แฉประวัติหัวโจก ปั่นเพื่อนนักโทษ เผาเรือนจำบุรีรัมย์ เสียหาย 70 ล้าน - ประวัติโชกโชน

          เผยนักโทษหัวโจก ปั่นเพื่อนนำทีมเผาเรือนจำบุรีรัมย์ สร้างความเสียหายมูลค่า 70 ล้านบาท แฉประวัติโชกโชน เข้าสถานพินิจฯ ตั้งแต่ยังเป็นเยาวชน คนมีสีเข้าเยี่ยมบ่อย


          จากกรณีเหตุการณ์นักโทษในเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ 100 คน ก่อเหตุจลาจล ทุบทำลายห้องเยี่ยมและวางเพลิงโรงครัว จนเจ้าหน้าที่ต้องใช้ปืนยิงสกัด แต่ก็ไม่เป็นผล โดยมีนักโทษหลบหนีก่อนจะถูกตามจับได้จำนวนหนึ่ง ซึ่งต่อมาพบว่า แกนนำที่ปลุกปั่นเพื่อนนักโทษนั้นเพิ่งถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในคดียาเสพติด ปลุกปั่นผู้ต้องขังรายอื่น โดยปล่อยข่าวมีผู้ติด โควิด 19 ในเรือนจำ

อ่านข่าว : ส่องร่องรอย เรือนจำบุรีรัมย์ หลังนักโทษแหกคุก แฉแกนนำแสบปลุกปั่นก่อจลาจล



          ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 31 มีนาคม 2563 เดลินิวส์ รายงานว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า แกนนำนักโทษคนดังกล่าว มีประวัติเคยถูกส่งตัวเข้าสถานพินิจฯ ตั้งแต่ยังเป็นเยาวชน เคยต้องโทษจำคุกที่เรือนจำภาคเหนือ ก่อนย้ายมาเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ จนได้รับการปล่อยตัว เมื่อออกไปแล้วก็ยังทำความผิดซ้ำและกลับมาติดคุกอีก

          ตลอดเวลาที่อยู่ในเรือนจำนั้น ผู้ต้องขังรายนี้มีปัญหากับผู้อื่นตลอด ก่อนจะสร้างแผนปลุกปั่นให้ผู้ต้องขังรายอื่นกลัวติดโรคโควิด 19 จนเกิดเหตุเผาเรือนจำขึ้น ทั้งนี้ ผู้บัญชาการเรือนจำได้จับตามองโดยตลอด เพราะพบว่ามีการเยี่ยมญาติบ่อยครั้ง และพบว่ามีคนมีสีมาเยี่ยมด้วย


          นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์นักโทษเผาเรือนจำนั้น ส่งผลให้มีมูลค่าความเสียหายถึง 70 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น อาคารเรือนนอน 3 อาคาร ราคาหลังละ 20 ล้านบาท และจุดอื่น ๆ มูลค่า 10 ล้านบาท ขณะที่มีผู้บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยด้วยการถูกกระจกบาด ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนผู้ที่บาดเจ็บหนักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมีเพียง 1 คนเท่านั้น

          ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนออกเป็น 2 ชุด คือ 1. สอบผู้ต้องขัง 2. สอบผู้บัญชาการเรือนจำถึงสาเหตุที่เกิด ส่วนญาติพี่น้องที่มีความกังวลในการย้ายผู้ต้องขังว่าไปอยู่ที่ใดบ้าง สามารถสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ หรือติดต่อไปยังเทศบาลจังหวัดบุรีรัมย์ และทางเฟซบุ๊กของกรมราชทัณฑ์


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก