กานดา อาร์สยาม แจงดราม่าเดือดเป็นไฟ ด่าลูกค้าในไลฟ์ขายมะขาม ยอมรับเป็นคนโผงผาง พูดจาตรง ๆ อยากให้คนติดตามผลงาน มากกว่าติดตามนิสัย ชี้เดือดเพราะโดนด่าขยะสังคม ลูกกะXรี่ - อัดคลิปขอโทษแล้ว จะปรับปรุงตัว

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Red Skull Society
จากกรณีนักร้องสาว กานดา อาร์สยาม ออกมาไลฟ์ขายของออนไลน์เมนู มะขามแช่อิ่ม มะขามคลุก แต่กลับมาเดือดกลางไลฟ์ เพราะระหว่างที่เธอขายของกลับพูดจากระแทกกระทั้น ใส่อารมณ์และหยาบคาย หลังคนอื่นมองว่าเป็นนักร้องต้องเป็นแบบอย่างของคนอื่น ต้องพูดจาดี ๆ กับลูกค้า ซึ่งเธอบอกว่าพูดดี ๆ ไปก็ไม่มีใครซื้อ แน่จริงมาซื้อสิ มีปัญญาซื้อไหม ต่อมาคลิปของเธอถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เธอบอกจะดำเนินคดีกับทุกเพจที่ตัดคลิปไปลง
อ่านข่าว : กานดา นักร้องดัง ประกาศเอาผิดทุกเพจ แคปไลฟ์ไปประจาน ด่าลูกค้าไม่มีปัญญาซื้อ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Red Skull Society
จากการที่ตนเป็นศิลปินนักร้อง ภาพออกไปอาจจะดูไม่สวยงาม ตนบอกเสมอว่าตนเป็นคนแบบไหน นิสัยแบบเด็กกะโปโล เป็นเด็กต่างจังหวัด คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น ไม่มีเสแสร้ง ถ้าภาพหรือการไลฟ์เป็นการไม่สุภาพก็ให้เลื่อนผ่านได้เลย และตนอยากให้ติดตามผลงานมากกว่าติดตามนิสัยของตนเอง

นอกจากนี้ กานดา อาร์สยาม ยังได้อัดคลิปขอโทษต้นสังกัด ขอโทษสังคมและแฟนคลับในสิ่งที่ทำลงไปอีกด้วย ระบุว่า กราบขออภัยทางต้นสังกัด ขอโทษไปทางผู้ใหญ่ ขอโทษแฟนคลับทุกท่านที่ตอนนี้ไม่รักกานดาไปแล้ว คิดว่ากานดาเป็นคนไม่น่ารักไปแล้ว ไม่อยากติดตามผลงานของกานดาแล้ว กานดาน้อมรับทุกคำติ น้อมรับทุกคำแนะนำ กานดาอยากให้ทุกคนมองในมุมที่บางเพจเอาคลิปไปตัดแค่บางช่วงที่กานดาด่า แต่เขาไม่ได้เห็นทั้งหมดตั้งแต่แรก ว่าทำไมถึงด่า

ภาพจาก เฟซบุ๊ก กานดา บุญญาวงศ์
ตอนนี้กานดามาสวมบทเป็นแม่ค้าแล้วค่ะ เพราะว่าโควิด-19 ต้องมาขายใกล้ตัว ซึ่งมะขามแช่อิ่มขายมา 3 ปีแล้ว ปีนี้เข้าปีที่ 4 ก่อนที่จะมาขายมะขาม กานดาขายของออนไลน์ ซึ่งเป็นสไตล์พูดมึงพูดกู พูดบ้าน ๆ ไม่ได้เลียนแบบใคร เพราะคนที่ติดตามมานานจะเข้าใจ และจะรู้ว่ากานดาเป็นคนมีเหตุผล ไม่เคยด่าใครก่อน
อีกทั้งหลายคนที่สั่งของมาเล่น ๆ ราคาตั้งแต่ 600-2,000 บาท แต่ไม่จ่ายเงิน ไม่รับของ ซึ่งมะขามแช่อิ่มมีอายุแค่ 7-10 วัน และมีคนเข้ามาด่าถึงบุพการีอีก ซึ่งก็ทำให้ตนโมโหมาก ๆ สติหลุด

ฟังคลิปขอโทษ และคำชี้แจงเต็ม ๆ ของ กานดา อาร์สยาม ได้ที่นี่

>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการทุบโต๊ะข่าว, RSIAM