คืบหน้าคดีหอยแครง พ่อค้าผู้เสียหายพร้อมพยาน เข้าชี้ตัว 3 นายตำรวจสืบภาค 8 หลังรีดเงิน 5 ล้าน แลกไม่จับดำเนินคดี ทั้งที่จับหอยไม่ผิดกฎหมาย - แฉเพิ่มอีก ชาวบ้านตกเป็นเหยื่อแล้วเกือบ 10 คน เรียกเงินกว่าครึ่งแสน
จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย บุกตรวจค้นพื้นที่ชุมชนบ้านสำโรง หมู่ 4 ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมใช้ปืนจี้และยึดหอยแครงมูลค่า 5 แสนบาทไป ขณะที่ นายอนุชา บินมูซา อายุ 46 ปี ชาวประมงพื้นบ้าน กำลังรับซื้อลูกหอยแครงจากชาวประมง ที่ลงไปตักลูกหอยแครงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ในพื้นที่อนุรักษ์เขตชายฝั่ง 1,000 เมตร แต่ตำรวจอ้างว่าเป็นการซื้อที่ผิดกฎหมาย และขอเงิน 5 ล้านบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี ทำให้ชาวบ้านนับร้อยที่เห็นเหตุการณ์ไม่พอใจ ตำรวจจึงหนีไปขึ้นรถ แต่ชาวบ้านเข้าไปล้อมและเขย่ารถนั้น
อ่านข่าว : ชาวบ้าน 300 คน ล้อมรถตำรวจแล้วเขย่า ฉุนใช้ปืนขู่รีดเงิน 5 ล้าน พ่อค้าหอยแครง
ภาพเหตุการณ์วันที่เกิดเรื่อง ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ความคืบหน้าล่าสุด (22 พฤษภาคม 2563) สำนักข่าวไทย พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า ตำรวจชุดดังกล่าว สังกัดกองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธร ภาค 8 โดยนายอนุชา บินมูซา ผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นาย ในความผิดฐานร่วมกันกรรโชกทรัพย์ พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
โดยก่อนหน้านี้ กลุ่มชาวประมงตกเป็นเหยื่อของตำรวจนอกรีดไปแล้ว 8-9 คน บางรายเสียเงินตั้งแต่หลักหมื่นต้น ๆ ไปจนถึง 5-6 หมื่นบาท เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีที่ชาวบ้านเข้าใจว่า การครอบครองลูกหอยแครงนั้นผิดกฎหมาย ทั้งที่ไม่ผิด และล่าสุดตนเป็นเหยื่อคนที่ 10 จึงไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่ออีก
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย, เฟซบุ๊ก ศูนย์ข่าว123คนดีมีน้ำใจ-จังหวัดสุราษฎร์ธานี