ลูกค้าหนุ่มคู่กรณีร้านชาบูนางใน พระรามเก้า ซอย 43 ยันไม่กลับไปกินร้านนี้อีก ทั้งที่เป็นลูกค้าประจำกว่า 3 ปี เผยแจ้งร้องเรียน สคบ. แล้ว ชี้ถ้าถูกร้านฟ้องก็พร้อมต่อสู้
ความคืบหน้าประเด็นดราม่า ร้านชาบูนางใน สาขาพระรามเก้า ซอย 43 ที่เจ้าของร้านเขียนข้อความตอบโต้ลูกค้าหลังเขียนรีวิวว่าถูกร้านขู่คิดเงินเพิ่ม 200 บาท เนื่องจากไม่พอใจที่มากินแต่เนื้อ ไม่กินผัก จนเกิดเป็นกระแสสังคมโจมตีอย่างหนักไปที่ร้านดังกล่าวนั้น
อ่านข่าว : ลูกค้าสุดงง กินบุฟเฟ่ต์ แต่ถูกร้านคิดเงินเพิ่ม เหตุเพราะกินแต่กุ้ง-เนื้อ แบบนี้ก็มีด้วย !?
ล่าสุด (10 กันยายน 2563) ข่าวช่องวัน รายงานบทสัมภาษณ์ นายณัฏฐ์เมธี ธนกิตต์วุฒิกุล ลูกค้าคู่กรณี เปิดเผยว่า
ร้านชาบูนางใน สาขาพระรามเก้า ซอย 43 ตนกินประจำมา 3 ปี
จนพนักงานร้านจำได้ว่ามาทุกครั้งจะสั่งอะไร ซึ่งวันเกิดเหตุได้สั่งกุ้ง 2
จาน เนื้อ 6 จาน วุ้นเส้น และไข่ไก่ ก่อนจะถูกเจ้าของร้านเข้ามาต่อว่า
ว่าจะสั่งแบบนี้ไม่ได้ ต้องสั่งผักหรืออย่างอื่นบ้าง
ทำแบบนี้ไม่คุ้มกับร้าน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปจะคิดเงินเพิ่ม
ทั้งนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นหากมองในมุมลูกค้าก็เป็นสิทธิ์ที่จะสั่งอะไรก็ได้ เพราะไม่ได้ทำผิดเงื่อนไขของร้าน แต่ถ้าจะให้มองในมุมของร้าน ส่วนตัวตนก็เป็นผู้ประกอบการเหมือนกัน ซึ่งเรื่องนี้ร้านควรคิดวิธีจัดการเรื่องความคุ้มทุน ไม่คุ้มทุนเอง ไม่ควรมาบอกหรือเขียนข้อความแบบนี้กับลูกค้า
นายณัฏฐ์เมธี ทิ้งท้ายว่า จากนี้คงไม่ไปกินร้านนี้อีก และเบื้องต้นได้แจ้ง สคบ. และลงบันทึกประจำวันไว้แล้วที่ สน.หัวหมาก หลังจากร้านบอกว่าจะเอาเรื่อง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นตนก็พร้อมสู้คดี
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน
อ่านข่าว : ลูกค้าสุดงง กินบุฟเฟ่ต์ แต่ถูกร้านคิดเงินเพิ่ม เหตุเพราะกินแต่กุ้ง-เนื้อ แบบนี้ก็มีด้วย !?
ทั้งนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นหากมองในมุมลูกค้าก็เป็นสิทธิ์ที่จะสั่งอะไรก็ได้ เพราะไม่ได้ทำผิดเงื่อนไขของร้าน แต่ถ้าจะให้มองในมุมของร้าน ส่วนตัวตนก็เป็นผู้ประกอบการเหมือนกัน ซึ่งเรื่องนี้ร้านควรคิดวิธีจัดการเรื่องความคุ้มทุน ไม่คุ้มทุนเอง ไม่ควรมาบอกหรือเขียนข้อความแบบนี้กับลูกค้า
นายณัฏฐ์เมธี ทิ้งท้ายว่า จากนี้คงไม่ไปกินร้านนี้อีก และเบื้องต้นได้แจ้ง สคบ. และลงบันทึกประจำวันไว้แล้วที่ สน.หัวหมาก หลังจากร้านบอกว่าจะเอาเรื่อง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นตนก็พร้อมสู้คดี
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน