หนุ่มหัวร้อน ใช้หมวกกันน็อกฟาดโชเฟอร์แท็กซี่ วัย 75 เลือดอาบ เจอแจ้ง 2 ข้อหา

          หนุ่มหัวร้อนใช้หมวกกันน็อกฟาดคนแก่ ขึ้นโรงพักเจอ 2 ข้อหา - วิ่งหนีนักข่าว ยังไม่รู้ใครพูดจริง พูดเท็จ ตำรวจเร่งสอบสวนต่อ


          จากกรณีข่าวหนุ่มรายหนึ่งใช้หมวกกันน็อกทำร้ายร่างกายโชเฟอร์แท็กซี่สูงอายุจนเลือดอาบ หลังเกิดเหตุเฉี่ยวชนกันบริเวณถนนกัลปพฤกษ์ ขาเข้าถนนบางแค-บางบอน กทม. ต่อมา หนุ่มรายดังกล่าวชี้แจงว่า ตนถูกขับเฉี่ยวชนจนบาดเจ็บแล้วหลบหนี จึงขี่มอเตอร์ไซค์ตามมาดักหน้าขอเคลียร์ แต่ถูกชนซ้ำ จึงใช้หมวกกันน็อกฟาดเพื่อป้องกันตัว เนื่องจากอีกฝ่ายมีไขควงแหลม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

อ่านข่าว : ฟังความ มอเตอร์ไซค์ VS แท็กซี่ ใช้หมวกตีหัว อ้างป้องกันตัว ชี้แท็กซี่มีไขควง ?!


          เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 28 พฤษภาคม 2563 สำนักข่าว INN รายงานว่า นายพชร เอี่ยมโมฬี คนขี่มอเตอร์ไซค์รายดังกล่าว ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.เพชรเกษม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และใช้กำลังประทุษร้ายแก่กายและจิตใจ ซึ่งเจ้าตัวพยายามจะวิ่งหนีผู้สื่อข่าวขึ้นไปบนชั้น 2 ของโรงพัก และวิ่งลงมาอีกทางหนึ่ง

          ด้าน นายเม้ง คนขับรถแท็กซี่ วัย 75 ปี ได้เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับตำรวจ ยืนยันว่า ทางคู่กรณีพยายามหาเรื่องมาตลอด เพราะพยายามจะแซงเข้ามาเลนขวา แต่ไม่สามารถเข้ามาได้ จนมาถึงบริเวณแยกบางพฤกษ์ นายพชรได้ขี่รถมาปาดหน้า ส่งผลให้ตนขับไปชนท้ายรถกระบะที่จอดติดไฟแดงอยู่ ก่อนจะถูกนายพชรใช้หมวกกันน็อกฟาด โดยตนได้ใช้ไขควงมาป้องกันตัวเฉย ๆ ส่วนที่คู่กรณีกล่าวหาว่าตนขับรถไปเฉี่ยวชนจนแฟนสาวของเขาได้รับบาดเจ็บนั้น ก็ไม่ทราบว่าเกิดตอนไหน

          ในส่วนของคดีที่นายเม้งขับรถเฉี่ยวชนและพยายามหลบหนี และยังขับรถชนคนขี่จักรยานยนต์รับจ้าง ที่คนขี่จักรยานยนต์รับจ้างแจ้งความไว้นั้น พ.ต.อ. ศุภวัช ปานแดง ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลเพชรเกษม บอกว่า ในส่วนนี้ต้องพิสูจน์ทราบเจตนาของคนขับแท็กซี่ว่าตั้งใจชนรถจักรยานยนต์หรือไม่ ส่วนจะเข้าข่ายพยายามฆ่าหรือไม่นั้นต้องอยู่ที่พยานหลักฐาน ซึ่งฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมในส่วนนี้ ส่วนคนขับรถแท็กซี่หากผลแพทย์ออกมาระบุว่ามีอาการสาหัส ก็จะเรียกคนขี่จักรยานยนต์มาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้

ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN