ลุงแท็กซี่ฟอกไต ปิดบัญชีรับบริจาค หลังยอดทะลุล้าน - เคลียร์ดราม่า ว่าลูกไม่ดูแล

          ลุงกล้า แท็กซี่ป่วยหนัก ต้องขับรถพร้อมฟอกไต ปิดบัญชีรับบริจาค หลังยอดอยู่ที่ 1.1 ล้าน พอดูแลตัวเองแล้ว ดีใจได้คุยกับลูก หลังจากไม่ได้คุยกันนาน
          จากกรณีโซเชียลแชร์ภาพสุดน่าสงสารของลุงโชเฟอร์แท็กซี่รายหนึ่งที่มีอาการป่วยจากหลายโรค โดยเฉพาะโรคไตที่ต้องฟอกไต พร้อมกับต้องฝืนขับรถเพื่อหาเงินดูแลตัวเอง จนมีผู้เห็นใจ เข้าให้ความช่วยเหลือจำนวนมากนั้น

             อ่านข่าว : ลุงแท็กซี่ป่วยหนัก ฟอกไตขณะขับรถ ขอบคุณทุกน้ำใจ เผยยอดบริจาคกว่า 8 แสน

          ล่าสุดวันที่ 29 สิงหาคม 2563 นายสุเมธ สิงห์พันธ์ หรือลุงกล้า โชเฟอร์แท็กซี่ป่วยหนักได้ระบุว่า ขณะนี้มีหน่วยงานราชการ และประชาชนที่มีน้ำใจ มาเยี่ยมและมอบเงินมอบของช่วยเหลือจำนวนมาก ตนก็ขอบคุณอย่างมาก

          ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากลูกชายของลุงที่ไม่สามารถติดต่อกันได้ เนื่องจากลุงกล้าได้เปลี่ยนเบอร์มือถือ ผู้สื่อข่าวจึงได้ให้ทั้งสองคนได้พูดคุยกัน ซึ่งหลังจากคุยจบลุงกล้าถึงกับน้ำตาซึม พร้อมบอกว่าอยากให้ลูกมาหา เพราะคิดถึงมาก และอยากให้ลูกมาทำงานใกล้ ๆ เพื่อมาดูแลตนเองที่กำลังป่วย
          จากนั้นเจ้าตัวได้เดินทางไปปิดบัญชี เพื่อปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือ โดยพบว่ายอดบริจาคล่าสุดมีจำนวน 1,189,486.91บาท โดยเป็นงานจากผู้ใจบุญที่บริจาคเข้ามาเป็นจำนวนมาก แทบจะทุกวินาที ครั้งละ 100 บาท หรือบางยอดก็ 99 บาท
 
          โดยลุงกล้า ระบุว่า ตนเองต้องขอขอบพระคุณทุกความช่วยเหลือที่มีให้ โดยเงินจำนวนนี้จะเก็บไว้รักษาตัวและแบ่งไปซื้อบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้า เนื่องจากทุกวันนี้ตนไม่มีที่อยู่อาศัย ต้องเช่าห้องอยู่
 
          ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ตนพูดว่าลูกชายไม่ดูแลนั้น ตนพูดไปเพราะน้อยใจอยากให้ลูกมาดูแล ที่จริงแล้วลูกก็มาดูแลและส่งเงินให้ แต่ลูกตนเองก็ทำงานได้เงินเดือนน้อย จึงส่งเงินมาให้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย และล่าสุดตนได้ติดต่อกับภรรยาเก่าได้แล้ว ซึ่งภรรยาก็จะกลับมาช่วยดูแล โดยหลังจากนี้ตนเองอาจจะทำอาชีพอื่นแทนการขับแท็กซี่ เพราะหากอาการกำเริบก็จะเสี่ยงจะเกิดอันตราย
 
          ส่วนกรณีดราม่า เรื่องมีคนแอบอ้างเป็นหลานและเปิดรับบริจาคนั้น ลุงขอยืนยันว่าตนเองไม่มีการให้ใครไปขอรับบริจาค และปิดบัญชีรับบริจาคแล้ว แต่หากใครต้องการช่วยเหลือก็สามารถติดต่อมาโดยตรง และขอร้องกลุ่มมิจฉาชีพ อย่านำเรื่องของลุงไปแอบอ้างเพื่อขอรับบริจาค
 

          นอกจากนี้ ลุงกล้า ยังได้เล่าถึงอาการป่วยของตนเองว่า เป็นโรคไตระยะสุดท้าย ความดัน เบาหวาน น้ำท่วมปอด ขาผิดรูป พิการต้องตัดนิ้วเท้าบางส่วนทิ้ง  ลุงบอกว่า ซึ่งตอนนี้ก็รู้สึกว่าตนเองมีแรงมากขึ้น เพราะได้พัก นอนหลับเต็มอิ่ม ไม่ได้ออกไปขับแท็กซี่
 
          ส่วนกรณีหลายคนสงสัยว่า ลุงฟอกไตในช่วงขับรถแท็กซี่ได้อย่างไร ลุงบอกว่า ฟอกไต ผ่านหน้าท้อง ด้วยตนเอง (CAPD) เป็น 1 ใน 3 วิธีในการรักษาบำบัดทดแทนไต สำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย ซึ่งลุงทำเองมาตลอด โดยค่ารักษาพยาบาลทั้งโรคไต และโรคอื่น ๆ ลุงใช้สิทธิ์บัตรทอง ไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย จะมีเพียงค่าเดินทางที่ต้องพบแพทย์เท่านั้น ส่วนยาและค่ารักษานั้นไม่เสียเงิน

ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3