ไล่เรียงเหตุการณ์พบศพ น้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ หลังหายจากบ้านไป 3 วัน พบศพเปลือยกายกลางป่า เร่งล่าตัวบุคคลต้องสงสัย ตำรวจคาดเป็นหนุ่มสติไม่ดี ด้านญาติบอกมีคนในหมู่บ้านมาแก้แค้น
จากกรณี น้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หายตัวไปจากบ้านพัก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ซึ่งครอบครัว ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ ได้ปูพรมค้นหา กระทั่งวันที่ 14 พฤษภาคม พบศพน้องชมพู่ในสภาพเปลือยกายอยู่กลางป่าบริเวณภูหินเหล็กไฟ ท่ามกลางความเสียใจของญาติพี่น้องและครอบครัว
อ่านข่าว : พบศพ น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ หลังหายตัวปริศนากว่า 3 วัน พ่อ-แม่ตามหาแทบขาดใจ
ล่าสุด (14 พฤษภาคม 2563) รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า ก่อนที่จะเจอร่างน้องชมพู่ มีร่างทรงหลายที่โทร. มาหา บอกให้พ่อแม่ของน้องทำพิธีหลายอย่าง ซึ่งทั้งคู่ก็ยอมทำทั้งหมด เพื่อหวังจะได้เจอลูกสาว มีทั้งแนะนำให้จุดธูปไหว้เจ้าที่รอบบ้าน มีทั้งร่างทรงโทร. มาหาพร้อมพูดภาษาอีสาน ร้องไห้รำพึงรำพัน
โดยพูดว่า "มึงรู้ไหม กูอยู่ที่ดินผืนนี้มา 3 ปีแล้ว พวกมึงกินข้าวกินน้ำก็ไม่เคยเรียกกูกินด้วย กูชื่อตาสุบรรณกับยายวันทา กูเห็นลูกสาวมึงเล่นอยู่คนเดียว กูเอ็นดู กูจึงเอาลูกสาวพวกมึงมาเล่นด้วย ตอนนี้กูบังตาพวกมึงไว้ กูเลี้ยงลูกพวกมึงไว้" จากนั้นก็บอกว่าถ้าอยากเจอลูก ให้ซื้อชุดขาวพร้อมกับจัดเครื่องเซ่นไหว้มาให้พอใจ จึงจะปล่อยลูกสาวออกมา นอกจากนี้ ยังให้ใช้ธูป 16 ดอก ไหว้เจ้าที่และพระแม่ธรณี 4 ทิศ เพื่อขอขมาอีกด้วย
กระทั่งเวลา 17.00 น. (14 พฤษภาคม) นายตุ่น ชาวบ้าน ได้พบรองเท้าของน้องชมพู่ บริเวณเขาภูหินเหล็กไฟ ห่างจากบ้านน้องประมาณ 2 กิโลเมตร ใต้ร่มไม้ใหญ่มีเศษไม้ที่เพิ่งถูกหักได้ไม่นาน เหมือนเด็กหักกิ่งมาเล่นขายของ เจ้าหน้าที่จึงเร่งค้นหาต่อเนื่อง เมื่อมาถึงยอดเขา ห่างจากบ้านน้องประมาณ 4 กิโลเมตร ก็พบศพน้องชมพู่ ผู้ที่พบศพคนแรกคือ นายพล น้องเขยของแม่น้องชมพู่ ร้องห่มร้องไห้หลังเห็นสภาพศพหลานสาวในลักษณะเปลือยกาย ดวงตาเบิกโพลง คาดว่าเพิ่งเสียชีวิตไม่นาน เพราะศพไม่ส่งกลิ่นเหม็นและยังไม่ขึ้นอืด
โดยศพของน้องพบแค่รอยขีดข่วนที่ขา 2 ข้าง ไม่พบบาดแผลอื่น ๆ ห่างจากจุดที่พบศพ 4 เมตร พบรองเท้า ถัดไปอีก 4 เมตร พบกางเกงขาสั้นของน้องอยู่ในกอหญ้า และข้าง ๆ กันพบว่าหญ้าล้ม คล้ายกับมีคนนอนทับมาก่อน รวมระยะเวลาค้นหาน้องชมพู่ 3 วัน 10 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ตำรวจคาดว่ามีชายสติไม่ดีในหมู่บ้าน อายุ 30 ปี พาน้องมาทำอนาจาร เพราะชายคนดังกล่าวหายตัวออกจากหมู่บ้านตั้งแต่น้องชมพู่หายตัวไป และชายคนดังกล่าวรู้จักเส้นทางเข้า-ออกหมู่บ้านเป็นอย่างดี
ด้าน นายพล ผู้พบศพเป็นคนแรก เปิดเผยว่า ตนพูดไม่ออก
จากสภาพศพที่เห็นคาดว่าหลานคงทรมานมาก บอบช้ำมาก
คิดว่าเสียชีวิตเพราะขาดน้ำด้วย เชื่อว่ามีคนพาหลานมายังจุดเกิดเหตุ
แต่ยังบอกไม่ได้ โดยพ่อแม่ของหลานมาปรึกษาว่า สงสัยอยู่ 2 คน
แต่ไม่มีหลักฐาน ตนยังระบุชื่อให้ไม่ได้ ส่วนเหตุจูงใจคือ
เขาคงคับแค้นใจมานาน คงหาโอกาสแก้แค้น เป็นปมปัญหาที่ทะเลาะกันก่อนหน้านี้
เกิดขึ้นไม่นาน เป็นเรื่องบาดหมางเล็ก ๆ น้อย ๆ
ตนบอกได้เพียงว่าเป็นคนอยู่ในหมู่บ้าน
"หากทำจริงไม่ใช่คนแล้ว ทำไมไม่คุยกันดี ๆ คนในหมู่บ้านนี้อยู่กันแบบพี่แบบน้อง มีปัญหาก็ควรเรียกผู้ใหญ่มาเจรจากัน ผู้ต้องสงสัยคนแรกไม่ได้มากับทีมค้นหา ไม่ค่อยอยู่บ้าน ชอบอยู่ไร่อยู่สวน ส่วนคนที่ 2 เห็นหน้ากันทุกวัน ในใจลึก ๆ คิดว่าต้องมีคนพาหลานขึ้นมาบนภูเขาสูงแบบนี้ ไม่มีทางที่จะขึ้นมาเองได้"
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการทุบโต๊ะข่าว ช่องอมรินทร์ ทีวี
อ่านข่าว : พบศพ น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ หลังหายตัวปริศนากว่า 3 วัน พ่อ-แม่ตามหาแทบขาดใจ
ล่าสุด (14 พฤษภาคม 2563) รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า ก่อนที่จะเจอร่างน้องชมพู่ มีร่างทรงหลายที่โทร. มาหา บอกให้พ่อแม่ของน้องทำพิธีหลายอย่าง ซึ่งทั้งคู่ก็ยอมทำทั้งหมด เพื่อหวังจะได้เจอลูกสาว มีทั้งแนะนำให้จุดธูปไหว้เจ้าที่รอบบ้าน มีทั้งร่างทรงโทร. มาหาพร้อมพูดภาษาอีสาน ร้องไห้รำพึงรำพัน
กระทั่งเวลา 17.00 น. (14 พฤษภาคม) นายตุ่น ชาวบ้าน ได้พบรองเท้าของน้องชมพู่ บริเวณเขาภูหินเหล็กไฟ ห่างจากบ้านน้องประมาณ 2 กิโลเมตร ใต้ร่มไม้ใหญ่มีเศษไม้ที่เพิ่งถูกหักได้ไม่นาน เหมือนเด็กหักกิ่งมาเล่นขายของ เจ้าหน้าที่จึงเร่งค้นหาต่อเนื่อง เมื่อมาถึงยอดเขา ห่างจากบ้านน้องประมาณ 4 กิโลเมตร ก็พบศพน้องชมพู่ ผู้ที่พบศพคนแรกคือ นายพล น้องเขยของแม่น้องชมพู่ ร้องห่มร้องไห้หลังเห็นสภาพศพหลานสาวในลักษณะเปลือยกาย ดวงตาเบิกโพลง คาดว่าเพิ่งเสียชีวิตไม่นาน เพราะศพไม่ส่งกลิ่นเหม็นและยังไม่ขึ้นอืด
"หากทำจริงไม่ใช่คนแล้ว ทำไมไม่คุยกันดี ๆ คนในหมู่บ้านนี้อยู่กันแบบพี่แบบน้อง มีปัญหาก็ควรเรียกผู้ใหญ่มาเจรจากัน ผู้ต้องสงสัยคนแรกไม่ได้มากับทีมค้นหา ไม่ค่อยอยู่บ้าน ชอบอยู่ไร่อยู่สวน ส่วนคนที่ 2 เห็นหน้ากันทุกวัน ในใจลึก ๆ คิดว่าต้องมีคนพาหลานขึ้นมาบนภูเขาสูงแบบนี้ ไม่มีทางที่จะขึ้นมาเองได้"