โบราณสถาน 1,000 ปี เสียหาย หลังชาวบ้านสร้างหลังคาทับ ปราสาทปรางค์กู่แก้งสนามนาง ด้านสำนักศิลปากรที่ 10 สั่งรื้อโดยด่วน พบเป็นโบราณสถานสุดแปลก หนึ่งเดียวในไทย หันหน้าทางทิศตะวันตกเหมือนปราสาทนครวัด
วันที่ 8 กรกฎาคม 2563 มีรายงานว่า
ชาวบ้านก่อสร้างหลังคาปิดทับโบราณสถานเก่าแก่ของไทย
ที่ปราสาทปรางค์กู่แก้งสนามนาง บ้านแก้งสนามนาง ต.โนนสำราญ อ.แก้งสนามนาง
จ.นครราชสีมา โดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อมา นางชุติมา จันทร์เทศ
ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา
จึงลงพื้นที่ขุดแต่งและออกแบบเพื่อบูรณะ
เพราะการกระทำของชาวบ้านทำให้สภาพความเก่าแก่ของปรางค์กู่ได้รับความเสียหาย
สำหรับ ปราสาทปรางค์กู่ เป็นโบราณสถานที่สร้างขึ้นช่วง
พุทธศตวรรษที่ 16-17 อายุราว 800-1,000 ปี
รูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นลักษณะปราสาทหลังเดียว หันหน้าไปทางทิศตะวันตก 3 จุด
มีลักษณะเป็นประตูหล่อ มีหลักฐานทางโบราณวัตถุที่ได้จากการขุด
พบเศษภาชนะดินเผา เป็นเนื้อดินในวัฒนธรรมเขมร ซึ่งหลักฐานที่ได้มา
มาจากส่วนของฐานบัว เป็นบัวคว่ำ บัวหงาย และทางด้านหน้าทิศตะวันตกมีบาราย
(แหล่งเก็บน้ำรูปแบบอาณาจักรขอม) อยู่ด้วย
ดังนั้น
ถือเป็นโบราณสถานที่แปลกมาก ที่ตัวปราสาทหันหน้าไปทางทิศตะวันตก
คล้ายกับปราสาทนครวัด ปราสาทหนึ่งเดียวของกัมพูชา
ที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ซึ่งในส่วนของตัวปราสาทที่มีลักษณะแบบนี้
ส่วนใหญ่จะก่อสร้างด้วยหินทรายสีแดง แต่ถ้าก่อสร้างด้วยศิลาแลง
จะเป็นปราสาทที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 (กษัตริย์ของกัมพูชา)
ซึ่งเรียกว่า "อโรคยาศาล" หรือ โรงพยาบาลของสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7
แต่อีกแบบหนึ่งก็คือ "ธรรมศาลา" หรือที่พักระหว่างเดินทางที่จะสร้างตามแนวถนนโบราณ
แต่ปราสาทนี้หลังไม่ใช่ทั้ง 2 รูปแบบในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7
จึงคาดว่าจะเป็นสมัยก่อนหน้าพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 (พุทธศตวรรษที่ 16-17)
ประมาณ 700-800 ปี เลยทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก
สำนักข่าว INN