นักกฎหมายชี้ คดีน้องมิ้นท์ รุ่นพี่ไม่มีความรับผิดทางอาญาฐานกระทำการโดยประมาท รุ่นน้องมีสิทธิ์ขอหยุดวิ่งได้ ชี้อาการช็อกดับ เป็นเหตุสุดวิสัย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก พรพิพัฒน์ เอียดดำ
จากกรณี น้องมิ้นท์ นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังใน จ.ภูเก็ต เสียชีวิตกะทันหัน หลังช็อกหมดสติ คาดว่าเกิดจากรุ่นพี่สั่งทำโทษด้วยการให้วิ่งรอบสนามจนช็อก โดยเบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหารุ่นพี่ปี 2 กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
อ่านข่าว : แจ้งข้อหาประมาท รุ่นพี่ปี 2 คุมซ้อมเชียร์ - ทำโทษ น้องมิ้นท์ วิ่งจนช็อก-เสียชีวิต
การให้รุ่นน้องปฏิบัติตามบทลงโทษที่ตั้งขึ้นมาในแต่ละรูปแบบไม่ได้มีความรุนแรงจนอาจถึงอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจจนเกินไป โดยรุ่นน้องที่ไม่สามารถปฏิบัติตามได้มีสิทธิ์ที่จะเลิกการปฏิบัติตามบทลงโทษได้กลางคัน หรือแจ้งให้รุ่นพี่ทราบได้ หากทำต่อไม่ไหว
การที่รุ่นพี่ได้ลงโทษรุ่นน้องในกรณีนี้จึงขาดเจตนาประทุษร้ายต่อร่างกายหรือจิตใจน้องตามความหมายของ ป.อาญา รุ่นพี่จึงไม่ต้องรับผิดในความตายที่เกิดขึ้นในฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
การที่รุ่นพี่สั่งให้รุ่นน้องวิ่งรอบสระน้ำ มีลักษณะเป็นแค่การสร้างความสามัคคีระหว่างรุ่นน้องและทำให้ร่างกายเกิดความพร้อมสำหรับซ้อมเชียร์ ถือเป็นกิจกรรมที่นักศึกษาในมหาวิทยาลัยพึงกระทำได้ ไม่ถือว่าการกระทำของรุ่นพี่ปราศจากความระมัดระวังที่จะต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ อันจะเป็นการกระทำโดยประมาท
น้องมิ้นท์มีวุฒิภาวะพอที่จะสามารถเลิกการปฏิบัติตามกิจกรรม หากพบว่าตัวเองไม่สามารถทำได้เช่นเดียวกับเพื่อนคนอื่น การที่น้องมิ้นท์ได้ฝืนวิ่งต่อไปจนทำให้กลไกในร่างกายมีความผิดปกติเกิดจากการตัดสินใจของน้องมิ้นท์เอง แม้จะมีการส่งเสียงปลุกเร้าให้น้องมิ้นท์วิ่งให้ครบรอบของรุ่นพี่ การกระทำของรุ่นพี่ดังกล่าวก็ยังไม่ใช่การกระทำโดยประมาทดังที่กล่าวไว้ข้างต้น
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไกรสร บุญสระพัง
ทั้งนี้ ความตายของน้องมิ้นท์ที่ได้เกิดขึ้น เป็นเหตุสุดวิสัย รุ่นพี่จึงไม่มีความรับผิดในทางอาญาฐานกระทำโดยประมาทเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หากข้อเท็จจริงที่ได้จากการสอบพยาน มีข้อเท็จจริงถึงขนาดว่าน้องมิ้นท์ได้ขอเลิกการวิ่งกลางคันและแจ้งให้รุ่นพี่ทราบแล้วว่าวิ่งไม่ไหว แต่รุ่นพี่ยังบังคับให้วิ่งต่อจนครบรอบ เช่นนี้จะถือว่ารุ่นพี่ปราศจากความระมัดระวัง เมื่อมีความตายเกิดขึ้น ต้องรับผิดทางอาญาฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย