ลูกสาวป้าขี่วินแทง รปภ. เสียชีวิต ขอโทษพี่สาวคู่กรณี ยันไม่มีเจตนาให้ถึงตาย ที่เข้าไปรุมตีด้วย เพราะเป็นห่วงแม่สู้ไม่ได้ อีกฝ่ายลั่นขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
จากกรณีสามี-ภรรยาคู่หนึ่งมีอาชีพขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับ รปภ. ก่อนก่อเหตุใช้มีดแทงจน รปภ. เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณทางเข้าลานจอดรถเอกชนแห่งหนึ่ง ปากซอยมิตรภาพ ริมถนนเทพรัตน กม.7 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งทางผู้ก่อเหตุอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจ แค่ป้องกันตัว
อ่านข่าว : ยาย วัย 66 โต้เดือด รปภ. ชักมีดแทงอกดับคาที่ - ลูกสาวชี้แม่ถูกทำร้ายก่อน
พี่แหม่มเป็นลูกคุณป้าพะเยา คุณป้าพะเยาอายุเท่าไหร่ ?
แหม่ม : 67 ปีค่ะ พ่อแม่ทำอาชีพขี่วินมอเตอร์ไซค์ เราก็อยู่วินเดียวกัน
เหตุเกิดอะไรขึ้น ?
แหม่ม : เกิดอุบัติเหตุในซอย เกิดจากพ่อเข้าไปส่งผู้โดยสารในซอย เขาเกิดอุบัติเหตุก็รอประกัน ไปเฉี่ยวชนรถเก๋งล้ม ทีแรกไม่รู้ว่ามีผู้โดยสาร เข้าไปดูแล้วรอบหนึ่ง ระหว่างรอประกันมา ก็บอกว่าไม่เป็นไรใช่ไหม งั้นเดี๋ยวไปวิ่งรถต่อ ทีนี้น้องผู้โดยสารเขาอยู่บริษัทเดียวกับแฟนพี่ ก็โทร. ไปบอกแฟนว่าโดนวินทิ้ง รถล้มอยู่ข้างนอก
อยู่ดี ๆ แม่มาเกี่ยวอะไร ?
แหม่ม : พ่อโทร. ให้แม่ไปเอาสำเนารถมาให้หน่อย เพราะประกันจะเอาสำเนารถคันนี้ พ่อไม่ได้พกมา
พ่อต้องใช้เอกสารในการเคลียร์กับประกัน เลยใช้แม่ซึ่งอยู่ที่บ้านเอาเอกสารออกมา หลังจากนั้น ?
แหม่ม : เราก็เข้าไปหาอีก แล้วถามว่า พ่อ ประกันมาหรือยัง อย่าลืมบอกด้วยนะว่าผู้โดยสารเจ็บ กุญแจรถมันหัก บอกพ่อเท่านั้นแล้วจะออกไปแล้ว พอดีแม่มาพอดี พอกุญแจหักปุ๊บ ประกันก็รอเอกสาร สักพักคุณแม่ก็เอาเอกสารมาให้ แล้วอยู่ ๆ รปภ. ก็ใช้คำพูดที่ไม่ดี เขาตะคอกใส่เรา เราก็บอกว่าเดี๋ยวก็ไปแล้ว เพราะไม่มีตังค์จ่าย เดี๋ยวประกันเขาไม่รู้
ตรงนั้นเป็นลานจอดรถ ?
แหม่ม : มันเป็นซอย อยู่นอกลานจอดรถ
ขวางทางเข้าไหม ?
แหม่ม : ไม่ขวางค่ะ เพราะรถอยู่ทางออก ตอนเช้ายังไม่มีรถออก มีแต่รถเข้า ป้อม รปภ. อยู่ตรงกลางเลย
พอเสร็จแล้วยังไง ?
แหม่ม : เขามาไล่ แล้วมันคนละเลนกัน ตอนเช้าไม่มีรถออก มีแต่รถพนักงานมาจอด แม่ก็เป็นคนพูดไม่เพราะ เป็นคนบ้านนอก บอกว่ากูเอาเอกสารให้เขาแป๊บเดียว เดี๋ยวกูก็ไปแล้ว แล้วเขาก็ไม่ยอม รปภ. บอกว่าที่ของกู ใครจอดก็ไม่ได้ แม่ก็บอกว่าจะไปแล้ว แป๊บเดียวเอง ไม่ทันไร เขาก็เดินเข้ามาท้าทาย และดันอกแม่ แม่ก็บอกว่ามึงจะทำอะไรกู เขาก็ผลักออก แล้วมันก็ไม่ยอม แม่ก็ไปเอาหมวกกันน็อก
แม่ผลักเขาก่อนไหม ?
แหม่ม : แต่ตอนเขาดันมันไม่มี
จะบอกว่า รปภ. ดันแม่พี่ก่อน ?
แหม่ม : เขาเดินเอาหน้าอกชน แม่ก็ผลักออก แต่กล้องมันออกมาแค่นี้ หลังจากนั้นแม่ก็เดินไปเอาหมวกกันน็อก
หมวกกันน็อกอยู่ในมือแม่อยู่แล้ว ?
แหม่ม : อ๋อ เหรอ ก็เดินกลับไป ก็น่าจะจบตรงนั้นแล้ว
รณณรงค์ : เหมือนเราเดินไปต่อยเขาเลย
แหม่ม : ใช่ เราทุบเพื่อให้เขาหยุด พี่ก็บอกว่าอย่าทำ ๆ เป็นพนักงานนะ อย่าทำ ตอนนั้นเราโดนกันไปข้างนอก เพราะดูเด็กอีกคน
เขาวิ่งไปหยิบอะไร ?
แหม่ม : ไม้ค่ะ แม่เขาเห็นอยู่แล้วว่าไม้อยู่ตรงนั้น
รปภ. เดินเอาหน้าอกไปชน แม่ผลักออก แม่เดินวนกลับไป หลังจากนั้นมีการชกต่อยกัน พี่ก็พยายามต่อยเขาเหมือนกัน ?
แหม่ม : เพื่อให้เขาหยุด เขาบอกว่ามึงอย่าคิดว่ามึงมีเด็กแล้วกูไม่กล้าทำมึงนะ แล้วโดนหลานพี่ รปภ. เป็นคนพูด แล้วก็มีคนในตลาดมาดึงพี่ออก หลังจากนั้นพี่ก็ไม่ได้มองแม่แล้ว เพราะมีเด็กอีกคนที่แม่กระเตงมาด้วย ทีนี้เขาให้แจ้งความ พี่มัวแต่โทรศัพท์ ไม่ได้หันมาดูว่าเขาโดนตอนไหน
ในข่าวบอกว่าครั้งแรกเลย รปภ. ไปหยิบไม้หน้าสามมาตีพวกพี่จริง ๆ ไหม ?
แหม่ม : ไม่ ชอตนี้เขาไปหยิบมา เพราะไม้อยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว พวกพี่เห็นอยู่แล้ว
แล้วอยู่ดี ๆ แม่ไปแทงเขาทำไม ?
แหม่ม : อันนี้พี่ไม่ทราบ ตอนแทงพี่ไม่เห็น พี่มาเห็นในคลิป
ตามข่าวเหมือนแม่พยายามบอกว่า รปภ. เอาไม้ไปตีพ่อ แล้วตีแม่ แม่เลยวิ่งไปหยิบมีดออกมา ?
แหม่ม : ไม่รู้ไปหยิบมีดตอนไหน
พกติดตัวหรือเปล่า ?
แหม่ม: เปล่า มีดอยู่ใต้เบาะ เขาเตรียมมาเพราะลูกค้าให้กระท้อนมา เขาจะไปปอกกระท้อนกิน เขาก็เลยเอามา
เป็นมีดอะไร ?
แหม่ม : มีดซื้อจากร้าน 20 กระท้อนอยู่ที่วิน ไม่ได้อยู่ด้วยในที่เกิดเหตุ
รณณรงค์ : ไม่เห็นจังหวะเปิดเบาะรถเลยนะ
แหม่ม : ภาพมันไม่ครบ
เคยรู้จัก รปภ. ไหม ?
แหม่ม : ไม่ ไม่เคยมาจอดตรงนี้ เคยแต่จอดหน้าตึก ไม่เคยเจอกันมาก่อน
ที่บ้านเป็นไง ?
แหม่ม : พ่อก็ซึมเศร้าแหละ แม่ก็เครียด เขาไม่มีเจตนาให้ถึงตาย เราสู้เขาแต่สู้ไม่ได้ เขาแรงเยอะมาก พ่ออายุ 77 แม่ 67 แม่ก็เสาหลักในบ้าน หาเงินได้เยอะกว่า เฉพาะกลุ่มบ้านแม่มีทั้งหมด 7 คน ที่อยู่ในห้องเดียวกัน ห้องที่อยู่ข้างบนอยู่กัน 4 คน หลานแยกไปอีก 2 ห้อง รวมทั้งหมด 12 คน
เอาแบบตรงไปตรงมา แม่ไปด่าเขาก่อนไหม ?
แหม่ม : ไม่ พี่ก็อยู่ตรงนั้น พวกพี่โดนว่าก่อน เขาบอกมาจอดตรงนี้ไม่ได้ เราบอกว่าไม่ได้ขวางทางเข้านะ แป๊บเดียวก็จะไปแล้ว เขาก็ไม่ยอม
อะไรเป็นตัวจุดชนวนให้ รปภ. เอาอกไปชนแม่ ?
แหม่ม : แม่เขาบอกว่ามึงไม่เห็นเหรอไงว่ารถกูมีเรื่องอยู่ เกิดอุบัติเหตุ รอแป๊บหนึ่ง เดี๋ยวก็ไปแล้ว เอาเอกสารมาให้แป๊บเดียว
ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของรถ เขามาให้ข่าวว่าแม่ไปจอดขวางจริง ๆ ?
แหม่ม : ไม่ได้ขวาง ตั้งแต่เกิดเรื่องก็อยู่ตรงนั้นเลย ไม่ได้ขวาง รถจอด 3 คัน เรียงตรงนั้นเลย รถพ่ออยู่ตรงกลาง
รณณรงค์ : ที่เราเข้าใจรถจอดขวางคือยังไง
แหม่ม : ขวางรถเข้า-ออกไม่ได้ อันนี้รถเข้า-ออกได้ไม่เรียกว่าขวางค่ะ
รณณรงค์ : อันนี้ที่เขาเข้าใจ แต่ในมุมผมมันขวาง เอาภาพมาเปิดดูก็ได้ มีตัวรถมอเตอร์ไซค์ขวางทางเข้า-ออกให้เข้า-ออกไม่ได้เต็มร้อยเหมือนเดิม เข้าได้ไม่เถียง แต่จอดตำแหน่งนี้ แบบนี้ถือว่าขวาง เพราะทางเข้า-ออกเขา ถ้ากระเถิบมาอีกหน่อยก็ไม่ขวางแล้ว แต่เห็นว่ามันกินมาสักหน่อยแค่นั้นเอง ขวางแต่ไม่เต็มลำ
แหม่ม : พี่ก็บอกเขาแล้วว่าจะไปแล้ว แต่มีการตอบโต้กันก่อน มันก็เลยพัวพัน ออกไปไม่ได้
แม่ประกันเท่าไหร่ ?
แหม่ม : ยังไม่ทราบค่ะ ตอนนี้แม่อยู่ที่ศาล
อยู่ในสายกับคุณเอ เป็นญาติ รปภ. ผู้เสียชีวิต เป็นพี่ของ รปภ. ?
เอ : ใช่ค่ะ
ครอบครัวเป็นยังไงบ้าง ?
เอ : อยู่ในอาการโศกเศร้าค่ะ แม่กำลังเดินทางเอาศพน้องกลับไป จ.ตาก ค่ะ
เห็นคุณเอให้สัมภาษณ์ว่าทางผู้เสียชีวิตเป็นคนเงียบขรึม ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ?
เอ : ใช่ จริง ๆ น้องสมาธิสั้น แล้วการที่หนูพูดว่าสติไม่ดี คือเราพูดตามความเคยชินของเรา แต่มีบางสำนักมาถามหาใบจิตเวช มาถามหายาที่น้องกิน เราก็รู้สึกว่า เฮ้ย มันรุนแรงขนาดนั้นเลยเหรอ มันไม่ใช่ น้องไม่ต้องรับการรักษาขนาดนั้น น้องไม่ได้เป็นขนาดนั้น ภาษาทางการคือน้องสมาธิสั้น
ตอนแรกที่ข่าวออกมา คือมีสำนักข่าวรายงานว่าน้องเราสติไม่ดี ?
เอ : ใช่ ซึ่งจริง ๆ ไม่ใช่อย่างนั้น ความหมายคือน้องสมาธิสั้น การที่พี่พูดอย่างนั้นแล้วพวกสื่อไปตีความว่าน้องรักษาพวกจิตเวช ต้องกินยา มีใบอะไรมันไม่ใช่
ตอนนี้ทางลูกสาวของป้าพะเยา คนก่อเรื่อง นั่งอยู่ในรายการ เรื่องนี้พี่แหม่มอยากบอกอะไรกับทางญาติ ?
แหม่ม : อยากขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะว่าทางแม่เองก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้เขาถึงแก่ชีวิต เพียงแค่อยากให้เขาเจ็บและหยุดการกระทำ เพราะเขาไม่ลดละพวกเรา และพวกเราก็สู้เขาไม่ได้ค่ะ
มุมมองอยากบอกเขาแบบนี้เหรอ ?
แหม่ม : อยากขอโทษเขาค่ะ อยากขอโทษว่าเราไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องร้ายแรงแบบนี้
พี่เอมองไง ?
เอ : 3 รุม 1 ทำไมต้องเอามีดมาแทงมาอะไร มันเป็นภาพที่หดหู่นะพี่ เห็นแล้วเสียใจกันทุกคน น้องเราโดนรุม แต่อย่างว่าคนเป็นพูดได้ คนตายพูดไม่ได้พี่ 3 รุม 1 เขายังพูดว่าเขาสู้ไม่ได้ แต่ของเราคนเดียว แล้วน้องเราแขนน่าจะไม่ดีข้างหนึ่งถ้าจำไม่ผิด น้องโดนน้ำร้อนลวก เหมือนเส้นยึดข้างหนึ่ง
พี่เอจะดำเนินการให้ถึงที่สุด ?
เอ : ใช่ค่ะ ดำเนินการเอาเรื่องให้ถึงที่สุดค่ะ
มีอะไรอยากฝากบอก ?
เอ : ไม่มีอะไรอยากฝากบอกค่ะ
พี่เอแกไม่สบายใจ เพราะตอนแรกมีสำนักข่าวไปเสนอว่าน้องสติไม่ดี แต่จริง ๆ ไม่ใช่ แกบอกว่าน้องมีสมาธิสั้น แล้วก็บอกว่า 3 รุม 1 จะบอกว่าสู้ไม่ได้อีกหรือ ?
แหม่ม : แต่พี่ก็ไม่ได้รุมเขานะ ไม่ได้เข้าไปหาเขานะ พี่ก็โดนกันเหมือนกัน ครั้งแรกที่เข้าไปจะห้ามเขา เตือนสติเขาว่าเป็นพนักงานนะ อย่าทำแบบนี้ แต่เขาเงื้อมือใส่พี่ก่อน พี่มีเด็กก็ต้องสู้
รณณรงค์ : จังหวะไหนที่ไปเตือนสติ
แหม่ม : ที่เดินเข้าไป ก็ห้ามเขาแล้ว บอกเขาแล้วว่าอย่าทำ พี่ด่าตั้งแต่ลงจากรถ แต่เขาไม่หยุด ถามว่าเราเป็นลูก เห็นเขาทำแบบนี้กับพ่อแม่เราจะหยุดได้เหรอ เราก็ต้องกันบ้างให้เขารู้สึกเจ็บบ้าง ว่าเขาทำรุนแรงเกินไปนะ แล้วเขาก็สู้ไม่ได้อยู่แล้ว
รณณรงค์ : แต่เราทำให้เขาเสียชีวิตนะครับ
แหม่ม : ใช่ค่ะ ผลที่เราเสียหายคือเราทำให้เขาเสียชีวิต เขาเสียหายถึงแก่ชีวิต โดยวันที่เกิดเรื่องแม่ยังไม่รู้เรื่องเลยว่าเขาเสียชีวิต ไปรู้ที่ สน.
รณณรงค์ : แต่เขานอนเสียชีวิตอยู่แถวนั้นนะ
แหม่ม : เราไม่เห็นค่ะ เพราะว่ามี รปภ. ดึงเข้าไปข้างใน เขาก็เดินเข้าไปปกติ
กรณีนี้เข้าข่ายไหน ?
รณณรงค์ : อย่างแรกถ้าเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทจะชอบอ้างว่าอีกฝั่งหนึ่งเปิดก่อน ทำร้ายร่างกายก่อนเขาถึงป้องกันตัว แต่ในทางกฎหมาย การอ้างแบบนั้นต้องดูพฤติกรรมหลาย ๆ อย่างประกอบด้วย อย่างกรณีนี้ ต่างฝ่ายต่างมีเรื่องกัน พร้อมมีเรื่อง เรียกว่าสมัครใจทะเลาะวิวาท ในระหว่างการวิวาท ในทางกฎหมายจะมาอ้างบันดาลโทสะก็ไม่ได้ มาอ้างป้องกันตัวก็ไม่ได้ เพราะต่างฝ่ายต่างพร้อมเข้าไปสู่ความเสี่ยงภัยเอง ทีนี้การทำร้ายร่างกาย ต้องแยกกันว่าทำร้ายหนัก ทำร้ายเบา หรือเอาให้ตาย เรื่องนี้ถ้าไม่มีมีดทุกอย่างจบ ไม่ต้องมามีอะไรสูญเสียขนาดนี้ แต่เมื่อมันมีมีด
ต้องบอกอย่างหนึ่งว่าการแทงถึง 2 ครั้ง ศาลฎีกาบอกเลยว่าเจตนาฆ่า ครั้งแรกข้างหน้า ครั้งที่สองข้างหลัง การแทง 1 ครั้ง ถ้ามันเป็นที่สำคัญก็เป็นเจตนาฆ่าเหมือนกัน ทีนี้ประเด็นที่ทนายความต่อสู้กันในศาล เขาจะดูอย่างเดียว ตำแหน่งที่แทง ถ้าแผลเดียวเขาจะต่อสู้ว่าไม่ตั้งใจทำให้ตาย เพราะอัตราโทษต่างกัน แต่กรณีเนื่องจากแทง 2 รอบ มันเถียงไม่ได้เลย ว่าตั้งใจทำร้ายร่างกาย หรือให้หยุดอยู่ตรงนั้น อันนี้คือตั้งใจเอาให้ตายเลย
ถ้าเขาบอกว่าพ่อแม่เขาสูงอายุ ?
รณณรงค์ : ขอโทษอย่างหนึ่งนะ คนแก่ทำผิดก็ต้องโดนจับ ถ้ากฎหมายบอกว่าไปแทงใครแล้วไม่ต้องรับผิดชอบมันไม่ใช่ เพียงแต่ว่าเมื่อสำนึกผิดเข้าไปอยู่ในเรือนจำ กรมราชทัณฑ์เขาจะมีวิธีดูแลผู้สูงวัยอีกแบบหนึ่งเท่านั้นเอง แต่ก็ต้องติดคุกนะครับ
พี่แหม่มทราบไหมว่าล่าสุดคุณแม่ รปภ. ที่เสียชีวิต แม่เสียใจมาก บอกว่าโซ่ขาดจากชีวิตเลย วันนี้ลูกชายตายไปเหมือนโซ่ขาด ทั้งเนื้อทั้งตัวมีตังค์แค่ 44 บาท การที่พี่มีเด็กอยู่ในตัว แล้วการเข้าไปลุยกับ รปภ. ไม่กลัวอันตรายเกิดกับเด็กเหรอ ?
แหม่ม : ก็ไม่มีใครช่วย พี่ก็กลัวพ่อแม่พี่ตายเหมือนกัน เราก็ไม่รู้เขาจะแค่ไหน เพราะเขาก็ลุแก่โทสะ เขาก็โมโหมากเหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแม่ไปเอามีดมาตอนไหน พี่ก็ไม่เห็น
โซเชียลมองว่าการที่พ่อแม่พี่ทำแบบนี้ มันไม่ถูกต้อง ?
แหม่ม : ก็อยากขอวอนให้เข้าใจมุมเราบ้าง ถ้าทุกคนอยู่จุดนั้นจะทำยังไง เพราะไม่มีใครช่วยเรา แล้วพ่อโดนตี แม่ก็เข้าไปช่วย เขาก็กลัวผัวเขาตายเหมือนกัน พอแม่เขาเข้าไปช่วย เขาก็ตีแม่เหมือนกัน มันก็พัวพันอยู่อย่างนี้
กรณีพี่ รปภ. หันหลังเดินกลับไป ทำไมเอามีดไปแทงอีก ?
แหม่ม : อันนี้พี่ไม่เห็นชอตนี้ ตอนนั้นพี่โทรศัพท์อยู่
มองยังไง ?
รณณรงค์ : ถ้าผมเป็นญาติ รปภ. ผมดำเนินคดีทั้ง 3 คนเลย ไม่ใช่เอาเฉพาะแม่ เอาทั้งลูกด้วย แยกดำเนินคดีกันไป เอาให้หมดทั้งบ้านเลย เพราะร่วมกันหรือเปล่า ไม่ใช่เอาเฉพาะแม่นะ
น่าจะเข้าไปขอโทษเขาด้วยความจริงใจ หยุดมุมที่คิดว่าเราถูกกระทำ ?
รณณรงค์ : วันนี้แม่ รปภ. เขาพูดคุยกับแม่เขาไม่ได้แล้ว แต่วันนี้คุณยังไปคุยกับแม่ที่เรือนจำได้ อะไรคือความแตกต่างของเรื่องนี้ อยากให้คิดดู เราจะเข้าใจว่าคนหนึ่งไม่มีโอกาสคุย ไม่มีโอกาสแก้ตัวเลยนะ ว่าวันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น แล้วแม่เขาก็ไม่มีโอกาสคุยกับลูกเขาแล้ว
อยากบอกว่าสังคมโซเชียลที่ถล่มด่าก็ให้เพลา ๆ หน่อย ?
แหม่ม : ค่ะ เพราะเราก็หนักอยู่แล้ว
แต่โซเชียลเขาก็มองว่าฝั่งโน้นก็สูญเสียนะ หนักกว่าพี่ที่ถูกด่าอีก ต้องยอมรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ?
แหม่ม : ค่ะ
แหม่ม : ตำรวจบอกว่า 5 แสน ที่โรงพัก แต่ที่ศาลเรายังไม่รู้
มีตังค์ไปประกันไหม ?
แหม่ม : ไม่มีเลย
แล้วจะทำยังไง ?
แหม่ม : ต้องรอดูต่อไป พี่ไม่รู้กระบวนการทางกฎหมายด้านนี้ ถ้าไม่มีเงินก็ตามสภาพ เราก็ไปเยี่ยมเขาเอา แม่เป็นหัวหน้าครอบครัว พี่ก็มีครอบครัวและภาระของพี่ พ่อเขาก็ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ ไม่ได้เต็มที่เท่าแม่
อยากบอกอะไร ?
รณณรงค์ : ถ้าวินาทีนั้นไม่หยิบมีดมา จะไม่เกิดความสูญเสีย ฝากเป็นอุทาหรณ์ อย่าใจร้อน อย่าอารมณ์เสียง่าย ต่อให้มีอาวุธก็เก็บไว้ที่เดิมนั่นแหละ ไม่งั้นวันหนึ่งคนหนึ่งติดคุกไม่รู้จะทั้งชีวิตหรือเปล่า ส่วนคนหนึ่งเสียชีวิต
ทั้งนี้ สามารถติดตามชมรายการ โหนกระแส วันที่ 21 พฤษภาคม 2563 โดยมี "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33
จากกรณีสามี-ภรรยาคู่หนึ่งมีอาชีพขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับ รปภ. ก่อนก่อเหตุใช้มีดแทงจน รปภ. เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณทางเข้าลานจอดรถเอกชนแห่งหนึ่ง ปากซอยมิตรภาพ ริมถนนเทพรัตน กม.7 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งทางผู้ก่อเหตุอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจ แค่ป้องกันตัว
อ่านข่าว : ยาย วัย 66 โต้เดือด รปภ. ชักมีดแทงอกดับคาที่ - ลูกสาวชี้แม่ถูกทำร้ายก่อน
ล่าสุด ในวันนี้ (21 พฤษภาคม 2563) รายการ โหนกระแส ได้สัมภาษณ์
แหม่ม คมคาย ลูกสาวป้าขี่วินผู้ก่อเหตุ ที่มาเปิดใจในรายการ พร้อมด้วย ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์
พี่แหม่มเป็นลูกคุณป้าพะเยา คุณป้าพะเยาอายุเท่าไหร่ ?
แหม่ม : 67 ปีค่ะ พ่อแม่ทำอาชีพขี่วินมอเตอร์ไซค์ เราก็อยู่วินเดียวกัน
เหตุเกิดอะไรขึ้น ?
แหม่ม : เกิดอุบัติเหตุในซอย เกิดจากพ่อเข้าไปส่งผู้โดยสารในซอย เขาเกิดอุบัติเหตุก็รอประกัน ไปเฉี่ยวชนรถเก๋งล้ม ทีแรกไม่รู้ว่ามีผู้โดยสาร เข้าไปดูแล้วรอบหนึ่ง ระหว่างรอประกันมา ก็บอกว่าไม่เป็นไรใช่ไหม งั้นเดี๋ยวไปวิ่งรถต่อ ทีนี้น้องผู้โดยสารเขาอยู่บริษัทเดียวกับแฟนพี่ ก็โทร. ไปบอกแฟนว่าโดนวินทิ้ง รถล้มอยู่ข้างนอก
อยู่ดี ๆ แม่มาเกี่ยวอะไร ?
แหม่ม : พ่อโทร. ให้แม่ไปเอาสำเนารถมาให้หน่อย เพราะประกันจะเอาสำเนารถคันนี้ พ่อไม่ได้พกมา
พ่อต้องใช้เอกสารในการเคลียร์กับประกัน เลยใช้แม่ซึ่งอยู่ที่บ้านเอาเอกสารออกมา หลังจากนั้น ?
แหม่ม : เราก็เข้าไปหาอีก แล้วถามว่า พ่อ ประกันมาหรือยัง อย่าลืมบอกด้วยนะว่าผู้โดยสารเจ็บ กุญแจรถมันหัก บอกพ่อเท่านั้นแล้วจะออกไปแล้ว พอดีแม่มาพอดี พอกุญแจหักปุ๊บ ประกันก็รอเอกสาร สักพักคุณแม่ก็เอาเอกสารมาให้ แล้วอยู่ ๆ รปภ. ก็ใช้คำพูดที่ไม่ดี เขาตะคอกใส่เรา เราก็บอกว่าเดี๋ยวก็ไปแล้ว เพราะไม่มีตังค์จ่าย เดี๋ยวประกันเขาไม่รู้
ตรงนั้นเป็นลานจอดรถ ?
แหม่ม : มันเป็นซอย อยู่นอกลานจอดรถ
ขวางทางเข้าไหม ?
แหม่ม : ไม่ขวางค่ะ เพราะรถอยู่ทางออก ตอนเช้ายังไม่มีรถออก มีแต่รถเข้า ป้อม รปภ. อยู่ตรงกลางเลย
พอเสร็จแล้วยังไง ?
แหม่ม : เขามาไล่ แล้วมันคนละเลนกัน ตอนเช้าไม่มีรถออก มีแต่รถพนักงานมาจอด แม่ก็เป็นคนพูดไม่เพราะ เป็นคนบ้านนอก บอกว่ากูเอาเอกสารให้เขาแป๊บเดียว เดี๋ยวกูก็ไปแล้ว แล้วเขาก็ไม่ยอม รปภ. บอกว่าที่ของกู ใครจอดก็ไม่ได้ แม่ก็บอกว่าจะไปแล้ว แป๊บเดียวเอง ไม่ทันไร เขาก็เดินเข้ามาท้าทาย และดันอกแม่ แม่ก็บอกว่ามึงจะทำอะไรกู เขาก็ผลักออก แล้วมันก็ไม่ยอม แม่ก็ไปเอาหมวกกันน็อก
แม่ผลักเขาก่อนไหม ?
แหม่ม : แต่ตอนเขาดันมันไม่มี
จะบอกว่า รปภ. ดันแม่พี่ก่อน ?
แหม่ม : เขาเดินเอาหน้าอกชน แม่ก็ผลักออก แต่กล้องมันออกมาแค่นี้ หลังจากนั้นแม่ก็เดินไปเอาหมวกกันน็อก
หมวกกันน็อกอยู่ในมือแม่อยู่แล้ว ?
แหม่ม : อ๋อ เหรอ ก็เดินกลับไป ก็น่าจะจบตรงนั้นแล้ว
รณณรงค์ : เหมือนเราเดินไปต่อยเขาเลย
แหม่ม : ใช่ เราทุบเพื่อให้เขาหยุด พี่ก็บอกว่าอย่าทำ ๆ เป็นพนักงานนะ อย่าทำ ตอนนั้นเราโดนกันไปข้างนอก เพราะดูเด็กอีกคน
เขาวิ่งไปหยิบอะไร ?
แหม่ม : ไม้ค่ะ แม่เขาเห็นอยู่แล้วว่าไม้อยู่ตรงนั้น
รปภ. เดินเอาหน้าอกไปชน แม่ผลักออก แม่เดินวนกลับไป หลังจากนั้นมีการชกต่อยกัน พี่ก็พยายามต่อยเขาเหมือนกัน ?
แหม่ม : เพื่อให้เขาหยุด เขาบอกว่ามึงอย่าคิดว่ามึงมีเด็กแล้วกูไม่กล้าทำมึงนะ แล้วโดนหลานพี่ รปภ. เป็นคนพูด แล้วก็มีคนในตลาดมาดึงพี่ออก หลังจากนั้นพี่ก็ไม่ได้มองแม่แล้ว เพราะมีเด็กอีกคนที่แม่กระเตงมาด้วย ทีนี้เขาให้แจ้งความ พี่มัวแต่โทรศัพท์ ไม่ได้หันมาดูว่าเขาโดนตอนไหน
ในข่าวบอกว่าครั้งแรกเลย รปภ. ไปหยิบไม้หน้าสามมาตีพวกพี่จริง ๆ ไหม ?
แหม่ม : ไม่ ชอตนี้เขาไปหยิบมา เพราะไม้อยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว พวกพี่เห็นอยู่แล้ว
แล้วอยู่ดี ๆ แม่ไปแทงเขาทำไม ?
แหม่ม : อันนี้พี่ไม่ทราบ ตอนแทงพี่ไม่เห็น พี่มาเห็นในคลิป
ตามข่าวเหมือนแม่พยายามบอกว่า รปภ. เอาไม้ไปตีพ่อ แล้วตีแม่ แม่เลยวิ่งไปหยิบมีดออกมา ?
แหม่ม : ไม่รู้ไปหยิบมีดตอนไหน
พกติดตัวหรือเปล่า ?
แหม่ม: เปล่า มีดอยู่ใต้เบาะ เขาเตรียมมาเพราะลูกค้าให้กระท้อนมา เขาจะไปปอกกระท้อนกิน เขาก็เลยเอามา
เป็นมีดอะไร ?
แหม่ม : มีดซื้อจากร้าน 20 กระท้อนอยู่ที่วิน ไม่ได้อยู่ด้วยในที่เกิดเหตุ
รณณรงค์ : ไม่เห็นจังหวะเปิดเบาะรถเลยนะ
แหม่ม : ภาพมันไม่ครบ
เคยรู้จัก รปภ. ไหม ?
แหม่ม : ไม่ ไม่เคยมาจอดตรงนี้ เคยแต่จอดหน้าตึก ไม่เคยเจอกันมาก่อน
ที่บ้านเป็นไง ?
แหม่ม : พ่อก็ซึมเศร้าแหละ แม่ก็เครียด เขาไม่มีเจตนาให้ถึงตาย เราสู้เขาแต่สู้ไม่ได้ เขาแรงเยอะมาก พ่ออายุ 77 แม่ 67 แม่ก็เสาหลักในบ้าน หาเงินได้เยอะกว่า เฉพาะกลุ่มบ้านแม่มีทั้งหมด 7 คน ที่อยู่ในห้องเดียวกัน ห้องที่อยู่ข้างบนอยู่กัน 4 คน หลานแยกไปอีก 2 ห้อง รวมทั้งหมด 12 คน
เอาแบบตรงไปตรงมา แม่ไปด่าเขาก่อนไหม ?
แหม่ม : ไม่ พี่ก็อยู่ตรงนั้น พวกพี่โดนว่าก่อน เขาบอกมาจอดตรงนี้ไม่ได้ เราบอกว่าไม่ได้ขวางทางเข้านะ แป๊บเดียวก็จะไปแล้ว เขาก็ไม่ยอม
อะไรเป็นตัวจุดชนวนให้ รปภ. เอาอกไปชนแม่ ?
แหม่ม : แม่เขาบอกว่ามึงไม่เห็นเหรอไงว่ารถกูมีเรื่องอยู่ เกิดอุบัติเหตุ รอแป๊บหนึ่ง เดี๋ยวก็ไปแล้ว เอาเอกสารมาให้แป๊บเดียว
ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของรถ เขามาให้ข่าวว่าแม่ไปจอดขวางจริง ๆ ?
แหม่ม : ไม่ได้ขวาง ตั้งแต่เกิดเรื่องก็อยู่ตรงนั้นเลย ไม่ได้ขวาง รถจอด 3 คัน เรียงตรงนั้นเลย รถพ่ออยู่ตรงกลาง
รณณรงค์ : ที่เราเข้าใจรถจอดขวางคือยังไง
แหม่ม : ขวางรถเข้า-ออกไม่ได้ อันนี้รถเข้า-ออกได้ไม่เรียกว่าขวางค่ะ
รณณรงค์ : อันนี้ที่เขาเข้าใจ แต่ในมุมผมมันขวาง เอาภาพมาเปิดดูก็ได้ มีตัวรถมอเตอร์ไซค์ขวางทางเข้า-ออกให้เข้า-ออกไม่ได้เต็มร้อยเหมือนเดิม เข้าได้ไม่เถียง แต่จอดตำแหน่งนี้ แบบนี้ถือว่าขวาง เพราะทางเข้า-ออกเขา ถ้ากระเถิบมาอีกหน่อยก็ไม่ขวางแล้ว แต่เห็นว่ามันกินมาสักหน่อยแค่นั้นเอง ขวางแต่ไม่เต็มลำ
แหม่ม : พี่ก็บอกเขาแล้วว่าจะไปแล้ว แต่มีการตอบโต้กันก่อน มันก็เลยพัวพัน ออกไปไม่ได้
แม่ประกันเท่าไหร่ ?
แหม่ม : ยังไม่ทราบค่ะ ตอนนี้แม่อยู่ที่ศาล
อยู่ในสายกับคุณเอ เป็นญาติ รปภ. ผู้เสียชีวิต เป็นพี่ของ รปภ. ?
เอ : ใช่ค่ะ
ครอบครัวเป็นยังไงบ้าง ?
เอ : อยู่ในอาการโศกเศร้าค่ะ แม่กำลังเดินทางเอาศพน้องกลับไป จ.ตาก ค่ะ
เห็นคุณเอให้สัมภาษณ์ว่าทางผู้เสียชีวิตเป็นคนเงียบขรึม ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ?
เอ : ใช่ จริง ๆ น้องสมาธิสั้น แล้วการที่หนูพูดว่าสติไม่ดี คือเราพูดตามความเคยชินของเรา แต่มีบางสำนักมาถามหาใบจิตเวช มาถามหายาที่น้องกิน เราก็รู้สึกว่า เฮ้ย มันรุนแรงขนาดนั้นเลยเหรอ มันไม่ใช่ น้องไม่ต้องรับการรักษาขนาดนั้น น้องไม่ได้เป็นขนาดนั้น ภาษาทางการคือน้องสมาธิสั้น
ตอนแรกที่ข่าวออกมา คือมีสำนักข่าวรายงานว่าน้องเราสติไม่ดี ?
เอ : ใช่ ซึ่งจริง ๆ ไม่ใช่อย่างนั้น ความหมายคือน้องสมาธิสั้น การที่พี่พูดอย่างนั้นแล้วพวกสื่อไปตีความว่าน้องรักษาพวกจิตเวช ต้องกินยา มีใบอะไรมันไม่ใช่
ตอนนี้ทางลูกสาวของป้าพะเยา คนก่อเรื่อง นั่งอยู่ในรายการ เรื่องนี้พี่แหม่มอยากบอกอะไรกับทางญาติ ?
แหม่ม : อยากขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะว่าทางแม่เองก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้เขาถึงแก่ชีวิต เพียงแค่อยากให้เขาเจ็บและหยุดการกระทำ เพราะเขาไม่ลดละพวกเรา และพวกเราก็สู้เขาไม่ได้ค่ะ
มุมมองอยากบอกเขาแบบนี้เหรอ ?
แหม่ม : อยากขอโทษเขาค่ะ อยากขอโทษว่าเราไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องร้ายแรงแบบนี้
พี่เอมองไง ?
เอ : 3 รุม 1 ทำไมต้องเอามีดมาแทงมาอะไร มันเป็นภาพที่หดหู่นะพี่ เห็นแล้วเสียใจกันทุกคน น้องเราโดนรุม แต่อย่างว่าคนเป็นพูดได้ คนตายพูดไม่ได้พี่ 3 รุม 1 เขายังพูดว่าเขาสู้ไม่ได้ แต่ของเราคนเดียว แล้วน้องเราแขนน่าจะไม่ดีข้างหนึ่งถ้าจำไม่ผิด น้องโดนน้ำร้อนลวก เหมือนเส้นยึดข้างหนึ่ง
พี่เอจะดำเนินการให้ถึงที่สุด ?
เอ : ใช่ค่ะ ดำเนินการเอาเรื่องให้ถึงที่สุดค่ะ
มีอะไรอยากฝากบอก ?
เอ : ไม่มีอะไรอยากฝากบอกค่ะ
พี่เอแกไม่สบายใจ เพราะตอนแรกมีสำนักข่าวไปเสนอว่าน้องสติไม่ดี แต่จริง ๆ ไม่ใช่ แกบอกว่าน้องมีสมาธิสั้น แล้วก็บอกว่า 3 รุม 1 จะบอกว่าสู้ไม่ได้อีกหรือ ?
แหม่ม : แต่พี่ก็ไม่ได้รุมเขานะ ไม่ได้เข้าไปหาเขานะ พี่ก็โดนกันเหมือนกัน ครั้งแรกที่เข้าไปจะห้ามเขา เตือนสติเขาว่าเป็นพนักงานนะ อย่าทำแบบนี้ แต่เขาเงื้อมือใส่พี่ก่อน พี่มีเด็กก็ต้องสู้
รณณรงค์ : จังหวะไหนที่ไปเตือนสติ
แหม่ม : ที่เดินเข้าไป ก็ห้ามเขาแล้ว บอกเขาแล้วว่าอย่าทำ พี่ด่าตั้งแต่ลงจากรถ แต่เขาไม่หยุด ถามว่าเราเป็นลูก เห็นเขาทำแบบนี้กับพ่อแม่เราจะหยุดได้เหรอ เราก็ต้องกันบ้างให้เขารู้สึกเจ็บบ้าง ว่าเขาทำรุนแรงเกินไปนะ แล้วเขาก็สู้ไม่ได้อยู่แล้ว
รณณรงค์ : แต่เราทำให้เขาเสียชีวิตนะครับ
แหม่ม : ใช่ค่ะ ผลที่เราเสียหายคือเราทำให้เขาเสียชีวิต เขาเสียหายถึงแก่ชีวิต โดยวันที่เกิดเรื่องแม่ยังไม่รู้เรื่องเลยว่าเขาเสียชีวิต ไปรู้ที่ สน.
รณณรงค์ : แต่เขานอนเสียชีวิตอยู่แถวนั้นนะ
แหม่ม : เราไม่เห็นค่ะ เพราะว่ามี รปภ. ดึงเข้าไปข้างใน เขาก็เดินเข้าไปปกติ
กรณีนี้เข้าข่ายไหน ?
รณณรงค์ : อย่างแรกถ้าเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทจะชอบอ้างว่าอีกฝั่งหนึ่งเปิดก่อน ทำร้ายร่างกายก่อนเขาถึงป้องกันตัว แต่ในทางกฎหมาย การอ้างแบบนั้นต้องดูพฤติกรรมหลาย ๆ อย่างประกอบด้วย อย่างกรณีนี้ ต่างฝ่ายต่างมีเรื่องกัน พร้อมมีเรื่อง เรียกว่าสมัครใจทะเลาะวิวาท ในระหว่างการวิวาท ในทางกฎหมายจะมาอ้างบันดาลโทสะก็ไม่ได้ มาอ้างป้องกันตัวก็ไม่ได้ เพราะต่างฝ่ายต่างพร้อมเข้าไปสู่ความเสี่ยงภัยเอง ทีนี้การทำร้ายร่างกาย ต้องแยกกันว่าทำร้ายหนัก ทำร้ายเบา หรือเอาให้ตาย เรื่องนี้ถ้าไม่มีมีดทุกอย่างจบ ไม่ต้องมามีอะไรสูญเสียขนาดนี้ แต่เมื่อมันมีมีด
ต้องบอกอย่างหนึ่งว่าการแทงถึง 2 ครั้ง ศาลฎีกาบอกเลยว่าเจตนาฆ่า ครั้งแรกข้างหน้า ครั้งที่สองข้างหลัง การแทง 1 ครั้ง ถ้ามันเป็นที่สำคัญก็เป็นเจตนาฆ่าเหมือนกัน ทีนี้ประเด็นที่ทนายความต่อสู้กันในศาล เขาจะดูอย่างเดียว ตำแหน่งที่แทง ถ้าแผลเดียวเขาจะต่อสู้ว่าไม่ตั้งใจทำให้ตาย เพราะอัตราโทษต่างกัน แต่กรณีเนื่องจากแทง 2 รอบ มันเถียงไม่ได้เลย ว่าตั้งใจทำร้ายร่างกาย หรือให้หยุดอยู่ตรงนั้น อันนี้คือตั้งใจเอาให้ตายเลย
ถ้าเขาบอกว่าพ่อแม่เขาสูงอายุ ?
รณณรงค์ : ขอโทษอย่างหนึ่งนะ คนแก่ทำผิดก็ต้องโดนจับ ถ้ากฎหมายบอกว่าไปแทงใครแล้วไม่ต้องรับผิดชอบมันไม่ใช่ เพียงแต่ว่าเมื่อสำนึกผิดเข้าไปอยู่ในเรือนจำ กรมราชทัณฑ์เขาจะมีวิธีดูแลผู้สูงวัยอีกแบบหนึ่งเท่านั้นเอง แต่ก็ต้องติดคุกนะครับ
พี่แหม่มทราบไหมว่าล่าสุดคุณแม่ รปภ. ที่เสียชีวิต แม่เสียใจมาก บอกว่าโซ่ขาดจากชีวิตเลย วันนี้ลูกชายตายไปเหมือนโซ่ขาด ทั้งเนื้อทั้งตัวมีตังค์แค่ 44 บาท การที่พี่มีเด็กอยู่ในตัว แล้วการเข้าไปลุยกับ รปภ. ไม่กลัวอันตรายเกิดกับเด็กเหรอ ?
แหม่ม : ก็ไม่มีใครช่วย พี่ก็กลัวพ่อแม่พี่ตายเหมือนกัน เราก็ไม่รู้เขาจะแค่ไหน เพราะเขาก็ลุแก่โทสะ เขาก็โมโหมากเหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแม่ไปเอามีดมาตอนไหน พี่ก็ไม่เห็น
โซเชียลมองว่าการที่พ่อแม่พี่ทำแบบนี้ มันไม่ถูกต้อง ?
แหม่ม : ก็อยากขอวอนให้เข้าใจมุมเราบ้าง ถ้าทุกคนอยู่จุดนั้นจะทำยังไง เพราะไม่มีใครช่วยเรา แล้วพ่อโดนตี แม่ก็เข้าไปช่วย เขาก็กลัวผัวเขาตายเหมือนกัน พอแม่เขาเข้าไปช่วย เขาก็ตีแม่เหมือนกัน มันก็พัวพันอยู่อย่างนี้
กรณีพี่ รปภ. หันหลังเดินกลับไป ทำไมเอามีดไปแทงอีก ?
แหม่ม : อันนี้พี่ไม่เห็นชอตนี้ ตอนนั้นพี่โทรศัพท์อยู่
มองยังไง ?
รณณรงค์ : ถ้าผมเป็นญาติ รปภ. ผมดำเนินคดีทั้ง 3 คนเลย ไม่ใช่เอาเฉพาะแม่ เอาทั้งลูกด้วย แยกดำเนินคดีกันไป เอาให้หมดทั้งบ้านเลย เพราะร่วมกันหรือเปล่า ไม่ใช่เอาเฉพาะแม่นะ
น่าจะเข้าไปขอโทษเขาด้วยความจริงใจ หยุดมุมที่คิดว่าเราถูกกระทำ ?
รณณรงค์ : วันนี้แม่ รปภ. เขาพูดคุยกับแม่เขาไม่ได้แล้ว แต่วันนี้คุณยังไปคุยกับแม่ที่เรือนจำได้ อะไรคือความแตกต่างของเรื่องนี้ อยากให้คิดดู เราจะเข้าใจว่าคนหนึ่งไม่มีโอกาสคุย ไม่มีโอกาสแก้ตัวเลยนะ ว่าวันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น แล้วแม่เขาก็ไม่มีโอกาสคุยกับลูกเขาแล้ว
อยากบอกว่าสังคมโซเชียลที่ถล่มด่าก็ให้เพลา ๆ หน่อย ?
แหม่ม : ค่ะ เพราะเราก็หนักอยู่แล้ว
แต่โซเชียลเขาก็มองว่าฝั่งโน้นก็สูญเสียนะ หนักกว่าพี่ที่ถูกด่าอีก ต้องยอมรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ?
แหม่ม : ค่ะ
ตอนนี้แม่ต้องประกันตัวเท่าไหร่ ?
มีตังค์ไปประกันไหม ?
แหม่ม : ไม่มีเลย
แล้วจะทำยังไง ?
แหม่ม : ต้องรอดูต่อไป พี่ไม่รู้กระบวนการทางกฎหมายด้านนี้ ถ้าไม่มีเงินก็ตามสภาพ เราก็ไปเยี่ยมเขาเอา แม่เป็นหัวหน้าครอบครัว พี่ก็มีครอบครัวและภาระของพี่ พ่อเขาก็ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ ไม่ได้เต็มที่เท่าแม่
อยากบอกอะไร ?
รณณรงค์ : ถ้าวินาทีนั้นไม่หยิบมีดมา จะไม่เกิดความสูญเสีย ฝากเป็นอุทาหรณ์ อย่าใจร้อน อย่าอารมณ์เสียง่าย ต่อให้มีอาวุธก็เก็บไว้ที่เดิมนั่นแหละ ไม่งั้นวันหนึ่งคนหนึ่งติดคุกไม่รู้จะทั้งชีวิตหรือเปล่า ส่วนคนหนึ่งเสียชีวิต
ทั้งนี้ สามารถติดตามชมรายการ โหนกระแส วันที่ 21 พฤษภาคม 2563 โดยมี "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33