เด็กชาย 6 ขวบ เอาตัวเข้าแลก ช่วยน้องสาวไม่ให้ถูกสุนัขทำร้าย ยอมเป็นฝ่ายโดนกัดจนหน้ายับ ลั่นถ้าจะมีใครตายก็ควรเป็นผม วีรกรรมนี้ แม้แต่เดอะฮัลก์ยังชื่นชม
บางครั้งฮีโร่ ไม่จำเป็นต้องเป็นยอดมนุษย์สวมหน้ากากหรือผ้าคลุมใด ๆ แต่แค่มีใจกล้าหาญ พร้อมสละตัวเองเพื่อปกป้องใครสักคนจากใจ เขาคนนั้นก็สมควรได้รับการย่องยกเป็นฮีโร่ไม่ต่างกัน ดังเช่นกันกระทำของหนุ่มน้อยวัย 6 ขวบ ที่ยอมนำตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตาย ถูกสุนัขกัดจนหน้ากลายเป็นแผลเหวอ ต้องเย็บถึง 90 เข็ม ทั้งนี้เพื่อจะปกป้องน้องสาวตัวน้อยของเขา
โดยเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 เว็บไซต์ Ladbible รายงานว่า ภาพของเด็กชายที่มีแผลเย็บอยู่เต็มหน้า ตาบวมเป่ง กลายมาเป็นภาพที่ถูกพูดถึงและได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากบนโลกออนไลน์ หลังจากที่ นิกกิ วอล์กเกอร์ น้าของเด็ก ๆ นำรูปมาเปิดเผย พร้อมบอกเล่าเรื่องราววีรกรรมที่น่ายกย่องของ บริดเจอร์ หลานชายวัย 6 ขวบ
โดย นิกกิ เผยว่า ในวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา บริดเจอร์ หลานชายซึ่งอยู่ในรัฐไวโอมิง สหรัฐฯ ได้ช่วยชีวิตน้องสาวของเขาได้ด้วยการเขาไปยืนขวางระหว่างน้องกับสุนัขที่ดุร้าย ตอนที่สุนัขตัวดังกล่าวพุ่งเข้าใส่ หลังจากที่เขาถูกกัดไปหลายครั้งที่หน้าและศีรษะ บริดเจอร์ก็คว้ามือน้องสาวและพาเธอวิ่งหนี เพื่อช่วยให้น้องปลอดภัย
จากนั้นเมื่อถามเขาว่าทำแบบนี้ไปทำไม บริดเจอร์ บอกเพียงว่า "ถ้าจะมีใครสักคนที่ต้องตาย ผมคิดว่านั่นควรจะเป็นผม"
![พี่ชายปกป้องน้องสาวไม่ให้ถูกสุนัขกัด พี่ชายปกป้องน้องสาวไม่ให้ถูกสุนัขกัด]()
ทั้งนี้ หลังจากให้ศัลยแพทย์ช่วยเย็บแผล 90 เข็มแล้ว ในที่สุดเขาก็กลับบ้านได้ เธอรักเจ้าหนูที่กล้าหาญของเธออย่างยิ่ง และหวังว่าผู้คนจะช่วยกันแชร์ต่อเรื่องของเขาออกไป ให้ถึงเหล่านักแสดงหนังซูเปอร์ฮีโร่ทั้งหลาย
ต่อมา นิกกิ ยังเผยเพิ่มว่า ตอนนี้แผลของบริดเจอร์ดูดีขึ้นมากแล้ว แม้ว่าตอนนี้เขาจะยังยิ้มกว้างไม่ได้ แต่หนุ่มน้อยก็ยิ้มออกเมื่อเธออ่านคอมเมนต์จากผู้คนให้เขาได้ฟัง
ขณะเดียวกันเธอยังอยากยืนยันว่าเจ้าของสุนัขตัวดังกล่าวเป็นคนดี
และเอื้อเฟื้อกับครอบครัวและหลานชายของเธอมาก
พวกเธอไม่มีอะไรขุ่นข้องหมองใจกับเขาเลย สิ่งเดียวที่มี
ก็คือความรักที่แน่นแฟ้นขึ้นภายในครอบครัวของเธอ
ในขณะที่มีผู้คนมากมายแนะนำให้นิกกิ ตั้งเพจระดมทุนเพื่อนำเงินมาเป็นค่ารักษาพยาบาลให้เด็กชาย แต่เธอกลับชี้ว่าเธออยากให้ผู้คนนำเงินเหล่านั้น บริจาคให้แก่มูลนิธิ เช่น Mission 22 หรือ Wounded Warrior Project มากกว่า อย่างไรก็ตาม เจ้าหนูที่กล้าหาญของเธอชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับธรณีวิทยามาก ถ้าใครอยากส่งรูปก้อนหินเจ๋ง ๆ มาให้เขา เธอก็ยินดี
"ฉันเคารพและชื่นชมในความกล้าหาญของหนู รวมถึงหัวใจอย่างหนูอย่างแท้จริง ความกล้าหาญที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องมีอิทธิพลต่อใครหรือออกไปสู้กับคนอื่น ๆ หรือออกไปเดินรอบ ๆ เหมือนคนที่แข็งเกร่ง แต่ความกล้าหาญที่แท้จริงคือการรู้ว่าอะไรคือการทำสิ่งที่ถูกต้อง และลงมือทำ แม้มันอาจจะลงเอยด้วยการทำให้เราเจ็บตัวบ้าง นายเป็นคนแมน ๆ มากว่าหลาย ๆ คนที่ฉันเคยเห็นหรือรู้จักซะอีก" มาร์ค รัฟฟาโล่ ระบุ
ขอบคุณข้อมูลจาก Ladbible
โดยเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 เว็บไซต์ Ladbible รายงานว่า ภาพของเด็กชายที่มีแผลเย็บอยู่เต็มหน้า ตาบวมเป่ง กลายมาเป็นภาพที่ถูกพูดถึงและได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากบนโลกออนไลน์ หลังจากที่ นิกกิ วอล์กเกอร์ น้าของเด็ก ๆ นำรูปมาเปิดเผย พร้อมบอกเล่าเรื่องราววีรกรรมที่น่ายกย่องของ บริดเจอร์ หลานชายวัย 6 ขวบ
จากนั้นเมื่อถามเขาว่าทำแบบนี้ไปทำไม บริดเจอร์ บอกเพียงว่า "ถ้าจะมีใครสักคนที่ต้องตาย ผมคิดว่านั่นควรจะเป็นผม"

ต่อมา นิกกิ ยังเผยเพิ่มว่า ตอนนี้แผลของบริดเจอร์ดูดีขึ้นมากแล้ว แม้ว่าตอนนี้เขาจะยังยิ้มกว้างไม่ได้ แต่หนุ่มน้อยก็ยิ้มออกเมื่อเธออ่านคอมเมนต์จากผู้คนให้เขาได้ฟัง
ภาพจาก Instagram nicolenoelwalker
ในขณะที่มีผู้คนมากมายแนะนำให้นิกกิ ตั้งเพจระดมทุนเพื่อนำเงินมาเป็นค่ารักษาพยาบาลให้เด็กชาย แต่เธอกลับชี้ว่าเธออยากให้ผู้คนนำเงินเหล่านั้น บริจาคให้แก่มูลนิธิ เช่น Mission 22 หรือ Wounded Warrior Project มากกว่า อย่างไรก็ตาม เจ้าหนูที่กล้าหาญของเธอชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับธรณีวิทยามาก ถ้าใครอยากส่งรูปก้อนหินเจ๋ง ๆ มาให้เขา เธอก็ยินดี
ภาพจาก Instagram nicolenoelwalker
อนึ่ง
โพสต์ของนิกกิและเรื่องราวของเด็กชายได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก
และในที่สุดความปรารถนาของทางบ้านก็เป็นจริง เมื่อวีรกรรมของเขาได้รู้ไปถึง
มาร์ค รัฟฟาโล่ นักแสดงผู้รับบท ฮัลก์
ซึ่งก็ได้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นถึงเด็กชายด้วยว่า.."ฉันเคารพและชื่นชมในความกล้าหาญของหนู รวมถึงหัวใจอย่างหนูอย่างแท้จริง ความกล้าหาญที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องมีอิทธิพลต่อใครหรือออกไปสู้กับคนอื่น ๆ หรือออกไปเดินรอบ ๆ เหมือนคนที่แข็งเกร่ง แต่ความกล้าหาญที่แท้จริงคือการรู้ว่าอะไรคือการทำสิ่งที่ถูกต้อง และลงมือทำ แม้มันอาจจะลงเอยด้วยการทำให้เราเจ็บตัวบ้าง นายเป็นคนแมน ๆ มากว่าหลาย ๆ คนที่ฉันเคยเห็นหรือรู้จักซะอีก" มาร์ค รัฟฟาโล่ ระบุ
ขอบคุณข้อมูลจาก Ladbible






