หนุ่มยิงตัวเองดับ ทิ้งจดหมายลาตาย เล่าความจริง หลังโดนจับคดีข่มขืนเด็ก ขอใช้ชีวิตนี้เป็นคำยืนยันว่าได้พูดความจริงทุกประการ พ้อ ครอบครัวนี้ต้องการอะไรจากผมกันแน่
วันที่ 18 มิถุนายน 2563 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพจดหมายที่เขียนด้วยลายมือ ระบุถึงกรณีที่ตนเองถูกดำเนินคดีข้อหาข่มขืนเด็ก ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกอัปโหลดไปไม่นาน ก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์ว่าเจ้าของเฟซบุ๊กคนนี้ได้เสียชีวิตแล้วโดยการยิงตัวตาย ทำให้มีคนเข้ามาแสดงความเสียใจเป็นจำนวนมาก พร้อมตั้งคำถามถึงกระบวนการทางกฎหมายที่หนุ่มคนนี้ต้องเผชิญ ว่าสรุปแล้วความจริงเป็นเช่นไร
สำหรับข้อความในจดหมาย มีดังนี้
"9 ตุลาคม 2562 จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์
ผมไปรับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งบริเวณป่าหลังโรงเรียน ประมาณเวลา 19.45 นาฬิกา
ก่อนหน้านั้นเด็กบอกว่า พ่อและย่าไล่ออกจากบ้าน
สาเหตุเพราะเรื่องเลี้ยงแมว ทำให้ถูกพ่อบีบคอ เพราะพ่อกำลังเมายาบ้า
จึงได้เดินออกจากบ้าน และให้แฟนมารับที่บริเวณฝายกั้นน้ำตั้งแต่เวลา 16.51
นาฬิกา พอน้องชายของเด็กผู้หญิงผ่านมา
น้องและแฟนได้พากันเข้ามาเล่นในโรงเรียน เพื่อที่พ่อจะได้ไม่รู้
กลัวน้องชายไปบอกพ่อ
เด็กผู้หญิงจึงได้อยู่กับแฟนถึงเวลาเกือบ 20.00 นาฬิกา เด็กโทร. มาหาผมตั้งแต่เวลา 15.45 นาฬิกา บอกให้ผมไปรับ แต่ผมยังไม่ว่าง เพราะผมเตรียมงานวันเกิดให้หลานสาวที่ปราจีนบุรี หลังจากนั้นประมาณ 18.15 นาฬิกา เด็กผู้หญิงบอกให้ผมมารับไปหาแม่
ด้วยความสงสาร ผมจึงขับรถไปรับตั้งแต่เวลา 18.25 นาฬิกา พอผมถึงเวลาเกือบ 20.00 นาฬิกา ผมเห็นเด็กผู้หญิงอยู่บริเวณป่าหลังโรงเรียน เด็กผู้หญิงบอกว่าแฟนชวนไปนอนบ้านด้วยแต่ไม่กล้าไป กลัวยายของแฟนด่าเพราะรู้จักกัน ผมจึงได้ขับรถไปส่งหาแม่ที่ปราจีน แต่ระหว่างทาง เด็กเกิดเป็นลมชักขึ้นเพราะเครียดเรื่องที่พ่อบีบคอ ผมจึงเอามืออุดปากกันเด็กกัดลิ้นตัวเอง ดีที่มีกระปุกแป้ง จึงได้เอาอุดแทนไม่งั้นคงช่วยยาก
หลังจากเด็กรู้ตัว จึงได้ติดต่อให้แม่ของเด็กมารับที่ สภ.ประจันตคาม ผมก็ขับไปรอที่สถานีตำรวจประจันตคาม แต่แม่เด็กก็ไม่มา บอกให้ผมไปส่งที่ท่าประชุม ผมจึงขับไปส่งที่ท่าประชุม รอหน้าวัดประมาณ 45 นาที และได้พูดคุยกับผมประมาณ 25 นาที จึงแยกย้ายกันไป
ผมขอใช้ชีวิตนี้เป็นคำยืนยันว่าผมได้พูดความจริงทุกประการ
แต่สิ่งที่ผมได้รับกลับโดนแจ้งความว่าข่มขืนเด็ก
ผมขอถามหน่อย
1. ทำไมไม่ตรวจคราบอสุจิ และ DNA เพื่อยืนยันตัวบุคคลที่ข่มขืน เพราะตรวจไปก็ไม่พบของผมใช่หรือไม่
2. ร่องรอยฉีกขาด 2 มิลลิเมตร เคยเห็นขนาดอวัยวะเพศของผมหรือยัง ผมฉีดอวัยวะเพศมา เด็กตัวแค่นั้น 2 มิล ไม่พอหรอก
3. ทำไมไม่บอกตำรวจว่าพ่อเมายาบีบคอ บางวันคือทุบประตูห้องนอน
4. ทำไมไม่บอกล่ะว่า พ่อและย่าขู่ฆ่าว่าจะเอาให้ตายถ้าหนีไปอยู่กับแม่
5. ทำไมไม่บอกว่าผมไปส่ง และอยู่คุยด้วยเกือบครึ่งชั่วโมง ไปบอกว่าเขาส่งเสร็จแล้วก็หนีไปได้ยังไง
6. ทำไมไม่บอกพ่อกับแม่ล่ะว่าอยู่กับแฟนในโรงเรียนถึงค่ำ ไม่บอกล่ะว่าเป็นลมชักบนรถ
7. ตอนผมไปรอที่สถานีตำรวจประจันตคาม ทำไมไม่กล้ามารับ
8. ทำไมย่าของเด็กไปพูดให้คนอื่นฟังว่าผมให้เด็กไปเปิดบัญชีแล้วโอนเงินให้เดือนละ 10,000
9. ทำไมเด็กไปบอกกับแม่ว่าผมส่งเรียนเดือนละ 6,000 บาท ทั้งที่ผมไม่ได้ให้
ครอบครัวนี้ต้องการอะไรจากผมกันแน่
อวัยวะของผม ส่วนไหนยังใช้ได้ บริจาคให้หมด ไม่ต้องยื้อชีวิต
แม่ลำบากมามากพอแล้ว คดีนี้ศาลเชื่อเด็กมากกว่า หนูจึงใช้ชีวิตยืนยันความบริสุทธิ์"
วันที่ 18 มิถุนายน 2563 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพจดหมายที่เขียนด้วยลายมือ ระบุถึงกรณีที่ตนเองถูกดำเนินคดีข้อหาข่มขืนเด็ก ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกอัปโหลดไปไม่นาน ก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์ว่าเจ้าของเฟซบุ๊กคนนี้ได้เสียชีวิตแล้วโดยการยิงตัวตาย ทำให้มีคนเข้ามาแสดงความเสียใจเป็นจำนวนมาก พร้อมตั้งคำถามถึงกระบวนการทางกฎหมายที่หนุ่มคนนี้ต้องเผชิญ ว่าสรุปแล้วความจริงเป็นเช่นไร
สำหรับข้อความในจดหมาย มีดังนี้
"9 ตุลาคม 2562 จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์
ผมไปรับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งบริเวณป่าหลังโรงเรียน ประมาณเวลา 19.45 นาฬิกา
เด็กผู้หญิงจึงได้อยู่กับแฟนถึงเวลาเกือบ 20.00 นาฬิกา เด็กโทร. มาหาผมตั้งแต่เวลา 15.45 นาฬิกา บอกให้ผมไปรับ แต่ผมยังไม่ว่าง เพราะผมเตรียมงานวันเกิดให้หลานสาวที่ปราจีนบุรี หลังจากนั้นประมาณ 18.15 นาฬิกา เด็กผู้หญิงบอกให้ผมมารับไปหาแม่
ด้วยความสงสาร ผมจึงขับรถไปรับตั้งแต่เวลา 18.25 นาฬิกา พอผมถึงเวลาเกือบ 20.00 นาฬิกา ผมเห็นเด็กผู้หญิงอยู่บริเวณป่าหลังโรงเรียน เด็กผู้หญิงบอกว่าแฟนชวนไปนอนบ้านด้วยแต่ไม่กล้าไป กลัวยายของแฟนด่าเพราะรู้จักกัน ผมจึงได้ขับรถไปส่งหาแม่ที่ปราจีน แต่ระหว่างทาง เด็กเกิดเป็นลมชักขึ้นเพราะเครียดเรื่องที่พ่อบีบคอ ผมจึงเอามืออุดปากกันเด็กกัดลิ้นตัวเอง ดีที่มีกระปุกแป้ง จึงได้เอาอุดแทนไม่งั้นคงช่วยยาก
หลังจากเด็กรู้ตัว จึงได้ติดต่อให้แม่ของเด็กมารับที่ สภ.ประจันตคาม ผมก็ขับไปรอที่สถานีตำรวจประจันตคาม แต่แม่เด็กก็ไม่มา บอกให้ผมไปส่งที่ท่าประชุม ผมจึงขับไปส่งที่ท่าประชุม รอหน้าวัดประมาณ 45 นาที และได้พูดคุยกับผมประมาณ 25 นาที จึงแยกย้ายกันไป
ผมขอใช้ชีวิตนี้เป็นคำยืนยันว่าผมได้พูดความจริงทุกประการ
แต่สิ่งที่ผมได้รับกลับโดนแจ้งความว่าข่มขืนเด็ก
ผมขอถามหน่อย
1. ทำไมไม่ตรวจคราบอสุจิ และ DNA เพื่อยืนยันตัวบุคคลที่ข่มขืน เพราะตรวจไปก็ไม่พบของผมใช่หรือไม่
2. ร่องรอยฉีกขาด 2 มิลลิเมตร เคยเห็นขนาดอวัยวะเพศของผมหรือยัง ผมฉีดอวัยวะเพศมา เด็กตัวแค่นั้น 2 มิล ไม่พอหรอก
3. ทำไมไม่บอกตำรวจว่าพ่อเมายาบีบคอ บางวันคือทุบประตูห้องนอน
4. ทำไมไม่บอกล่ะว่า พ่อและย่าขู่ฆ่าว่าจะเอาให้ตายถ้าหนีไปอยู่กับแม่
5. ทำไมไม่บอกว่าผมไปส่ง และอยู่คุยด้วยเกือบครึ่งชั่วโมง ไปบอกว่าเขาส่งเสร็จแล้วก็หนีไปได้ยังไง
6. ทำไมไม่บอกพ่อกับแม่ล่ะว่าอยู่กับแฟนในโรงเรียนถึงค่ำ ไม่บอกล่ะว่าเป็นลมชักบนรถ
7. ตอนผมไปรอที่สถานีตำรวจประจันตคาม ทำไมไม่กล้ามารับ
8. ทำไมย่าของเด็กไปพูดให้คนอื่นฟังว่าผมให้เด็กไปเปิดบัญชีแล้วโอนเงินให้เดือนละ 10,000
9. ทำไมเด็กไปบอกกับแม่ว่าผมส่งเรียนเดือนละ 6,000 บาท ทั้งที่ผมไม่ได้ให้
ครอบครัวนี้ต้องการอะไรจากผมกันแน่
อวัยวะของผม ส่วนไหนยังใช้ได้ บริจาคให้หมด ไม่ต้องยื้อชีวิต
แม่ลำบากมามากพอแล้ว คดีนี้ศาลเชื่อเด็กมากกว่า หนูจึงใช้ชีวิตยืนยันความบริสุทธิ์"