พ่อเปิดปากก่อนเข้าคุก ยันช่วยลูกทำแท้งจริง-อ้างลูกเอาอสุจิพ่อมาถูตัว

         คืบหน้า คดีพ่อข่มขืนลูก เปิดใจกับ อมรินทร์ ทีวี ยอมรับรู้ว่าลูกท้อง เลยช่วยลูกทำแท้ง แล้วเอาซากเด็กไปเผา ผูกสายสิญจน์เพื่อให้ลูกสบายใจว่าไม่ใช่คนฆ่าเด็ก ลั่นจะประหารก็ได้ ยอมตายเพื่อให้ลูกพูดความจริง


 อ่านเพิ่มเติม : คืบพ่อข่มขืนลูก ทำแท้งเสร็จเอาซากให้พ่อ - ย่าเชื่อ หลานต้องการทำลายพ่อตัวเอง

          ทั้งนี้ นายอภิชาติ ได้ออกมาเปิดใจกับ อมรินทร์ ทีวี ที่เดียว ก่อนที่จะถูกฝากขัง ว่า ตนยืนยันว่าตนไม่ได้ข่มขืนลูกอย่างที่ลูกกล่าวอ้าง แต่ตนยอมรับว่าลูกของตนเคยตั้งครรภ์ และตนก็ช่วยลูกทำแท้งจริง

          ทั้งนี้ นางสาวเอ (นามสมมุติ) เคยแอบคุยโทรศัพท์กับผู้ชาย ตนก็ห่วงกลัวว่าลูกจะไปคบผู้ชาย จนลูกไปคุยกับเพื่อนว่าลูกจะหนีไปมีแฟนให้ได้ แต่กว่าจะมีแฟนนั้น ลูกจะแจ้งจับพ่อก่อน ตอนนั้นตนเคยไปปรึกษาแม่ของน้องเอ แม่ของน้องก็บอกว่า ก็ให้ลูกกินยาคุมสิ สิ่งเดียวที่ตนยอมรับผิดคือ ลูกของตนเคยท้องจริง แต่ไม่ได้เกิดจากตน และตนก็ช่วยลูกทำแท้งจริง แต่ไม่ได้บังคับลูกให้เอาเด็กออก

          "ผมไม่เคยข่มขืนลูก ผมยังเคยถามคนที่เอาข่าวไปลงว่า ถ้าเป็นลูกพี่ พี่จะทำไหม"


          เมื่อเดือนธันวาคม 2562 ลูกของตนอ้วนขึ้น ตนก็เลยไปซื้อที่ตรวจครรภ์มา แล้วพบว่าลูกท้องจริง และต้องการเอาเด็กออก ตนจึงช่วยลูกทำแท้งจริง และเอาซากเด็กไปเผา เอาสายสิญจน์ผูกกับถุง เพื่อให้ลูกสบายใจว่าไม่ได้ฆ่าเด็กในท้อง

          หากมีการตรวจร่างกายแล้วพบคราบอสุจิ ตนบอกเลยว่าไม่ใช่ตนทำ ตนเป็นผู้ชายและเคยสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง อาจจะมีอสุจิเลอะเสื้อ เลอะกางเกงบ้าง หากพบคราบอสุจิบนร่างกายของลูก ก็อาจจะเกิดจากการที่ลูกเอาเสื้อของตนไปถูตัวก็ได้

          "ประหารผมก็ได้ ถ้าจะสั่งขังผมนะ ประหารผมเลย จริง ผมยอมตายเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของผม ความหวังสุดท้ายของผมคือ ลูกสำนึกได้และเล่าความจริงว่ามันเป็นอย่างไร โกรธพ่อเรื่องอะไรบ้าง ไม่ใช่ทำแบบนี้"

         อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น้องเอ (นามสมมุติ) ให้การ กับสิ่งที่นายอภิชาติพูดนั้นไม่ตรงกัน เช่น น้องเอ บอกว่า ถูกพ่อข่มขืนสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ตั้งแต่อายุ 11 ขวบ นายอภิชาติ บอกว่า ไม่เคยข่มขืนลูก, น้องเอ บอกว่า พ่อสั่งให้ทำแท้ง 6 ครั้ง นายอภิชาติ บอกว่า ช่วยลูกทำแท้งจริงแค่ครั้งเดียว, น้องเอ บอกว่า พ่อให้เหน็บยาและฉีดแอลกอฮอล์เข้าช่องคลอด นายอภิชาติ บอกว่า ไม่เคยทำ เป็นต้น

         ด้าน นายแพทย์สิทธา ลิขิตนุกูล แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม เผยว่า การที่ลูกจะเอาเสื้อผ้าที่เปื้อนอสุจิพ่อไปถูตัวนั้น โอกาสที่จะเจอไม่มีแน่นอน เพราะอสุจิอยู่นอกร่างกายได้ไม่เกิน 20 นาทีเท่านั้น