x close

ลูกบรรยิน เผย สงสารพ่อ ยัน ไม่มีเอี่ยวปฏิบัติการแหกคุก ชี้ เป็นเรื่องไร้สาระ

          ลูกบรรยิน เผย สงสารพ่อ ยัน ไม่มีเอี่ยวปฏิบัติการแหกคุก ชี้ เป็นเรื่องไร้สาระ - ไม่รู้จักลูกน้องพ่อ แค่กินข้าวด้วยกันสักมื้อยังไม่เคย แต่เคยเจอที่หน้าเรือนจำตอนไปเยี่ยมพ่อ ที่โทร. หาเพราะพ่ออยากให้ไปเยี่ยม


ภาพข่าวลูกบรรยิน
ภาพจาก สำนักข่าว INN

ภาพข่าวลูกบรรยิน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก วรภัทร์ ตั้งภากรณ์

          จากกรณีข่าว พ.ต.ท. บรรยิน ตั้งภากรณ์ จำเลยคดีฆาตกรรม นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา ได้วางแผนที่จะหลบหนีออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยมีการวางแผนให้ทนายความยื่นประกันตัวผู้ต้องขังคดีชิงทรัพย์รายหนึ่งออกจากเรือนจำ และจะดำเนินการตามแผนคือจับเมีย ผบ.เรือนจำ ต่อรอง - วางระเบิด ล้มเสาธงปีนหนี มีเฮลิคอปเตอร์มารับ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

อ่านข่าว : บรรยิน เครียดจัด วางแผนแหกคุก ไม่มีใครเอาด้วย คิดสั้นผูกคอตาย แต่ผู้คุมมาเห็นก่อน

อ่านข่าว : เปิดโปงแผนลับ !! บรรยิน จ่อแหกคุก บึ้มเรือนจำ ล้มเสาธงปีนหนี - มี ฮ. รอรับ


ภาพข่าวลูกบรรยิน
ภาพจาก สำนักข่าว INN

          ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 2 มิถุนายน 2563 สำนักข่าว INN รายงานว่า นายวรภัทร์ ตั้งภากรณ์ ลูกชาย พ.ต.ท. บรรยิน ได้เดินทางไปที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ตามหมายเรียกสอบปากคำในฐานะพยาน คดีการวางแผนชิงตัว พ.ต.ท. บรรยิน หลังมีรายงานว่า นายวรภัทร์ได้ติดต่อกับหนึ่งในผู้ต้องหาที่เป็นลูกน้อง พ.ต.ท. บรรยิน

          โดย พ.ต.อ. เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวว่า สำหรับแนวทางการสืบสวนพบว่า นายวรภัทร์ได้รับการติดต่อจากนายณัฐพล หรือ ท็อป นรการ อายุ 26 ปี หนึ่งในลูกน้องที่ พ.ต.ท. บรรยิน ระบุแผนการชิงตัวให้ทราบ ซึ่งนายท็อป เป็นเพื่อนกับนายบอส จึงต้องเชิญมาสอบปากคำ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้เข้าไปสอบปากคำเจ้าหน้าที่เรือนจำและผู้ต้องขังรวม 2-3 คน ทั้งหมดต่างให้การสอดคล้องกันว่า พ.ต.ท. บรรยิน ได้วางแผนการดังกล่าวจริง

          ขณะที่ เดลินิวส์ รายงานว่า หลังจากสอบปากคำร่วม 2 ชั่วโมงนั้น นายวรภัทร์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องแผนชิงตัวประกัน และยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่นั้นก็ไม่มีใครทราบ อยากให้สื่อมวลชนประเมินเองว่าเป็นไปได้หรือไม่ ส่วนตัวมองว่าไร้สาระ ทุกวันนี้รู้สึกสงสารในชีวิตความเป็นอยู่ของพ่อ เพราะคดีทั้งหมดยังไม่สิ้นสุด แต่สถานการณ์ต่าง ๆ ทำให้พ่อถูกบีบบังคับ

          นายวรภัทร์ระบุถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ารู้จักกับนายท็อป ซึ่งเป็นลูกน้องของ พ.ต.ท. บรรยิน ที่ร่วมแผนในครั้งนี้ ว่า ยืนยันว่าไม่ใช่เพื่อนกัน นายท็อปอาจจะพูดไปเองหรือไม่ ข้าวสักมื้อก็ยังไม่เคยกินด้วยกัน แค่เคยไปเจอกันที่หน้าเรือนจำตอนที่ตนไปเยี่ยมพ่อเท่านั้น เพราะนายท็อปถูกขังอยู่แดนเดียวกับพ่อ แต่ยอมรับว่าเคยได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์เกี่ยวกับเรื่องทั่วไปกันมาก่อน


          ตามรายงานระบุว่า จากการสอบปากคำพบว่ากรณีที่นายท็อปอ้างว่าเป็นเพื่อนกับนายวรภัทร์นั้น เป็นการกล่าวอ้างของนายท็อปเอง เพราะเพิ่งมารู้จักกันตอนมาเยี่ยม พ.ต.ท. บรรยิน โดยนายท็อปอ้างว่าอยู่แดนเดียวกับ พ.ต.ท. บรรยิน คอยดูแลปรนนิบัติอย่างดี จึงแลกเบอร์โทรศัพท์กันไว้คอยถามไถ่ความเป็นอยู่ของ พ.ต.ท. บรรยิน ส่วนการที่นายท็อปโทร. มาหลังปล่อยตัวชั่วคราวนั้น เพราะ พ.ต.ท. บรรยิน สั่งให้โทร. มาบอกให้ลูกชายเข้าไปเยี่ยมเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือรับทราบถึงแผนการชิงตัวดังกล่าว

          รายงานข่าวแจ้งอีกว่า หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางพนักงานสอบสวนได้มีการเรียกสอบปากคำพยานบุคคลต่าง ๆ พร้อมทั้งสืบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ในเร็ว ๆ นี้จะมีการประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดีอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อพิจารณาแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องรายอื่น ๆ หลังพบว่านอกเหนือจาก พ.ต.ท. บรรยิน แล้วยังมีบุคคลอื่นร่วมกระทำผิดด้วย และอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะมีการออกหมายเรียกเชิญตัวนายกรณ์ กันเที่ยง ทนายความ ที่ประกันตัวนายสุธน หรือ โจ กลับมาให้ปากคำเพิ่มเติมใหม่อีกหรือไม่ เนื่องจากคำให้การในครั้งแรกยังมีข้อติดใจสงสัยในบางประเด็น

ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าว INN, เดลินิวส์

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ลูกบรรยิน เผย สงสารพ่อ ยัน ไม่มีเอี่ยวปฏิบัติการแหกคุก ชี้ เป็นเรื่องไร้สาระ อัปเดตล่าสุด 3 กรกฎาคม 2563 เวลา 10:20:55 5,527 อ่าน
TOP