หมอระวี ซัดเดือด จี้อัยการคดีพิเศษยื่นอุทธรณ์ คดี โอ๊ค พานทองแท้ ฟอกเงินกรุงไทย

         นายแพทย์ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ โพสต์จี้อัยการคดีพิเศษ ยื่นอุทธรณ์ คดีโอ๊ค พานทองแท้ ฟอกเงินกรุงไทย เตือนอัยการมีหน้าที่รักษาประโยชน์ของชาติ อย่าทำภาพลักษณ์เสีย

         จากกรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษายกฟ้อง นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ โอ๊ค ในคดีฟอกเงินกู้แบงก์กรุงไทย โดยระบุว่า พยานหลักฐานไม่ชัดเจนและไม่เพียงพอ ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น

อ่านข่าว : ศาลพิพากษา ยกฟ้อง โอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร คดีฟอกเงินกรุงไทย

         เกี่ยวกับเรื่องนี้ (26 เมษายน 2563) มีรายงานว่า นายแพทย์ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ได้มีการโพสต์ข้อความกล่าวถึงเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊ก หลังอัยการคดีพิเศษแจ้งมาทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า คดีนี้ทางอัยการคดีพิเศษจะไม่อุทธรณ์ ทำให้ทางดีเอสไอต้องตั้งคณะกรรมการ 5 คน มาพิจารณาว่าควรจะอุทธรณ์หรือไม่ และเมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา ทางดีเอสไอได้ข้อสรุปว่า ไม่เห็นด้วยกับความเห็นของอัยการคดีพิเศษ ซึ่งเห็นควรว่าอัยการคดีพิเศษควรต้องยื่นอุทธรณ์และส่งเรื่องกลับไปให้อัยการคดีพิเศษเพื่อพิจารณาตามกฎหมายต่อไปนั้น

         นายแพทย์ระวี ระบุว่า พรรคพลังธรรมใหม่ ขอชื่นชมในการตัดสินใจของดีเอสไอเป็นอย่างมาก ที่ยืนหยัดไปในแนวทางที่รักษาผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง และทางพรรคขอเรียกร้องต่อทางอัยการคดีพิเศษ ดังนี้...

         1. ขอให้อัยการคดีพิเศษยื่นอุทธรณ์ต่อศาลตามที่ดีเอสไอส่งความเห็นกลับมา ด้วยเหตุผลดังนี้...

         1.1 คดีนี้ผู้พิพากษาศาลชั้นต้น 2 ท่าน มีความเห็นต่างกัน ผู้พิพากษาเจ้าของคดีเห็นว่าควรจำคุกนายพานทองแท้ แต่ผู้พิพากษาอีกท่านเห็นควรให้ยกฟ้อง ซึ่งตามระเบียบของศาลต้องตัดสินในแนวทางที่เป็นผลประโยชน์ต่อจำเลยมากที่สุด ทำให้คำพิพากษาศาลชั้นต้นยกฟ้อง เมื่อรายละเอียดของคดีเป็นแบบนี้ จริง ๆ แล้วอัยการคดีพิเศษควรจะต้องยื่นอุทธรณ์ไป เพื่อให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้ตัดสินใหม่ การตัดสินใจไม่อุทธรณ์ของอัยการในครั้งนี้จึงไม่น่าจะเหมาะสม

         1.2 คดีนี้เป็นคดีของลูกชาย ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี การตัดสินใจไม่อุทธรณ์ของอัยการคดีพิเศษในครั้งนี้ ทำให้เกิดคำถามและข้อสงสัยของประชาชนเป็นจำนวนมาก ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอัยการ อัยการยังมีจุดยืนเป็นทนายของแผ่นดินที่เป็นผู้รักษาผลประโยชน์ของชาติอยู่หรือไม่ อาจทำให้สูญเสียภาพลักษณ์ที่ดีของอัยการต่อประชาชนไป

         1.3 เคยมีตัวอย่างคดีเลี่ยงหุ้นชินคอร์ป ของนางพจมาน ชินวัตร ในปี 2554 ในช่วงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี อัยการตัดสินใจไม่ยื่นฎีกาคดี ทำให้จบคดีลงโดยไม่มีการยื่นฎีกา ซึ่งเป็นที่คาใจของประชาชนเป็นจำนวนมากจนถึงทุกวันนี้ในจุดยืนของอัยการชุดนั้น

         2. พรรคขอเรียกร้องให้อัยการคดีพิเศษเขียนคำอุทธรณ์คดีนี้อย่างละเอียดและรัดกุมบนจุดยืนที่ต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติให้ถึงที่สุด สมกับการเป็นทนายของแผ่นดิน เพราะมีประชาชนจำนวนมากเคยเล่าลือกันมากว่า ในคดีบางคดีอัยการเขียนคำอุทธรณ์ - คำฎีกา แบบไม่สู้เต็มที่ ทำให้จำเลยหลุดคดี

         ทั้งนี้ พรรคพลังธรรมใหม่ หวังว่าคดีนี้จะไม่เดินซ้ำรอยประวัติศาสตร์คดีของนางพจมาน ในปี 2554 ซึ่งถ้าอัยการคดีพิเศษไม่ยื่นอุทธรณ์คดีนี้ นอกจากอัยการจะตกเป็นจำเลยของสังคมแล้ว จะส่งผลไปถึงรัฐบาลด้วยที่จะต้องมีคนออกมาตั้งคำถามว่า รัฐบาลซูเอี๋ยกับ ดร.ทักษิณ หรือไม่ จึงขอให้อัยการคดีพิเศษตัดสินใจบนจุดยืนเพื่อชาติ เพื่อประชาชนเป็นที่ตั้ง

         โดยทางพรรคพลังธรรมใหม่ จะไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ในวันจันทร์ที่ 27 เมษายน 2563 เวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล และในวันเดียวกันก็จะไปยื่นหนังสือต่ออัยการคดีพิเศษ ที่สำนักงานอัยการคดีพิเศษ เวลา 11.00 น.



ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก หมอระวี มาศฉมาดล