ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ละเอียด คดี น้องชมพู่ แนะอย่าเพิ่งรีบปิดคดี จะไม่เป็นผลดีต่อใคร คาดตำรวจกำลังหาจิ๊กซอว์เชื่อมโยงคนร้าย เชื่อไม่มีจับแพะ

รศ. นพ.วีระศักดิ์ : การชันสูตรทั้ง 2 ครั้ง ครั้งที่ 2 ผ่าชันสูตร
ผมว่าเป็นประโยชน์ในเรื่องการสืบสวนสอบสวนอยู่แล้ว นั่นคือข้อที่ 1
แจ้งว่าไม่มีบาดแผลใดเป็นเหตุทำให้เสียชีวิตได้
เป็นประโยชน์กับพนักงานสอบสวน
ขณะเดียวกันบอกเกี่ยวกับเรื่องไม่เห็นร่องรอยตรงอวัยวะเพศ ไม่มีกระดูกคอหัก
ไม่มีบาดเจ็บรุนแรง
ตรงนี้เป็นประโยชน์กับการสืบสวนว่าไม่มีในเรื่องฆาตกรรมที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บถึงขั้นเสียชีวิตได้
ระยะเวลาเสียชีวิต ตอนส่งตรวจ โดยหลักการเราเชื่อคนพบศพครั้งแรก มีหมอจากโรงพยาบาลแรกมาตรวจ ณ ที่เกิดเหตุ โดยธรรมชาติเราจะเชื่อคนตรวจคนแรก
เพราะถ้ามีการเคลื่อนย้ายศพไปผ่าชันสูตร ต้องเอาศพไปแช่ตู้เย็น
ซึ่งแช่ตู้เย็นตั้งแต่เมื่อคืนยันเช้า
ทำให้รบกวนเรื่องระยะเวลาการเสียชีวิต
ดังนั้น การมาผ่าตอนเช้าเราจึงไม่ได้บอกเรื่องระยะเวลาเสียชีวิต บอกไม่ได้
เพราะมีการรบกวนแล้ว มีการแช่ตู้เย็นแล้ว
โดยหลักการเราจะเชื่อคนที่ตรวจครั้งแรก
- สมมติวันครึ่ง เราจะตอบโจทย์เรื่องตัวหนอนยังไง ?
รศ. นพ.วีระศักดิ์ : ประเด็นเรื่องตัวหนอน ผมก็มีสื่อมาถาม ผมต้องเรียนว่าตอนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวหนอน เราเห็นจากภาพว่ามีตัวหนอน และเห็นจากห้องที่มีการผ่าชันสูตร มันมีช่วงระยะเวลา มันไม่ใช่ ณ เวลาเกิดจากที่เกิดเหตุ พอเห็นจากตัวหนอนเราก็วิเคราะห์ตามตัวหนอน ว่าตัวหนอนแบบนี้ เป็นหนอนแมลงวัน และมาไข่กี่ ชม. โดยทั่วไป 24 ชม. หลังจากนั้นเป็นตัวหนอนก็ใช้เวลาอีก ฉะนั้นตรงนี้เป็นแค่การวิเคราะห์ตัวหนอน ต้องมารวบรวม
- นักคีตวิทยา ที่ดูเรื่องนี้ เขาลงความเห็นว่าหนอนที่เห็นคือวันที่ 15 จากการคำนวณถ้าย้อนกลับไปวันที่เจอคือแอล 3 คือเกิดในวงจรวันที่ 3 จะเป็นแมลงวันแล้ว ศพน่าจะเสียชีวิต 3 วัน ?
รศ. นพ.วีระศักดิ์ : เหมือนที่เรียน ผมเห็นภาพ ไม่ได้เห็น ณ วันเกิดเหตุ ไปเห็นภาพในวันผ่าชันสูตรพลิกศพ ต้องมีระยะเวลาเพิ่มเติม หนอนมีระยะเวลาเพิ่มขึ้น ต้องย้อนกลับไปวันที่เขาเห็นจริง ๆ แต่ประเด็นของผม ในความจริงหมอที่จะตรวจ ณ ที่เกิดเหตุ 18 ชม. ต้องยอมรับว่าในการตรวจ ณ ที่เกิดเหตุ เวลาชันสูตรเขาดูหลัก ๆ เลย คือดูตัวร่างกาย ภายนอก ดูกล้ามเนื้อแข็งตัวหลังตาย ดูลักษณะการเน่า การเน่ามีลักษณะสีเขียว เป็นลายเหมือนหินอ่อน เขาจะสรุปแบบนั้นเป็นหลัก
- ถ้าน้องไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกาย น้องเสียชีวิตเอง มันมีอยู่ 2 ข้อเลย คือเด็กเดินขึ้นไปเองและไปตายอยู่ข้างบน สอง มีคนพาเด็กไปทิ้งข้างบน น้องเดินและหลงเสียชีวิตเองอยู่ข้างบน เด็กตาย 24 ชม. ตายข้างล่างวันที่ 12 กว่า ๆ พาขึ้นไป 13 คงเป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้จะตอบโจทย์ยังไง ?
รศ. นพ.วีระศักดิ์ : ผมขอย้อนกลับไปเรื่อง 18 ชม. ที่นักคีตวิทยาบอก ผมว่าเรื่องนี้จบง่ายตรงที่ทั้ง 2 กลุ่มมาคุยกัน เพราะมีข้อมูลแชร์กันได้ และสรุปกันได้ว่าควรเป็นระยะเวลาเท่าไหร่ ผมว่าโดยธรรมชาติ สาขาวิชาชีพต้องคุยกันหมด จะบอกว่ายึดอันหนึ่งอันใดไม่ได้ทั้งหมด ศาสตร์ทุกศาสตร์มีประโยชน์หมด แล้วสรุป ถ้าถามว่าขึ้นไปเองหรือมีคนอุ้มขึ้นไป ตอนนี้หลัก ๆ หมอสรุปแล้วว่าไม่มีร่องรอยทำให้เกิดความบาดเจ็บถึงเสียชีวิตได้ มันก็ตัดตรงนี้ออกได้ แต่ที่เหลือยังมีอีกเยอะ ตัดออกไปไม่ได้ทั้งหมด อย่างเรื่องเดินขึ้นไปเอง หรือคนอุ้มขึ้นไป ก็ยังไม่มีการตัดออก ทุกอย่างมีความเป็นไปได้ทั้งหมด ยกเว้นหมอสรุปแล้วว่าไม่มีใครทำให้เสียชวิต แต่ ณ วันนี้การเสียชีวิตที่สรุปอยู่ในใบชันสูตร คือไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจน เพราะศพเน่า
รศ. พ.ต.ท. ดร.กฤษณพงค์ : โดยหลักทั่วไปก่อน ประเด็นแรก โดยธรรมชาติเด็กเขาอยู่ใกล้ชิดพ่อแม่ ผู้ปกครอง คนที่เขาไว้ใจ สังเกตดูได้ถ้ามีลูก เวลาอะไรเขาจะร้องหาพ่อแม่ พี่เลี้ยง แต่ถ้าแตกต่างจากหลักทั่วไป น้องชมพู่ที่เสียชีวิตอาจเคยไปไหม หรือคิดว่าเดินไปเองได้ไหม ถ้าไม่เคยก็สันนิษฐานว่าแล้วทำไมน้องถึงไปเอง อันนี้มีความผิดปกติจากหลักทั่วไป นั่นหมายความว่าการที่น้องไม่เคยไป แล้วทำไมไปเสียชีวิต ณ จุดนั้น สันนิษฐานได้ว่ามีคนพาน้องไป โดยจุดประสงค์ ไม่ว่าจะต้องการล่วงละเมิดทางเพศแล้วเปลี่ยนใจ หรือพาไปแล้วปล่อยกลางทางทิ้งไว้ แล้วน้องหลงป่าเสียชีวิต เป็นไปได้ทั้งนั้น หรือกรณีที่สอง น้องเดินไปเอง หลงแล้วเสียชีวิต
- เป็นไปได้ไหม อาจมีคนที่น้องไว้ใจสักคน พาน้องขึ้นไปเที่ยวบนเขา แล้วเผลอทำเด็กหาย ตกใจหาไม่เจอสุดท้ายน้องหลงอยู่คนเดียว ?
รศ. พ.ต.ท. ดร.กฤษณพงค์ : ก็เป็นไปได้
แต่ต้องดูต่อว่าถ้าบุคคลนั้นไม่มีเจตนาแอบแฝง ในการตามหาเด็กอายุ 3 ขวบ
ระยะก้าวเดินไม่ได้ไกลมากถึงผู้ใหญ่ ถ้าหลงเด็กเขาต้องร้องไห้
ต้องได้ยินอยู่แล้ว ถ้าเจตนาพาน้องไปเที่ยวในป่าแล้วพลัดหลง
ผมคิดว่าน่าจะสามารถหาน้องได้ไม่ยาก หรือให้คนแถวนั้นช่วยตามหา

- วัตถุพยานในที่เกิดเหตุ อย่างเส้นผมน้องถูกตัดออกไป ไม่ใช่ถูกตัดโดยใช้กรรไกรนะ ตำรวจบอกว่าสภาพเส้นผม น้องน่าจะนอนอยู่ แล้วผมสยายไปกับดิน เขาบอกมีคนใช้มีดหั่นผมน้องไปกับดิน เพราะมีรอยมีดกรีดที่ดิน แล้วเอาผมไป สอง มีเรื่องกางเกงน้อง ที่ไม่พบร่องรอยปัสสาวะและอุจาระ ทั้งที่เด็กอายุแค่ 3 ขวบ ถ้าปัสสาวะต้องฉี่ใส่กางเกง แต่อันนี้ไม่มี แต่กางเกงถูกถอด เสื้อผ้าถูกถอดออกไป จากที่ไปสอบถามมา คนหมดแรงเหนื่อยล้า หรือฮีตสโตรก ไม่น่าอยู่สภาพนั้น ลักษณะนั้นน้องไม่มีเสื้อผ้า แอ่นตัว ขาถูกจับแยก บิด เหมือนจงใจให้เห็นว่าเป็นการจัดฉากหรือเปล่า ?
รศ. พ.ต.ท. ดร.กฤษณพงค์ : สิ่งที่พูดมีความเป็นไปได้ทั้งนั้น ถ้าคนทำให้น้องเสียชีวิต แล้วนำศพไปวางไว้จุดนั้น สร้างสถานการณ์พูดง่าย ๆ ผมว่าสังคมก็มีข้อสงสัยหลายประการ เช่น ทำไมผมน้องโดนตัด ต้องพิสูจน์ว่าโดนตัดก่อนเสียชีวิตหรือหลังเสียชีวิต ประการต่อมา ทำไมต้องมีการถอดกางเกง แล้วเสื้อหายไปไหน ถ้าหลงหายเสียชีวิตจริง ๆ ทำไมต้องถอดกางเกง ทำไมเสื้อหาไม่เจอ อันนี้เป็นสิ่งที่ตำรวจต้องคลายข้อสงสัย การที่คุณหมอนิติเวชบอกว่าไม่พบสาเหตุการเสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นของแข็งมีคมหรือถูกทำร้ายต่าง ๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าน้องไม่ได้ถูกฆาตกรรมนะ ต้องแยกกัน
- ในมุมกางเกง ในฐานะนักอาชญาวิทยา ตัดประเด็นนี้ทิ้งไหม ?
รศ. พ.ต.ท. ดร.กฤษณพงค์ : จริง ๆ การดูพฤติกรรมคนร้ายต้องใช้พยานหลักฐานทั้งหมดมาประกอบกัน การชันสูตรพลิกศพ นิติเวช นิติวิทยาศาสตร์ ประจักษ์พยาน พยานวัตถุ หรือพยานทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี มาประกอบกัน ส่วนหนึ่งหลัก ๆ คือนิติเวช คุณหมอให้ความเห็นไปแล้ว นิติวิทยาศาสตร์ต้องมาดูต่อ เส้นผม เส้นขน ดีเอ็นเอ ใครเกี่ยวข้องบ้าง ผมเชื่อว่าตำรวจเพื่อพิสูจน์ว่าคนนั้นพูดจริงไม่จริง เชื่อว่าเขามีข้อมูลอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ากำลังหาจิ๊กซอว์เพื่อไปหาความเชื่อมโยงว่าคนนี้คือคนร้าย ตอนนี้อาจกำลังหาจิ๊กซอว์ตรงนั้นอยู่
- จากที่ประชุมกรรมาธิการ คุณอาร์ม อยู่ที่นั่น ไปถามกรณีน้องชมพู่ ที่วันนี้ รอง ผบ.ตร. ได้เข้าไปประชุมกับท่านสิระ ?
อาร์ม : ประเด็นที่พอสรุปได้จากการหารือกัน
ของการเชิญรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาวันนี้
รวมถึงการเสนอข่าวสื่อมวลชนว่ากระทบการทำหน้าที่ของตำรวจหรือไม่
ตอนนี้อัญเชิญทีมแพทย์ชันสูตรรอบแรก และอันที่สอง ที่มีความแตกต่างกัน
ไม่สามารถยืนยันว่าเป็นร่องรอยที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ


อาร์ม : รอง ผบ.ตร. ยืนยันว่าคดีนี้ไม่มีการกดดัน ไม่มีการตั้งธงว่าต้องหาผู้มารับโทษให้ได้ ยืนยันว่าแต่ละคดี บางคดีไม่สามารถหาผู้มารับโทษได้ด้วยซ้ำ และการนำเสนอข่าวของสื่อเอง ทางรอง ผบ.ตร. บอกว่าไม่ได้ส่งผลกระทบหรือกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่อาจทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปได้ยากมากขึ้นเท่านั้นเอง
- จะพักคดีหรือเปล่า ?
อาร์ม : เจ้าหน้าที่ตำรวจยังเดินหน้าต่อเกี่ยวกับการตรวจดีเอ็นเอประชาชนในพื้นที่ ตอนนี้ตรวจดีเอ็นเอไป 115 คน ยืนยันจะดำเนินการต่อไป และมีบางเรื่องที่ตำรวจไม่สามารถเปิดเผยได้
โดยมองว่ายังมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่ต้องนำมาชั่งน้ำหนัก ตำรวจยืนยันว่าหลังจากนี้ต้องมีการเชิญแพทย์ 2 ฝ่ายมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วย
- ตำรวจมีคนสงสัย แต่ขาดหลักนิติวิทยาศาสตที่จะไปเชื่อม ตรงนี้ถ้าไม่มีตำรวจ ก็ไม่สามารถออกหมายจับได้ คดีนี้จะทำให้น้องตายฟรีไหม ?
รศ. พ.ต.ท. ดร.กฤษณพงค์ : คงไม่มีใครอยากให้น้องเสียชีวิตโดยนำคนผิดมาลงโทษไม่ได้ แต่ตำรวจกำลังระดมการทำงานทุกฝ่ายเข้ามา งบประมาณก็ใช้หลายอย่าง ผมว่าปลายทางต้องลงโทษถูกตัวถูกคน ที่บอกว่าจะมีแพะไหม จับแพะไหม ผมว่าสมัยนี้ตำรวจทำงานโปร่งใสมาก ถ้าจับแพะก็มีการนำเสนอผ่านสื่อมวลชน สุดท้ายจะสะท้อนกลับไปที่ตำรวจชุดทำงาน ไม่เป็นผลดีกับใคร
- ถ้ากรณีมีคนร้ายอย่างที่ตำรวจสงสัย ?
รศ. นพ.วีระศักดิ์ : ผมก็ยังมองว่า ณ วันนี้ข้อมูลที่เราเห็นตามสื่อ
ที่ปล่อยออกมาคือข้อมูลทางนิติเวช แต่อีกส่วนที่ยังไม่ได้เห็นหรือทราบจริง ๆ
คือข้อมูลนิติวิทยาศาสตร์ การทำงานของตำรวจเองคงไม่มาแถลงว่าผลดีเอ็นเอไปเชื่อมโยงกับใครอะไรยังไงในเบื้องต้น
คงเก็บไว้เป็นเอกสารหลัก แล้วเอาไว้สรุป
เบื้องต้นคิดว่าตอนนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมคือข้อมูลการสืบสวนสอบสวน
คงอยู่ในขั้นตอนพยานหลักฐานทั้งหมด จริง ๆ รออีกสักนิดหนึ่ง ไหน ๆ ก็รอมานาน
คิดว่ากดดันแน่นอนสำหรับตำรวจ แต่ถ้าแนวทางจากที่เราฟัง
ก็มีความคืบหน้าต่อเนื่อง ก็น่าจะได้ข้อสรุป
รศ. นพ.วีระศักดิ์ : มุมผมก็เป็นเรื่องที่ต้องชี้แจง ผมว่าเป็นเรื่องตรงไปตรงมา กรรมาธิการมีสิทธิ์สอบถาม ตำรวจมีสิทธิ์ชี้แจง กรณีแบบนี้ถึงแม้ผลผ่าชันสูตรออกมาในลักษณะที่เทไปในเรื่องขาดน้ำ ขาดอาหาร แต่จริง ๆ สาเหตุการเสียชีวิตยังไม่ชัดเจน ตรงนี้ตำรวจจะไปทิ้งประเด็นอื่น ๆ แล้วมาเทตรงนี้ ก็จะมีอีกข้างหนึ่งสงสัยว่าทำไมตำรวจไม่ดำเนินการ ตรงนี้ผมคิดว่าตำรวจคงทำให้รอบด้านแล้วครับ
- ใบชันสูตรบอกว่าไม่สามารถสรุปสาเหตุการตายได้เพราะศพเน่า ทีนี้ตำรวจก็ต้องสืบต่อ แต่คนไปร้องบอกว่าขาดน้ำ ขาดอาหาร แต่ไม่มีรวมอยู่ในนี้ ตำรวจเขาจะสับสนหรือเปล่า ถ้านิติเวชสรุปไปเลยว่าเสียชีวิตเพราะขาดอาหาร ขาดน้ำ ไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย ตำรวจปิดคดีเลย แต่อันนี้ไม่เขียนลงไป เขาก็ต้องทำงานต่อ ?
รศ. นพ.วีระศักดิ์ : ต่อให้สรุป
ก็จะเกิดคำถามย้อนกลับไปที่สังคม ถามว่าเด็กขึ้นไปได้ยังไง
มีคนอุ้มไปแล้วไปวางไว้ไหม แล้วเด็กขาดน้ำ ขาดอาหาร ก็ต้องสืบต่ออยู่ดี
การที่จะสรุปว่า ณ ตอนนี้ข้อมูลบอกว่าไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตได้
หรือแม้กระทั่งสรุปว่าขาดน้ำ
ขาดอาหาร จึงไม่ได้แตกต่างกันในแนวทางสืบสวนสอบสวน
ที่อย่างไรต้องเดินต่อให้สิ้นข้อสงสัย เพราะสังคมยังสงสัยอยู่เยอะนะครับคดีนี้
- อยากฝากอะไร ?
รศ. พ.ต.ท. ดร.กฤษณพงค์ : ในต่างประเทศเขาก็มีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้น บางคดี 10, 20, 30 ปีกว่าจะปิดคดีได้ หมายความว่าเราอาจต้องมาดูระบบของเรา ที่ต้องมีหน่วยแบบที่ต่างประเทศมี คดีที่ไม่สามารถหาตัวผู้กระทำความผิดได้ เกิดวันหนึ่งมีหลักฐานใหม่เชื่อมโยงคดีก่อน ก็ทำให้การสอบสวนเกิดขึ้น
- ตำรวจไม่ทิ้งแน่ ?
รศ. นพ.วีระศักดิ์ : ต้องเรียนว่าถ้าเรายังไม่สามารถพิสูจน์สมมุติฐานที่ตั้งไว้ได้
อย่าเพิ่งปิดคดี เพราะไม่เกิดผลดีกับฝ่ายไหน โอกาสพักคดีก็มีได้
เพราะยังไม่รู้ตัวคนกระทำความผิด ก็เป็นไปได้ แต่ในทางลับก็ยังสืบอยู่
ถ้าพบหลักฐานใหม่ที่เป็นหลักฐานเชื่อมโยง ก็สามารถสืบต่อไปได้








