ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ฝากคลิปอำลาก่อนเข้าเรือนจำ หลังศาลตัดสิน 2 ปี 8 เดือน คดีชุมนุมบ้านสี่เสาเทเวศร์ ย้ำวันนี้ไม่ใช่วันที่พ่ายแพ้ ยืนยันจะกลับมาแบบแข็งแกร่งกว่าเดิม
อ่านข่าว : ศาลฎีกาสั่งจำคุก 5 นปช. บุกบ้าน พล.อ. เปรม 2 ปี 8 เดือน ชี้ เป็นการกระทำที่ร้ายแรง
ล่าสุด วันที่ 26 มิถุนายน 2563 ภายหลังการตัดสินของศาล ซึ่ง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ถูกส่งตัวไปตามกระบวนการของกฎหมายแล้ว ในเฟซบุ๊กของเจ้าตัวมีการโพสต์คลิปที่อัดไว้วันที่ 25 มิถุนายน ก่อนวันขึ้นศาล พร้อมกล่าวว่า หากท่านได้รับชมคลิปนี้ แสดงว่าตนได้รับคำพิพากษาให้จำคุก สูญสิ้นอิสรภาพจากคำพิพากษาศาลฎีกา
โดยในคลิปดังกล่าว นายณัฐวุฒิได้กล่าวถึงคดีความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมา มีการกล่าวถึงคดีที่กลุ่มพันธมิตรปิดล้อมอาคารรัฐสภา เมื่อปี 2551 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง, คดีที่กลุ่มพันธมิตรใช้คีมเหล็กตัดโซ่กุญแจทำเนียบรัฐบาล และชุมนุมในทำเนียบนาน 6 เดือน ศาลฎีกาตัดสินจำคุก 8 เดือน
ขณะที่คดีนี้ วันเกิดเหตุได้เดินขบวนจากท้องสนามหลวงไปชุมนุมปราศรัยหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม มีการกระทบกระทั่งบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมเผยว่า ตนเคารพในคำพิพากษาและพร้อมเผชิญความจริง เพราะทุกคดีความที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ทางการเมือง ตนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมาตลอด
"ขอบคุณทุกกำลังใจทุกความห่วงใยของเพื่อนมิตรร่วมอุดมการณ์ พี่น้องประชาชนทั้งหลาย ผมได้รับครับ แล้วก็เป็นพลังให้ผมยังต่อสู้จนเวลานี้ จะสู้อย่างนี้ตลอดไป และขอส่งกำลังใจให้กับทุกคนที่ยังต่อสู้ ขอยืนเคียงข้างทุกพลังที่เดินหน้านำพาประเทศสู่ความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง พี่น้องที่ร่วมต่อสู้ทั้งหลายอย่าได้เป็นทุกข์ อย่าได้เสียกำลังใจนะครับ 10 กว่าปีที่แล้ว นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ณ วันนั้นเป็นอย่างไร มาวันนี้ก็ยังเป็นคนเดิม และขอยืนยันว่าจะกลับมายืนเคียงข้างพี่น้องประชาชน กับการต่อสู้ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลง"
ภาพจาก เฟซบุ๊ก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
- เรื่องแรก คือ โครงการด้วยรักและแบ่งปัน เกิดขึ้นจากการระดมทุน รับบริจาค จากพี่น้องประชาชนจำนวนมาก เราได้มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนผู้ขาดแคลนไป 1,029 ทุน และได้คัดเลือกมา 60 คน เพื่อสนับสนุนการศึกษาให้ทุกเทอมจนจบปริญญาตรี ดังนั้น ในช่วงเวลาที่ตนไม่อยู่ ขอความกรุณาทุกท่านที่สละทุนทรัพย์ได้โดยไม่เดือดร้อน สนับสนุนโครงการด้วยรักและแบ่งปัน ให้ลูกหลานผู้ขาดแคลนของเราได้มีโอกาสทางการศึกษาต่อไป
- ส่วนอีกเรื่อง ตนยอมรับว่าการต่อสู้ทางการเมืองของตน ย่อมมีทั้งคนเห็นด้วยและเห็นต่าง ทุกอย่างเป็นความรับผิดชอบของตน ไม่เกี่ยวกับครอบครัวหรือลูก ๆ ถ้าหากพี่น้องประชาชนที่เห็นด้วยและสนับสนุนร่วมต่อสู้ด้วยกันมา ขอฝากลูก ๆ ของตน 2 คนไว้ด้วย ให้ความเมตตาเอ็นดูในวันที่ตนไม่อยู่ สำหรับคนที่เห็นต่าง หรือมีความประสงค์จะเหยียบย่ำซ้ำเติม ขอความกรุณาให้พุ่งเป้ามาที่ตนเพียงคนเดียว ไม่ได้เกี่ยวกับครอบครัว
"ผมไม่ได้เสียใจกับการออกมายืนต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ตรงกันข้าม ผมกลับภาคภูมิใจที่ได้ยืนเคียงข้างประชาชน และยืนยันหลักการที่ถูกต้องตั้งแต่วันแรกจนถึงวันปัจจุบัน ผมยังยืนยันหลักการเดิมนี้เสมอครับ ตลอดเวลาในการต่อสู้ ยังสามารถสบตาพี่น้องประชาชนผู้ร่วมอุดมการณ์ได้ตลอดเวลา ยังมองหน้าตัวเองในกระจกได้ทุกวันโดยไม่รู้สึกกระดากอาย เพราะมั่นใจว่าไม่เคยเบียดบังผลประโยชน์ ทรัพย์สิน ชีวิต และอิสรภาพของประชาชน ขอขอบคุณทุกคน ทุกท่านอีกครั้ง เมื่อครบวาระตามคำพิพากษา ผมจะกลับมา และสัญญาว่าจะกลับมาแบบแข็งแกร่งกว่าเดิม"
ภาพจาก เฟซบุ๊ก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ