บอย บ้านครัว มอบตัวเหตุ ยิงกันในบ่อนพระราม 3 รับฆ่า ถาวร สีสด ปมยิงสะเปะสะปะ ซ้ำเล็งปืนใส่ ไม่สนที่เตือนให้วางปืน ต้องยิงเพราะหวั่นมีคนตายเพิ่ม
ความคืบหน้าเหตุ ยิงกันบ่อนพระราม 3 จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 ศพ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563 โดยต่อมา บอย บ้านครัว ได้เข้ามอบตัว สารภาพเป็นคนยิง นายถาวร สีสด หรือ "เสี่ยถาวร" นั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 8 สิงหาคม 2563 รายการข่าวเช้าวันหยุด รายงานว่า จากการตรวจสอบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่ นายบอย นำมามอบกับตำรวจ พบว่าเป็นอาวุธปืนชนิดเดียวกันกับที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นอาวุธปืนกระบอกเดียวกันหรือไม่ รวมถึงต้องตรวจสอบว่าอาวุธปืนมีเลขทะเบียนถูกต้องหรือไม่ นอกจากนี้จะต้องสืบสวนเพิ่มเพราะพบว่ามีกระสุนมากกว่า 1 ชิ้นตกอยู่ในจุดเกิดเหตุ คาดว่าจะมีผู้ร่วมก่อเหตุรายอื่นร่วมก่อเหตุด้วย
ระหว่างที่ นายบอย ถูกควบคุมตัวออกจากห้องสืบสวน ผู้สื่อข่าวได้ถามว่ามูลเหตุที่ก่อเหตุในครั้งนี้ว่าเกิดขึ้นจากอะไร นายบอย ได้พยักหน้ายอมรับว่า เป็นคนยิงนายถาวรเพียงคนเดียว ส่วนสาเหตุที่ยิงนั้น เนื่องจากนายถาวรยิงปืนสะเปะสะปะ จึงจำเป็นต้องยิงเพื่อไม่ให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าในที่เกิดเหตุได้เกิดการยิงขึ้น 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นการยิงกันระหว่างนายถาวร กับ พ.ต.ต. วัทธเศรษฐ์ สำเนียงประเสริฐ สารวัตร สอบสวน สน.แสมดำ ระหว่างนั้นนายบอยได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุพอดี และได้ใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงเพื่อหยุดเหตุการณ์
ทั้งนี้ ไทยพีบีเอส รายงานว่า ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ควบคุมตัว บอย บ้านครัว ไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณบ่อนพระราม 3 ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ไม่อนุญาตให้สื่อเข้าไปภายในบ่อน ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าตำรวจจะแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาเพิ่มหรือไม่
ขณะที่ เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า บอย บ้านครัว เผยเพิ่มเติมว่า ตนเข้าไปทำมาหากินในบ่อน แต่ไม่ได้มีหน้าที่อะไรในบ่อน โดยวันเกิดเหตุนายถาวร ยิงปืนอย่างเสียสติ ก่อนทำท่าจะยิงใส่ตน เลยบอกให้วางปืนแต่เจ้าตัวไม่ยอมทำตาม จากนั้นก็มองหน้าตน แล้วหนีไปยังห้องน้ำ จากนั้นนายถาวรก็ออกมาและจ่อปืนมาทางตน จึงได้ตัดสินใจลั่นไกยิงนายถาวร เพราะเกรงว่าผู้อื่นจะได้รับอันตราย จึงใช้ปืนของน้องชายที่พกติดตัวมา ยิงใส่นายถาวร ทั้งนี้ฝากขอโทษครอบครัวผู้ตายสำหรับเหตุการณ์นี้ขึ้นอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวเช้าวันหยุด, เดลินิวส์ออนไลน์, ไทยพีบีเอส
