวเป็นแผลเหวอะ
แต่ไร้ความรับผิดชอบ บอกไม่ได้ตั้งใจ ขอจบเรื่องโอนค่าทำสีผมคืน 1,000 บาท
ก่อนปิดร้านหนี
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Davika Moonnin โพสต์อุทาหรณ์เกี่ยวกับประสบการณ์เลวร้ายในการทำสีผม
ถูกน้ำยาทำสีผมที่เจ้าของร้านผสมมาทำผม กัดบริเวณท้ายทอยจนเป็นแผลเหวอะ
ซึ่งทางร้านปัดความรับผิดชอบและปิดร้านหนีนั้น
ล่าสุด (8 มีนาคม 2563) อมรินทร์ ทีวี ได้สอบถามไปยัง น.ส.ดาริกา อายุ 28 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนไม่เคยทำสีผมมาก่อน จึงอยากลองทำดู เพราะเห็นพี่ที่ทำงานไปทำที่ร้านทำผม ภายในซอยรามคำแหง 21 แล้วออกมาดี จึงขอเบอร์ติดต่อร้านดังกล่าว ตอนนั้นตนอยากทำสีเทาจึงตกลงกับทางร้านในราคา 1,500 บาท และนัดให้มาทำวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ช่วงเที่ยง
ล่าสุด (8 มีนาคม 2563) อมรินทร์ ทีวี ได้สอบถามไปยัง น.ส.ดาริกา อายุ 28 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนไม่เคยทำสีผมมาก่อน จึงอยากลองทำดู เพราะเห็นพี่ที่ทำงานไปทำที่ร้านทำผม ภายในซอยรามคำแหง 21 แล้วออกมาดี จึงขอเบอร์ติดต่อร้านดังกล่าว ตอนนั้นตนอยากทำสีเทาจึงตกลงกับทางร้านในราคา 1,500 บาท และนัดให้มาทำวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ช่วงเที่ยง
เมื่อตนไปถึงร้านตามเวลาที่นัดไว้ เห็นเจ้าของร้านจัดเตรียมน้ำยาทำสีผมไว้รอแล้ว ด้วยความไว้ใจเห็นว่าเขารู้จักกับพี่ที่ทำงาน ตนจึงไม่ได้กังวลและไม่ได้สอบถามว่าใช้น้ำยากัดสีผมยี่ห้ออะไร
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Davika Moonnin
ขณะนั้นตนปวดร้อนจนทำอะไรไม่ถูก สักพักช่างก็เดินออกมาจากห้องน้ำตนจึงให้เขาดูแผล ซึ่งช่างบอกกลับมาว่าแค่น้ำร้อนลวกพองนิดเดียว ก่อนจะทาทรีตเมนต์ลงไปที่แผล บอกว่าเป็นการล้างสารพิษ ตนงงมากว่าแผลน้ำร้อนลวก แต่เอาทรีตเมนต์มาใส่ให้ทำไม จึงบอกกลับไปว่าช่วยเอาอะไรที่ดีกว่านี้มาทาให้หน่อย ช่างจึงไปหักว่านหางจระเข้และยาสีฟันมาถูแผลให้
จากนั้นช่างก็ยังมาทำผมต่อ พร้อมพูดปลอบตนตลอดว่าไม่ได้ตั้งใจ จนทำสีเสร็จ ช่างลดให้ 500 บาท และบอกว่าให้ตนไปหาหมอ ส่วนที่เหลือ 1,000 บาท ให้ตนโอนจ่าย พอกลับถึงบ้านตนรู้สึกปวดแสบปวดร้อนมากขึ้นจึงไปหาหมอที่โรงพยาบาล หมอบอกว่า ตนถูกน้ำยากัดสีผมกัดจนเป็นแผล หากกัดสีผมห้ามใช้เครื่องอบไอน้ำ เพราะจะทำให้สารฟอกสีจากน้ำยากัดสีผมเกิดการพองตัว เมื่อโดนความร้อนจะเกิดการปะทุ น้ำยากัดสีละลายไหลลงมาถูกท้ายทอยจนเป็นแผล เสี่ยงติดเชื้อ
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
จากนั้นตนจึงนัดเจอกันที่ สน.หัวหมาก เพื่อเจรจากันในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา แต่อีกฝ่ายก็ไม่มาตามนัด แถมบล็อกช่องทางการติดต่อ และย้ายร้านหนีไปอย่างปัดความรับผิดชอบ ทางตำรวจทำได้เพียงลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบร้านจุดเกิดเหตุ ภายในซอยรามคำแหง 21 เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ปัจจุบันร้านดังกล่าวไม่เปิดให้บริการ และติดป้ายประกาศให้เช่า

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Davika Moonnin

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Davika Moonnin
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก








