คุณตา เชื่อ แม่ปุ๊กไม่ได้วางยาฆ่าลูก ฮุบเงินบริจาค ชี้ เงินบริจาคมีแค่หลักหมื่นเท่านั้น พร้อมตั้งข้อสงสัยที่ตรวจพบสารเคมีในกระเพาะน้องอิ่มบุญ อาจเป็นเพราะโรงพยาบาล เนื่องจากช่วงนั้นอยู่ในความดูแลของที่นั่น
![ข่าวแม่ปุ๊กวางยาลูก]( "ข่าวแม่ปุ๊กวางยาลูก")
จากกรณีที่ แม่ปุ๊ก คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ซึ่งเป็นแม่ของ เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) และเด็กชายบี (นามสมมุติ) ถูกตั้งข้อสงสัยว่า วางยาฆ่าน้องอมยิ้ม เพื่อฮุบเงินบริจาค 20 ล้าน พร้อมกันนั้นยังพบว่า เจ้าตัวเปลี่ยนชื่อมาแล้วหลายครั้ง และปิดเฟซบุ๊กหายไป จนทำให้โซเชียลตามหาตัวกันให้วุ่น กระทั่งถูกดำเนินคดีฉ้อโกงทรัพย์แล้ว
อ่านข่าว : แม่ปุ๊ก ถูกสงสัย ฮุบเงินบริจาค 20 ล้าน หลังลูก 2 คน ป่วย
ล่าสุด วันที่ 23 พฤษภาคม 2563 รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า นายสุข (นามสมมติ) พ่อของแม่ปุ๊ก กล่าวว่า วันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้มาค้นบ้าน พร้อมนำของกลาง เช่น เอกสารการตายของเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) พร้อมอ่านหมายจับของศาลอาญา ข้อกล่าวหาคือ รับไว้ซึ่งเด็กโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, การค้ามนุษย์, ฉ้อโกงประชาชน ก่อนนำตัวไปสอบปากคำ
![ข่าวแม่ปุ๊กวางยาลูก]( "ข่าวแม่ปุ๊กวางยาลูก")
ทั้งนี้ เรื่องเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) ตนทราบอยู่แล้วว่าไม่ใช่ลูกแท้ ๆ เพราะไปรับอุปการะมาเลี้ยง ส่วนอาการป่วยของเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) ก็ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ แม่ปุ๊กจึงเปิดรับบริจาค รักษาตัวที่โรงพยาบาลภูมิพลฯ 3 เดือน แล้วมารักษาตัวที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ต่อ ด้วยโรคภูมิแพ้เช่นกัน น้องมีอาการหนัก เข้า-ออกโรงพยาบาลหลายหน บางครั้งมีอาการไอเป็นเลือด ส่วนใบมรณบัตรระบุว่า ตายเพราะไตวายเฉียบพลัน ไม่เกี่ยวกับสารเคมีใด ๆ
เรื่องการรับบริจาค ตนก็สงสัยว่าทำไมถึงยังเปิดรับอยู่ทั้งที่เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) ตายแล้ว แม่ปุ๊กบอกว่า อยากเอาเลือดเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) ไปตรวจแล็บที่ต่างประเทศ และมีค่าใช้จ่ายสูง
ขณะเดียวกัน เด็กชายบี (นามสมมุติ) เป็นลูกชายของแม่ปุ๊กจริง ท้องกับรุ่นพี่ เพราะตอนคลอดตนเป็นคนพาไปคลอดที่โรงพยาบาลภูมิพลฯ ตอนนี้เด็กชายบี (นามสมมุติ) อายุ 2 ขวบ เกิดมาเป็นคนแข็งแรง แต่ช่วงเดือนธันวาคม 2562 ก็เริ่มไม่แข็งแรงแล้วเพราะรับประทานปลาหมึกที่ห้าง มีผื่นขึ้นเหมือนลมพิษ และรับการรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา
ต่อมาช่วงเย็น เด็กชายบี (นามสมมุติ) อาเจียน จึงไม่ได้ออกจากโรงพยาบาล และมีครั้งหนึ่งก็อาเจียนเป็นเลือด ทำให้ต้องเข้าห้องไอซียู พอหมอส่องกล้องก็พบว่าไม่เป็นอะไร จนกลางเดือนกุมภาพันธ์ ก็อาเจียนเป็นเลือดออกมาอีก พบว่ามีความผิดปกติของกระเพาะอาหารและลำไส้สีดำ
"น้องอะโดนสารเคมี คาดการณ์ว่าน่าจะเป็นแม่วางยา ผมถามหมอนะครับว่าถ้าโดนสารเคมีนี้ สารเคมีนี้คืออะไร หมอตอบไม่ทราบ อ้าว...ผมบอกคุณไม่ทราบได้อย่างไรเรื่องสารเคมี เวลาคนตายผ่าพิสูจน์ ยังบอกได้เลยว่าสารเคมีคืออะไร เขารู้อย่างเดียวว่าสารเคมีนั้นไม่มีกลิ่น ไม่มีสี ไม่มีรส ผมถามใช่พวกผงชูรสหรือเปล่า ขอให้บอก ผมจะได้รู้ เผื่อว่าเราไปเผลอให้หลานกินหรือเปล่า แต่ว่าเด็กจะกินอาหารที่โรงพยาบาลอยู่แล้ว ผมก็ถามหมอว่า มันเป็นไปได้ไหมว่าโรงพยาบาลเอาอะไรให้เด็กกินหรือเปล่า เพราะว่าน้องอิ่มก็ไม่ได้อยู่ในความดูแลของเรา แต่เขาบอกมั่นใจมากว่าแม่เด็กเป็นคนวางยา" นายสุข กล่าว
![แม่ปุ๊กวางยาลูก]( "แม่ปุ๊กวางยาลูก")
หลังจากนั้นก็มีการตรวจสุขภาพจิตแม่ปุ๊ก พบว่ามีปัญหา ส่วนเรื่องเงินบริจาคมีแค่หลักหมื่นเท่านั้น ซึ่งตนยืนยันว่า แม่ปุ๊กไม่ได้วางยาเด็กชายบี (นามสมมุติ) แน่นอน
ส่วนในตอนนี้ เด็กชายบี (นามสมมุติ) อยู่ในความดูแลของหน่วยงานรัฐ ไม่ได้อยู่ในความดูแลของครอบครัวแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
จากกรณีที่ แม่ปุ๊ก คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ซึ่งเป็นแม่ของ เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) และเด็กชายบี (นามสมมุติ) ถูกตั้งข้อสงสัยว่า วางยาฆ่าน้องอมยิ้ม เพื่อฮุบเงินบริจาค 20 ล้าน พร้อมกันนั้นยังพบว่า เจ้าตัวเปลี่ยนชื่อมาแล้วหลายครั้ง และปิดเฟซบุ๊กหายไป จนทำให้โซเชียลตามหาตัวกันให้วุ่น กระทั่งถูกดำเนินคดีฉ้อโกงทรัพย์แล้ว
อ่านข่าว : แม่ปุ๊ก ถูกสงสัย ฮุบเงินบริจาค 20 ล้าน หลังลูก 2 คน ป่วย
ล่าสุด วันที่ 23 พฤษภาคม 2563 รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า นายสุข (นามสมมติ) พ่อของแม่ปุ๊ก กล่าวว่า วันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้มาค้นบ้าน พร้อมนำของกลาง เช่น เอกสารการตายของเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) พร้อมอ่านหมายจับของศาลอาญา ข้อกล่าวหาคือ รับไว้ซึ่งเด็กโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, การค้ามนุษย์, ฉ้อโกงประชาชน ก่อนนำตัวไปสอบปากคำ
เรื่องการรับบริจาค ตนก็สงสัยว่าทำไมถึงยังเปิดรับอยู่ทั้งที่เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) ตายแล้ว แม่ปุ๊กบอกว่า อยากเอาเลือดเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) ไปตรวจแล็บที่ต่างประเทศ และมีค่าใช้จ่ายสูง
ขณะเดียวกัน เด็กชายบี (นามสมมุติ) เป็นลูกชายของแม่ปุ๊กจริง ท้องกับรุ่นพี่ เพราะตอนคลอดตนเป็นคนพาไปคลอดที่โรงพยาบาลภูมิพลฯ ตอนนี้เด็กชายบี (นามสมมุติ) อายุ 2 ขวบ เกิดมาเป็นคนแข็งแรง แต่ช่วงเดือนธันวาคม 2562 ก็เริ่มไม่แข็งแรงแล้วเพราะรับประทานปลาหมึกที่ห้าง มีผื่นขึ้นเหมือนลมพิษ และรับการรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา
ต่อมาช่วงเย็น เด็กชายบี (นามสมมุติ) อาเจียน จึงไม่ได้ออกจากโรงพยาบาล และมีครั้งหนึ่งก็อาเจียนเป็นเลือด ทำให้ต้องเข้าห้องไอซียู พอหมอส่องกล้องก็พบว่าไม่เป็นอะไร จนกลางเดือนกุมภาพันธ์ ก็อาเจียนเป็นเลือดออกมาอีก พบว่ามีความผิดปกติของกระเพาะอาหารและลำไส้สีดำ
"น้องอะโดนสารเคมี คาดการณ์ว่าน่าจะเป็นแม่วางยา ผมถามหมอนะครับว่าถ้าโดนสารเคมีนี้ สารเคมีนี้คืออะไร หมอตอบไม่ทราบ อ้าว...ผมบอกคุณไม่ทราบได้อย่างไรเรื่องสารเคมี เวลาคนตายผ่าพิสูจน์ ยังบอกได้เลยว่าสารเคมีคืออะไร เขารู้อย่างเดียวว่าสารเคมีนั้นไม่มีกลิ่น ไม่มีสี ไม่มีรส ผมถามใช่พวกผงชูรสหรือเปล่า ขอให้บอก ผมจะได้รู้ เผื่อว่าเราไปเผลอให้หลานกินหรือเปล่า แต่ว่าเด็กจะกินอาหารที่โรงพยาบาลอยู่แล้ว ผมก็ถามหมอว่า มันเป็นไปได้ไหมว่าโรงพยาบาลเอาอะไรให้เด็กกินหรือเปล่า เพราะว่าน้องอิ่มก็ไม่ได้อยู่ในความดูแลของเรา แต่เขาบอกมั่นใจมากว่าแม่เด็กเป็นคนวางยา" นายสุข กล่าว
ส่วนในตอนนี้ เด็กชายบี (นามสมมุติ) อยู่ในความดูแลของหน่วยงานรัฐ ไม่ได้อยู่ในความดูแลของครอบครัวแล้ว
