x close

พี่สาวติดใจ น้องมิ้นท์ วิ่งจนช็อกดับ มีข้อมูลไม่ตรงกัน หมอพบเลือดออกในปอด

         พี่สาวติดใจ น้องมิ้นท์ วิ่งจนช็อกดับ อาจารย์-เพื่อน ให้ข้อมูลไม่ตรงกัน หมอพบเลือดออกในปอด ถาม ทำไมทางมหาวิทยาลัยไม่บอกความจริงเพื่อเป็นประโยชน์แก่การรักษา

รับน้องโหด
        จากกรณีข่าวที่ น.ส.พรพิพัฒน์ เอียดดำ หรือ น้องมิ้นท์ นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังใน จ.ภูเก็ต เสียชีวิตจากการโดนรุ่นพี่ลงโทษด้วยการสั่งให้วิ่งจนช็อก ในขณะที่ซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ และเสียชีวิตในวันที่ 20 สิงหาคม 2563 ต่อมา ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ออกมาแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า น.ส.พรพิพัฒน์ ไม่ได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์รับน้อง แต่เป็นการซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ อยู่ระหว่างสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเป็นเพราะรุ่นพี่สั่งวิ่งหรือไม่ และรอผลชันสูตรว่าสรุปเสียชีวิตเพราะอะไร พร้อมจ่ายเงินเยียวยา 1 แสนบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

อ่านข่าว : เผย นศ. ราชภัฏภูเก็ต โดนสั่งวิ่ง 8 รอบ ช็อกรอบที่ 7 - มหาวิทยาลัยจ่ายเยียวยา 1 แสน

        ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 21 สิงหาคม 2563 สปริงนิวส์ รายงานว่า บรรดาญาติ ๆ ของ น.ส.พรพิพัฒน์ ได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของ น.ส.พรพิพัฒน์ หลังพบว่าข้อมูลจากที่อาจารย์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตแจ้ง กับข้อมูลที่ได้จากเพื่อน ๆ ผู้เสียชีวิต ไม่สอดคล้องกัน

        น.ส.วิลาวรรณ เอียดดำ พี่สาวผู้เสียชีวิต เล่าว่า เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2563 ทางมหาวิทยาลัยได้แจ้งกับครอบครัวว่าน้องเป็นลม และเมื่อครอบครัวเดินทางไปที่โรงพยาบาลก็พบว่าน้องอยู่ในห้องฉุกเฉิน โดยมีแพทย์และพยาบาลให้การช่วยเหลืออยู่ ซึ่งแพทย์แจ้งว่าน้องมีอาการหนัก ซึ่งขัดแย้งกับอาการเป็นลม ทั้งยังพบว่ามีเลือดออกในช่องปอด ซึ่งอาการนี้ยังหาสาเหตุไม่ได้ 

        กระทั่งวันที่ 20 สิงหาคม 2563 แพทย์ก็ยังสอบถามว่าสาเหตุของน้องเกิดจากอะไรกันแน่ และในวันนั้น เพื่อน ๆ รุ่นพี่และอาจารย์ของมหาวิทยาลัยได้เดินทางมาถึง ทางครอบครัวจึงได้สอบถามว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร ซึ่งดูจากอาการแล้วไม่น่าจะใช่เป็นลม

รับน้องโหด
        น.ส.วิลาวรรณ เผยอีกว่า ทางอาจารย์แจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุ น้องไปซ้อมลีด ก่อนการซ้อมจะมีการวิ่งเพื่อวอร์มร่างกาย ซึ่งน้องวิ่งได้เพียง 1 รอบ ก็เป็นลม ก่อนที่เพื่อน ๆ จะพาน้องส่งโรงพยาบาล ซึ่งอาจารย์และรุ่นพี่ น้อง ๆ เพื่อน ๆ เล่าข้อมูลมาเพียงเท่านี้ กระทั่งน้องได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

        น.ส.วิลาวรรณ กล่าวอีกว่า จากข้อมูลในเพจต่าง ๆ และจากการสอบถามความจริงกับเพื่อน ๆ ของน้อง พบว่ามีข้อมูลที่ขัดแย้งกับอาการเป็นลมที่ระบุ ซึ่งเพื่อนของน้องให้ข้อมูลว่าน้องได้ถูกทำโทษเพราะมาซ้อมลีดสาย เนื่องจากต้องทำงานอยู่อีกตึกหนึ่ง โดยรุ่นพี่ได้สั่งให้วิ่งจำนวน 8 รอบ ซึ่งน้องวิ่งได้ในรอบที่ 7 ก่อนจะมีอาการช็อก ตาเหลือก ตาค้าง

        อย่างไรก็ตาม ตอนนี้น้องเสียชีวิตไปแล้วก็ต้องทำใจ ทางครอบครัวไม่ได้ต้องการให้มหาวิทยาลัยเสียชื่อเสียง แต่ติดใจว่าทำไมทางมหาวิทยาลัยไม่ให้ข้อมูลที่แท้จริงกับทางครอบครัวและแพทย์ เพื่อเป็นประโยชน์กับการรักษา วันนี้จึงเดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อต้องการข้อเท็จจริงจากปากของอาจารย์และรุ่นพี่ โดยอยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์สุดท้าย และไม่อยากให้มีการกระทำเช่นนี้อีก เพราะบุตรหลานใคร ใครก็รัก

        ทั้งนี้ น.ส.วิลาวรรณ ยืนยันว่า น้องสาวเป็นคนที่ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง เป็นเด็กกิจกรรมของโรงเรียนตั้งแต่ชั้นประถม จนเข้ามหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 1 หลังจากที่น้องเสียชีวิต ทางมหาวิทยาลัยได้ติดต่อมาขอจัดการในเรื่องค่าใช้จ่ายในการทำศพ ซึ่งตอนนี้ศพของน้องยังอยู่ที่โรงพยาบาล คาดว่าจะนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดท่าเรือ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

รับน้องโหด

ขอบคุณข้อมูลจาก สปริงนิวส์

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พี่สาวติดใจ น้องมิ้นท์ วิ่งจนช็อกดับ มีข้อมูลไม่ตรงกัน หมอพบเลือดออกในปอด อัปเดตล่าสุด 21 สิงหาคม 2563 เวลา 18:07:58 13,917 อ่าน
TOP