หมอแนต นิษฐา เอื้ออารีมิตร ใส่หน้ากากอนามัย วิ่งออกกำลังกาย ย้ำ มีการคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์ในหน้ากาก ควรถอด-ขยับบ้าง ชี้ผลที่ได้จากการทดลอง อาจแตกต่างกันได้ในแต่ละบุคคล - คนมีโรคประจำตัวหรือเป็นโรคหัวใจควรเลี่ยง
ในช่วงการแพร่ระบาดของโรค Covid 19 นั้น ทำให้หลายคนต้อง งดการออกกำลังกายนอกบ้าน เพราะทางการสั่งปิดหลายสถานที่เพื่อสกัดการระบาดของโรค แต่หลังจากที่มีมาตรการผ่อนปรน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้เปิดหลายสถานที่ได้ รวมถึงสวนสาธารณะ เหล่าคนรักสุขภาพต่างก็พากันมาออกกำลัง และด้วยความที่ต้องการป้องกันตัวเอง หลายคนก็เลือกที่จะสวมหน้ากากอนามัยวิ่งออกกำลังกาย ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็มีเพจทางการแพทย์ ออกมาเตือนว่าไม่ควรสวมหน้ากากอนามัย ระหว่างวิ่ง เหตุปอด หัวใจ หลอดเลือด ทำงานหนัก ยิ่งหายใจเร็วขึ้น เหนื่อยมากขึ้น ก็จะแย่ลง
อ่านข่าว : เพจหมอ เตือน ใส่หน้ากากอนามัย วิ่งออกกำลังกาย เสี่ยงอันตรายยิ่งกว่าเดิม
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 9 พฤษภาคม 2563 หมอแนต นิษฐา เอื้ออารีมิตร แพทย์ชำนาญพิเศษด้านอายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินหายใจ ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Nittha Oer-areemitr ว่า ตนเองได้ทำการทดลองสวมหน้ากากอนามัยขณะวิ่ง ซึ่งตนเองมีสุขภาพปกติ ไม่ฟิตมาก อีกทั้งยังมีอาการบาดเจ็บ แต่ยังออกกำลังกายสม่ำเสมอ ก่อนจะสมมุติตัวอย่างขึ้นมาโดยอ้างอิงจากชีวิตจริงว่าคนที่สวมหน้ากากอนามัยขณะวิ่ง จะมีลักษณะประมาณไหน โดยผลการทดลองมีดังนี้
- อัตราการเต้นของหัวใจ สูงกว่าปกติ ประมาณ 5-10 ครั้งต่อนาที ในแต่ละช่วงเวลา
- การเพิ่มขึ้นของอัตราการเต้นของหัวใจ ชันกว่าไม่สวมหน้ากากเล็กน้อย (คิดว่าถ้าวิ่งหนักกว่านี้ น่าจะเห็นชัดขึ้น)
- ไม่พบภาวะเลือดเป็นกรดเลย (pH อยู่ที่ 7.44-7.45 ตลอด)
- ออกซิเจนในเลือด (PaO2) ต่ำลงเรื่อย โดยเฉพาะตอนที่เพิ่มความเร็ว ช่วงท้ายไปเป็น zone 3 พบว่ามีออกซิเจนในเลือดต่ำเล็กน้อยร่วมด้วย
- คาร์บอนไดออกไซด์ ไม่ได้คั่งอย่างที่คาดไว้ตอนแรก ปอดสามารถขับออกได้ดีมาก ๆ แต่เกิดการหายใจกลับของคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 rebreathing) ซึ่งทำให้เกิดภาวะออกซิเจนต่ำตอนท้ายของการออกกำลังกาย (น่ากลัวมาก เพราะไม่รู้สึกเหนื่อยผิดปกติเลย)
สำหรับการนำไปใช้นั้น คุณหมอแนะนำว่า หน้ากากผ้า แบบ 3D เวลาใช้ออกกำลังกาย จะมีการคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์ในหน้ากากจริง ๆ ทำให้เกิดภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ เมื่อออกกำลังกายถึงจุดหนึ่ง และความอันตรายอยู่ที่เวลาออกซิเจนในเลือดต่ำลง จะไม่รู้สึกเหนื่อย น่ากลัวในคนที่มีโรคหัวใจซ่อนอยู่ อาจจะทำให้เกิดภาวะวิกฤตขึ้นมาได้
ส่วนคนที่ร่างกายฟิต ต้องการออกกำลังกายโดยสวมหน้ากากอนามัยจริง ๆ ต้องเปิดหน้ากากเป็นระยะ และแวะจิบน้ำทุก 2 กิโลเมตร ไม่แนะนำให้คนที่มีโรคประจำตัว หรือมีความเสี่ยงสูงต่อโรคปอด โรคหัวใจ ผู้สูงอายุ มาใส่หน้ากากออกกำลังกาย และอย่าถอดหน้ากาก ตอนไปที่สาธารณะที่คุณมีโอกาสอยู่ใกล้ชิดคนอื่นเกิน 2 เมตร
อย่างไรก็ตามผลที่ได้จากการทดลองนี้ อาจจะแตกต่างกันก็ได้ในแต่ละบุคคล เพราะขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น ความฟิตของร่างกาย อุณหภูมิขณะวิ่ง (ยิ่งร้อน ยิ่งสร้างคาร์บอนไดออกไซด์เยอะ) ลักษณะของหน้ากากที่ใช้ เป็นต้น
![หมอแนต หมอแนต]()
![หมอแนต หมอแนต]()
ระดับออกซิเจน ตกลงโดยไม่รู้สึกเหนื่อย ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nittha Oer-areemitr
![หมอแนต หมอแนต]()
อัตราการเต้นของหัวใจ ในความเร็วที่เท่ากัน ขณะใส่ และไม่ใส่หน้ากาก ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nittha Oer-areemitr
![หมอแนต หมอแนต]()
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดและจากลมหายใจ ปกติตอน rest เส้นเขียวจะสูงกว่าเส้นฟ้า และตอนออกกำลังกาย เส้นฟ้าก็จะสูงกว่าเส้นเขียว ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nittha Oer-areemitr
![หมอแนต หมอแนต]()
มีการคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์ในหน้ากากขึ้นจริง ที่แกว่งสูง ๆ ต่ำ ๆ น่าจะจากการขยับหน้ากาก ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nittha Oer-areemitr
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Nittha Oer-areemitr
ในช่วงการแพร่ระบาดของโรค Covid 19 นั้น ทำให้หลายคนต้อง งดการออกกำลังกายนอกบ้าน เพราะทางการสั่งปิดหลายสถานที่เพื่อสกัดการระบาดของโรค แต่หลังจากที่มีมาตรการผ่อนปรน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้เปิดหลายสถานที่ได้ รวมถึงสวนสาธารณะ เหล่าคนรักสุขภาพต่างก็พากันมาออกกำลัง และด้วยความที่ต้องการป้องกันตัวเอง หลายคนก็เลือกที่จะสวมหน้ากากอนามัยวิ่งออกกำลังกาย ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็มีเพจทางการแพทย์ ออกมาเตือนว่าไม่ควรสวมหน้ากากอนามัย ระหว่างวิ่ง เหตุปอด หัวใจ หลอดเลือด ทำงานหนัก ยิ่งหายใจเร็วขึ้น เหนื่อยมากขึ้น ก็จะแย่ลง
อ่านข่าว : เพจหมอ เตือน ใส่หน้ากากอนามัย วิ่งออกกำลังกาย เสี่ยงอันตรายยิ่งกว่าเดิม
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 9 พฤษภาคม 2563 หมอแนต นิษฐา เอื้ออารีมิตร แพทย์ชำนาญพิเศษด้านอายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินหายใจ ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Nittha Oer-areemitr ว่า ตนเองได้ทำการทดลองสวมหน้ากากอนามัยขณะวิ่ง ซึ่งตนเองมีสุขภาพปกติ ไม่ฟิตมาก อีกทั้งยังมีอาการบาดเจ็บ แต่ยังออกกำลังกายสม่ำเสมอ ก่อนจะสมมุติตัวอย่างขึ้นมาโดยอ้างอิงจากชีวิตจริงว่าคนที่สวมหน้ากากอนามัยขณะวิ่ง จะมีลักษณะประมาณไหน โดยผลการทดลองมีดังนี้
- อัตราการเต้นของหัวใจ สูงกว่าปกติ ประมาณ 5-10 ครั้งต่อนาที ในแต่ละช่วงเวลา
- การเพิ่มขึ้นของอัตราการเต้นของหัวใจ ชันกว่าไม่สวมหน้ากากเล็กน้อย (คิดว่าถ้าวิ่งหนักกว่านี้ น่าจะเห็นชัดขึ้น)
- ไม่พบภาวะเลือดเป็นกรดเลย (pH อยู่ที่ 7.44-7.45 ตลอด)
- ออกซิเจนในเลือด (PaO2) ต่ำลงเรื่อย โดยเฉพาะตอนที่เพิ่มความเร็ว ช่วงท้ายไปเป็น zone 3 พบว่ามีออกซิเจนในเลือดต่ำเล็กน้อยร่วมด้วย
- คาร์บอนไดออกไซด์ ไม่ได้คั่งอย่างที่คาดไว้ตอนแรก ปอดสามารถขับออกได้ดีมาก ๆ แต่เกิดการหายใจกลับของคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 rebreathing) ซึ่งทำให้เกิดภาวะออกซิเจนต่ำตอนท้ายของการออกกำลังกาย (น่ากลัวมาก เพราะไม่รู้สึกเหนื่อยผิดปกติเลย)
สำหรับการนำไปใช้นั้น คุณหมอแนะนำว่า หน้ากากผ้า แบบ 3D เวลาใช้ออกกำลังกาย จะมีการคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์ในหน้ากากจริง ๆ ทำให้เกิดภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ เมื่อออกกำลังกายถึงจุดหนึ่ง และความอันตรายอยู่ที่เวลาออกซิเจนในเลือดต่ำลง จะไม่รู้สึกเหนื่อย น่ากลัวในคนที่มีโรคหัวใจซ่อนอยู่ อาจจะทำให้เกิดภาวะวิกฤตขึ้นมาได้
ส่วนคนที่ร่างกายฟิต ต้องการออกกำลังกายโดยสวมหน้ากากอนามัยจริง ๆ ต้องเปิดหน้ากากเป็นระยะ และแวะจิบน้ำทุก 2 กิโลเมตร ไม่แนะนำให้คนที่มีโรคประจำตัว หรือมีความเสี่ยงสูงต่อโรคปอด โรคหัวใจ ผู้สูงอายุ มาใส่หน้ากากออกกำลังกาย และอย่าถอดหน้ากาก ตอนไปที่สาธารณะที่คุณมีโอกาสอยู่ใกล้ชิดคนอื่นเกิน 2 เมตร
อย่างไรก็ตามผลที่ได้จากการทดลองนี้ อาจจะแตกต่างกันก็ได้ในแต่ละบุคคล เพราะขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น ความฟิตของร่างกาย อุณหภูมิขณะวิ่ง (ยิ่งร้อน ยิ่งสร้างคาร์บอนไดออกไซด์เยอะ) ลักษณะของหน้ากากที่ใช้ เป็นต้น


ระดับออกซิเจน ตกลงโดยไม่รู้สึกเหนื่อย ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nittha Oer-areemitr

อัตราการเต้นของหัวใจ ในความเร็วที่เท่ากัน ขณะใส่ และไม่ใส่หน้ากาก ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nittha Oer-areemitr

ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดและจากลมหายใจ ปกติตอน rest เส้นเขียวจะสูงกว่าเส้นฟ้า และตอนออกกำลังกาย เส้นฟ้าก็จะสูงกว่าเส้นเขียว ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nittha Oer-areemitr

มีการคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์ในหน้ากากขึ้นจริง ที่แกว่งสูง ๆ ต่ำ ๆ น่าจะจากการขยับหน้ากาก ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nittha Oer-areemitr
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Nittha Oer-areemitr










