x close

กยศ. แจงปมลูกหนี้ 1.7 หมื่น ซัดหนีหนี้เป็น 10 ปี สุดท้ายจับบ้าน 2 ล้าน ขาย 3 หมื่น

          กยศ. ชี้แจงปมยึดบ้าน 2 ล้าน เผยอีกฝ่ายหนีหนี้เป็น 10 ปี ติดต่อไม่ได้ทั้งคนกู้และคนค้ำ จึงต้องดำเนินการยึดทรัพย์ก่อนคดีหมดอายุ เบื้องต้นเสนอประสานให้ซื้อคืน และให้โอกาสผ่อนชำระหนี้ กยศ. อีกครั้ง นาน 6 ปี


          จากกรณี นางสาวสมหมาย วงศ์ตะวัน วัย 38 ปี ร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกยึดทรัพย์บ้านทรงไทยมูลค่า 2 ล้านบาท เอาไปขายทอดตลาด เหตุน้องสาวติดหนี้ กยศ. จำนวน 17,000 บาท ซึ่งเจ้าตัวคาใจว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นชื่อพ่อ และพ่อไม่ได้เป็นคนค้ำประกัน แต่กลับเป็นบ้านที่ถูกเลือกที่จะยึดไปนั้น

อ่านข่าว : สาวอึ้ง ติดหนี้ กยศ. ไม่จ่าย 1.7 หมื่น โดนยึดบ้านไม้หลังงาม 2 ล้าน ศาลตัดสินแล้ว




          ล่าสุด (25 มิถุนายน 2563) มีรายงานว่า นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้กู้ยืมถูกดำเนินคดีตั้งแต่ปี 2551 และศาลได้มีคำพิพากษาให้ชำระหนี้เงินต้น จำนวน 17,868 บาท พร้อมดอกเบี้ย แต่ผู้กู้ยืมไม่ได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษา กองทุนจึงจำเป็นต้องดำเนินการสืบทรัพย์บังคับคดี แต่ทรัพย์สินของผู้กู้พบว่าไม่สามารถยึดได้ เนื่องจากถูกเจ้าหนี้รายอื่นยึดไว้แล้ว

          ทางกองทุนจึงดำเนินการยึดทรัพย์ของผู้ค้ำประกันเมื่อปลายปี 2561 ซึ่งที่ดินดังกล่าวติดจำนองเจ้าหนี้รายอื่นอยู่ ต่อมาในช่วงต้นปี 2562 ผู้กู้ยืมได้ชำระหนี้เพียงบางส่วน และไม่ได้ติดต่อกองทุนเพื่อทำบันทึกข้อตกลงงดการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ถูกยึดไว้ ซึ่งหากผู้กู้ยืมหรือผู้ค้ำประกันมาติดต่อก็สามารถของดการขายทรัพย์และผ่อนชำระหนี้ได้อีก 6 ปี

          ต่อมา สำนักงานบังคับคดีจังหวัดแพร่ ได้ดำเนินการประกาศขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างโดยขายแบบติดจำนอง เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 และมีบุคคลภายนอกซื้อได้ในราคา 30,000 บาท โดยการขายครั้งนี้เป็นการขายครั้งที่ 11 ซึ่งในการขายทุกครั้งที่ผ่านมาไม่มีผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันมาดูแลการขาย

          ทั้งนี้ ขอชี้แจงว่า ก่อนที่จะมีการบังคับคดี กองทุนพยายามที่จะติดต่อกับผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันทั้งทางจดหมายและทางโทรศัพท์ และได้ดำเนินการตามขั้นตอนการติดตามหนี้มาโดยตลอด จนในที่สุดกองทุนมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายโดยยึดทรัพย์ของผู้ค้ำประกันก่อนที่คดีจะขาดอายุความ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย เนื่องจากเงินกู้ยืมเป็นเงินงบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีของประชาชน

          อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกหนี้รายนี้ กองทุนก็ได้ประสานงานกับผู้ซื้อทรัพย์เพื่อให้ความช่วยเหลือ ซึ่งในเบื้องต้นผู้ซื้อทรัพย์ยินดีขายทรัพย์คืนให้แก่ผู้ค้ำประกันในราคาซื้อ

          นายชัยณรงค์ ทิ้งท้ายว่า กองทุนขอฝากถึงผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันที่ถูกบังคับคดี ขอให้มาติดต่อที่กองทุน เพื่อจะได้โอกาสในการผ่อนชำระได้อีกไม่เกิน 6 ปี และขอฝากเรื่องการค้ำประกันการกู้ยืมใด ๆ ขอให้ผู้ค้ำประกันตระหนักว่าจะเป็นภาระผูกพันทางกฎหมาย โดยขอให้ผู้กู้ยืมชำระหนี้เป็นปกติเพื่อไม่ให้ถูกฟ้องร้องจนเดือดร้อนถึงผู้ค้ำประกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบิดามารดาและญาติ ๆ และกองทุนขอให้ผู้กู้ยืมรุ่นพี่ทุกท่านตระหนักถึงการชำระคืนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่รุ่นน้องต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก สถานีข่าวกระทรวงการคลัง : Ministry of Finance News Station

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กยศ. แจงปมลูกหนี้ 1.7 หมื่น ซัดหนีหนี้เป็น 10 ปี สุดท้ายจับบ้าน 2 ล้าน ขาย 3 หมื่น อัปเดตล่าสุด 26 มิถุนายน 2563 เวลา 09:24:26 49,492 อ่าน
TOP