ฝากขังแม่ปุ๊ก - ค้านประกันตัว ข้อหาฉ้อโกง ทำร้ายลูก ด้าน พม. รับเด็กชายบีไปดูแลแล้ว พบให้ข้อมูลเท็จ พาลูกไปหาหมอ บอกว่าลูกแพ้ปลาหมึก แต่ตรวจพบทางเดินอาหารอักเสบรุนแรง
จากกรณีข่าวที่โลกออนไลน์ได้ออกมาแฉพฤติกรรมของคุณแม่รายหนึ่งคือ แม่ปุ๊ก ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ จนนำมาสู่พิรุธถึงการเสียชีวิตของลูก และนำไปสู่การสร้างสมมุติฐานว่า แม่ปุ๊กวางยาลูกหรือไม่ ซึ่งรายงานข่าวเบื้องต้นระบุว่า แม่ปุ๊กกำลังถูกดำเนินคดีฉ้อโกงทรัพย์ ไม่ใช่ฆาตกรรม และทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้รับตัวเด็กชายบี (นามสมมุติ) ลูกอีกคน ไปดูแลระหว่างสอบสวนแล้ว ต่อมาแม่ปุ๊กก็ไม่ยอม ได้แจ้งความเรื่องนี้กับตำรวจ ว่ามีเฟซบุ๊กหนึ่งกล่าวหาว่าเธอวางยาลูก จนทำให้มีคนแสดงความคิดเห็นมากมาย และแชร์เรื่องดังกล่าวออกไปอย่างกว้างขวาง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : แม่ปุ๊ก ถูกสงสัย ฮุบเงินบริจาค 20 ล้าน หลังลูก 2 คน ป่วย
ภาพจาก สำนักข่าว INN
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 22 พฤษภาคม 2563 สำนักข่าว INN รายงานว่า นางสุภัชชา สุทธิพล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ได้รับการประสานจากทีมแพทย์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กรณีตรวจพบสารกัดกร่อนผ่านทางช่องปาก เด็กชายบี (นามสมมุติ) อายุ 2 ขวบ ในระหว่างการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ณ ห้องพิเศษ (ICU) รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
ทั้งนี้ ทางบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับทีมสหวิชาชีพ โดยเด็กชายบี (นามสมมุติ) เข้ามารักษาตัวที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ด้วยอาการแพ้และอาเจียนรุนแรง แม่เด็กสันนิษฐานว่าลูกแพ้ปลาหมึก แต่แพทย์พบว่าหลอดอาหารและกระเพาะอาหารอักเสบรุนแรง มีแผลในปาก ลำไส้ และกระเพาะอาหาร สาเหตุจากการกลืนสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน แพทย์จึงสงสัยพฤติกรรมแม่ โดยเชื่อมโยงกับเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) พี่สาวที่เสียชีวิตไปแล้ว ที่เคยเข้ามารักษาเมื่อปีก่อน ซึ่งมีอาการเช่นเดียวกันกัน รวมถึงเรื่องขายของและรับบริจาคของแม่เด็กในเฟซบุ๊ก จึงเข้าแจ้งความดังกล่าว
และเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ หมอ พยาบาล รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ นักสังคมสงเคราะห์ อัยการเด็กและเยาวชน อัยการสูงสุด อัยการจังหวัดธัญบุรี และตำรวจกองปราบปราม สภ.คลองหลวง เข้าร่วมประชุม ขอให้ศาลสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก เนื่องจากมีความเห็นว่าเด็กอาจได้รับอันตรายหากอยู่ในความดูแลของแม่ โดยบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ได้ดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องตามมาตรา 37 ประสานส่งตัวเด็กเข้ารับการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพ ในระบบครอบครัวอุปถัมภ์ขององค์กรเอกชน ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 33 และช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ส่วนแม่เด็กนั้น กองปราบปรามออกหมายจับคดีฉ้อโกง และทำร้ายร่างกายเด็กจนได้รับอันตรายสาหัส ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 ปัจจุบันถูกฝากขังที่เรือนจำคลองเปรม และคัดค้านการประกันตัว
ทั้งนี้ ทีมสหวิชาชีพมีข้อสงสัยว่าเด็กทั้ง 2 คน อาจจะไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ข้อสันนิษฐานดังนี้
1. กรณีเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) กองปราบปรามสืบทราบว่าในใบเกิดชื่อพ่อแม่เป็นบุคคลอื่น
2. กรณีเด็กชายบี (นามสมมุติ) มีการแจ้งเกิดเป็นชื่อแม่ แต่ไม่มีการฝากท้อง ไม่ปรากฏชื่อพ่อ ซึ่งหมอขอให้ตรวจ DNA แต่แม่ไม่ยินยอม จึงต้องขออำนาจศาลให้ตรวจ DNA ในกระบวนการ
3. แม่มีการเปลี่ยนชื่อถึง 4 ครั้ง
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
