สำหรับอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้าที่มีอยู่จริงนั้นจะนำมาใช้ในบางกรณีสำหรับภาคอุตสาหกรรมเท่านั้น เป็นอุปกรณ์ที่มีราคาสูงซึ่งประหยัดไฟฟ้าในลักษณะเรียกเก็บค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์ เช่น กิจการขนาดกลาง กิจการขนาดใหญ่ หรือกิจการเฉพาะอย่าง ดังนั้น ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยทั่วไปแทบจะไม่ได้รับประโยชน์จากการติดตั้งเครื่องประหยัดไฟฟ้าเหล่านี้ แต่สำหรับอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้าที่จำหน่ายผ่านสื่อสังคมออนไลน์นั้น อาจเข้าข่ายหลอกหลวงผู้บริโภค โดย MEA ตรวจสอบพบมี 3 ลักษณะคือ
อย่างไรก็ตาม MEA ขอแนะนำวิธีการประหยัดไฟฟ้าที่เหมาะสมที่สุดและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ คือ การปรับเปลี่ยนวิธีการพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าโดยเปิดใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเฉพาะเวลาที่ต้องการใช้งานและปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในเวลาที่ไม่ได้ใช้งาน รวมถึงการปรับตั้งค่าการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าให้เหมาะสม โดยเฉพาะการปรับตั้งอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศ ไม่ควรต่ำกว่า 26 องศาเซลเซียส เนื่องจากการปรับตั้งอุณหภูมิที่ต่ำเกินไปจะทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักขึ้น ไม่ควรเปิด-ปิดตู้เย็นบ่อยครั้งจะส่งผลให้สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้ามากขึ้นด้วย
อีกวิธีการหนึ่งที่ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้คือ การเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น หลอดไฟฟ้าชนิด LED เลือกใช้เครื่องปรับอากาศชนิดอินเวอร์เตอร์ ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้รับฉลากอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน เป็นต้น
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยหรือข้อแนะนำเพิ่มเติมสามารถติดต่อผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของ MEA ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line: @meathailand, Twitter: @mea_news, และ MEA Call Center 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
#พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร
Energy for city life, Energize smart living