หัวโจกแก๊งแชตฉาว Nth room ขอโทษสังคม หลังลวงเหยื่ออัดคลิปทารุณทางเพศ ปล่อยแลกเงิน

 

              หนุ่มศูนย์กลางห้องแชตฉาว Nth room ขอโทษสังคม ขอบคุณที่ช่วยหยุดชีวิตที่โหดร้าย ที่หยุดเองไม่ได้ ด้านสังคมกดดัน ร้องตำรวจติดตามตัวให้ได้ยกก๊วน 2.6 แสนคนที่จ่ายเงินเข้าดูคลิปทารุณทางเพศ

              จากกรณี ห้องแชตฉาว "Nth room" ซึ่งเป็นคดีอาชญากรรมทางเพศที่อื้อฉาวสุดในเกาหลีใต้ขณะนี้ เมื่อกลุ่มชายวิปริตได้ล่อลวงเหยื่อกว่า 74 คน มาอัดคลิปกระทำทารุณกรรมทางเพศด้วยวิธีต่าง ๆ รวมถึงมีการรุมโทรม นำมาเผยแพร่ลงห้องแชต Nth room ในเทเลแกรม โดยจะมีการเรียกเก็บเงินจากสมาชิกที่ต้องการเข้าร่วม และน่าช็อกที่พบว่ามีสมาชิกที่เกี่ยวข้องกับห้องแชตดังกล่าวมากถึง 260,000 คน

              โดยทางตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วจำนวนหนึ่ง รวมถึง โช จู บิน ชายวัย 25 ปี ที่เป็นตัวการสำคัญเบื้องหลังห้องแชตนี้ ซึ่งกระแสสังคมได้กดดันและส่งคำร้องถึงทำเนียบประธานาธิบดี จนมีการเปิดโปงโฉมหน้าผ่านสื่อ

              อ่านข่าว : เปิดคดี แฉห้องแชตฉาว Nth room แพร่คลิปทารุณ-ขยี้กามสาว อึ้งคนมีเอี่ยว 2.6 แสน

              ล่าสุด (25 มีนาคม 2563) เว็บไซต์ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า ทางตำรวจเกาหลีใต้ชี้ว่า โช จู บิน ซึ่งเป็นหนึ่งในคนจัดตั้งเครือข่ายดังกล่าว จะถูกตั้งข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ร.บ.ความเป็นส่วนตัว รวมถึงจะมีการตั้งข้อหาอื่น ๆ เกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ การข่มขู่ ขู่กรรโชก และได้ส่งเรื่องให้ทางอัยการแล้ว

              ขณะที่ โช จู บิน ซึ่งได้ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อครั้งแรกในวันนี้ (25 มีนาคม) ระหว่างถูกนำตัวออกจากสำนักงานตำรวจกรุงโซล ได้กล่าวว่า "ผมต้องขอโทษ ใครก็ตามที่ต้องเจ็บปวดเพราะผม" และ "ขอบคุณที่ช่วยหยุดชีวิตของปีศาจ ที่ผมไม่สามารถหยุดเองได้"

              ทั้งนี้ ทางสังคมได้เรียกร้องตำรวจให้เปิดฉากการสอบสวนอย่างจริงจัง ไม่เพียงแต่ติดตามกลุ่มคนที่ตั้งห้องแชต Nth room แต่ยังขอให้มีการติดตามคนที่เข้ามาร่วมกลุ่ม ซึ่งพบว่าสมาชิกต้องมีการจ่ายเงินสูงถึง 1.5 ล้านวอน หรือราว 40,000 บาท ในการเข้าชมคลิปและภาพที่มีความรุนแรงทางเพศเหล่านี้

              ด้าน มิน กัป-รยอง ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลี เผยว่า จากการสอบสวนอย่างเข้มข้น ทางตำรวจจะเปลี่ยนแปลงความเมินเฉยต่อสังคม ที่มีต่ออาญาชากรรมทางเพศออนไลน์ และจำกัดอาชญากรรมรุนแรงเช่นนี้ไปจากสังคม ซึ่งทางตำรวจจะระดมอำนาจทั้งหมดที่มีในการจัดการคดีนี้

              นอกจากนี้ ตำรวจเกาหลีใต้ยังจะร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในหลาย ๆ ประเทศ ทั้งในสหรัฐฯ อังกฤษ ตำรวจสากล และบริษัทด้านไอทีรายใหญ่ของโลกอย่าง กูเกิล เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ ในการติดตามอาชญากรรมดิจิทัล บนเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศ

              อนึ่ง ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลี เผยกับสื่อว่าขณะนี้ได้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยแล้ว 124 ราย และจับกุมผู้ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการฉาวบนเทเลแกรมและโซเชียลอื่น ๆ อีก 18 คน รวมถึง โช จู บิน