ผู้กองบอย รับไม่ไหว ขอไม่ร่วมงานเผาศพปูนิ่ม สะเทือนใจ ขอกลับกรุงเทพฯ

 

             ผู้กองบอย รับไม่ไหว ขอไม่ร่วมงานเผาศพปูนิ่ม สะเทือนใจหนักขอกลับกรุงเทพฯ หลังกราบขอขมาครอบครัว แล้วร้องไห้ เครียดจนสติหลุด

          จากกรณีข่าวการเสียชีวิตของ นางสาวพิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ อายุ 29 ปี หลังถูกกระสุนปืนยิงเสียชีวิตในบ้านพักย่านบางกะปิ โดย ผู้กองบอย หรือ ร.ต.อ. ทรงกลด บุญส่ง รองสารวัตรสืบสวน สน.วังทองหลาง สามีซึ่งตกเป็นผู้ต้องหา ต่อมา ผู้กองบอยได้เดินทางไปที่งานศพของนางสาวพิมชฎาพร พร้อมขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต และแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นจึงขออนุญาตเข้าไปขอขมาศพ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

          อ่านข่าว : ร.ต.อ. ปืนลั่นยิงเมีย ร่ำไห้ ร่วมงานศพ น้องนิ่ม เข้ากราบขอขมาศพ-ขอโทษแม่

          วันที่ 25 มิถุนายน 2563 สำนักข่าว INN รายงานว่า ที่บ้านดงเค็ง ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสถานที่บำเพ็ญกุศลศพของปูนิ่ม หรือ นางสาวพิมชฎาพร หลังตั้งศพสวดอภิธรรมบำเพ็ญกุศลตามประเพณี 3 คืน มีกำหนดเคลื่อนศพออกจากบ้าน เวลา 13.00 น. เพื่อไปประกอบพิธีฌาปนกิจตามประเพณี ที่เมรุสถานในวัดประจำหมู่บ้าน เวลา 15.00 น.

          นางทองใส ภูคงน้ำ มารดาปูนิ่ม กล่าวว่า หลังจากลูกสาวเสียชีวิต ก็เพิ่งมีเมื่อคืนนี้ที่นอนหลับสนิท ขณะที่ทุกคืนที่ผ่านมานอนไม่หลับเลย เพราะความรู้สึกมันสับสน มึนงงไปหมด ทั้งคิดถึงลูก เสียดายชีวิตลูก และเป็นห่วงวิญญาณลูกว่าจะไม่ไปสู่สุคติ อย่างไรก็ตาม คงจะส่งผลมาจากเมื่อวานนี้ ที่ผู้กองบอยพร้อมแม่และลูกสาว มาขอขมาศพและขอโทษตน จึงทำให้ตนรู้สึกผ่อนคลายและคิดว่าดวงวิญญาณของลูกคงให้อภัยเขาแล้ว และคงนอนตายตาหลับ จึงทำให้ตนนอนหลับสนิทดังกล่าว

          นางทองใส กล่าวอีกว่า ได้รับการประสานจากทางมารดาของผู้กองบอย ว่า ในช่วงพิธีฌาปนกิจน้องนิ่ม คงจะไม่สามารถมาร่วมพิธีไว้อาลัยครั้งสุดท้ายด้วย เนื่องจากผู้กองบอยคงรับสภาพไม่ได้ ซึ่งได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ แล้วตั้งแต่เย็นวานนี้

          อย่างไรก็ตาม ในช่วงการเตรียมงานฌาปนกิจนั้น ได้มีญาติและเพื่อนทยอยเดินทางมาร่วมพิธีตลอดวัน คาดว่าจะมีผู้มาร่วมพิธีไว้อาลัยจำนวนมาก ซึ่งได้ประสานไปยัง อสม. ผู้นำชุมชน ในการเข้ามาช่วยเหลือด้านการคัดกรองผู้มาร่วมงาน ตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าว INN