อดีต ผอ.เตรียมอุดมฯ แฉเบื้องหลังถูกขับไล่ ขัดขากลุ่มรับเงินแป๊ะเจี๊ยะ แลกเข้า ม.4 พบสะพัดกว่าร้อยล้านบาท ซื้อรถหรู 24 คันส่งประเคนถึงบิ๊ก ศธ.
จากกรณีที่กลุ่มครูและนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
แต่งชุดดำชุมนุมประท้วง นายโสภณ กมล
อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
เรื่องความไม่โปร่งใสขณะที่ดำรงตำแหน่ง
และทำให้ความงดงามและวัฒนธรรมอันดีของโรงเรียนเลือนหายไป
โดยเฉพาะการเซ็นคำสั่งย้ายครูที่เห็นต่างก่อนจะเกษียณอายุราชการเพียง 2
วันนั้น
อ่านข่าว : ครู-นักเรียน เตรียมอุดมฯ แต่งดำประท้วง ผอ. เซ็นย้าย 7 ครูเห็นต่าง ก่อนเกษียณ 2 วัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 2 ตุลาคม 2563 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า นายโสภณ ได้เดินทางมาที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยหอบหลักฐานชี้แจงเรื่องความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นถึงการรับนักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ระบุว่า ที่ตนเงียบไปนานเพราะไม่อยากให้โรงเรียนเสียชื่อเสียง โดยเล่าย้อนถึงช่วงที่เข้ารับตำแหน่งในปี 2561 ตนเองได้ถูกกลุ่มศิษย์เก่าและครูเข้าร้องต่อ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบกรณีที่ตนมีการเปลี่ยนหลักเกณฑ์การรับนักเรียนชั้น ม.4 ปีการศึกษา 2563 ว่า ไม่ยึดตามหลักเกณฑ์ สพฐ. แต่ภายหลังที่ถูกตรวจสอบทั้ง ป.ป.ช. และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก็ไม่ได้ติดใจตนในประเด็นดังกล่าว
ยืนยันว่าในยุคของตนนั้นสามารถตรวจสอบความโปร่งใสได้ทั้งหมด เชื่อว่ากลุ่มที่ไปร้องเรียนต้องการทำลายชื่อเสียงของตน ก่อนหน้าที่ตนมารับตำแหน่งมีการประกาศรับนักเรียนด้วยเงื่อนไขพิเศษหลายรอบและไม่มีการประกาศให้สังคมรับทราบ ซึ่งถือว่าทำผิดกฎ ดังนั้นการรับนักเรียนในปีนี้จึงมีความตึงเครียด เพราะมีผู้เสียผลประโยชน์เกิดขึ้น คนเคยฝากได้กลับฝากไม่ได้ เนื่องจากแต่ละปีมีเงินจากการรับนักเรียนสะพัดปีละร้อยล้านบาท
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @dan_ma_dan_don
จนในที่สุดมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินจาก ป.ป.ช. พบว่า สมาคมฯ นี้มีปัญหาการรับนักเรียน พบเส้นทางการเงินเข้า-ออกอย่างมโหฬาร มีการถอนเงินเข้า-ออกในบัญชีจากนาย ก. แต่ละปีหลายล้านบาท ซึ่ง ป.ป.ช.ตรวจสอบพบว่าเงินถูกนำไปซื้้อรถหรู ทั้ง Benz, BMW และ Toyota ALPHARD และตามสืบไปจนถึงบริษัทรถยนต์พร้อมขอดูรายชื่อที่กรมการขนส่งทางบกจนพบว่า รถยนต์หรู จำนวน 24 คัน ถูกส่งมาที่กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่ในปี 2559-2561 รวมถึงการตรวจสอบของ ป.ป.ช. พบตัวละคร นาง ง. ผู้เดินเรื่องการรับนักเรียนมีเงินสดและเงินโอนเข้าบัญชี โดยนาง ง. มีการโอนเงินเข้าบัญชีบุคลากรในโรงเรียนด้วย ดังนั้น ขณะนี้ ป.ป.ช มีข้อมูลและหลักฐานทุกอย่างแล้ว
ทั้งนี้ ยังมีบัญชีของโรงเรียนที่เป็นเงินนอกเหนือจากเงินหลวง ประมาณ 20 บัญชี พบ 1-2 บัญชีเบิกเงินหลักล้านบาทโดยไม่รายงานผู้อำนวยการ เป็นการนำไปใช้ส่วนตัว ซึ่งมีผู้บริหารระดับรองผู้อำนวยการโรงเรียนและครูที่เกี่ยวข้อง รวม 5 ราย ตนได้เรียกทั้งหมดมาสอบถาม มีการยอมรับว่ามีการเบิกเงินไปจริง จึงแจ้งว่าเป็นการยักยอกทรัพย์ แต่ก็รู้สึกเห็นใจจึงกล่าวตักเตือนไป และนำมาซึ่งการโยกย้ายออกจากตำแหน่งเดิมเพื่อเปิดทางในการตรวจสอบสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลต่าง ๆ แต่ผู้ที่ถูกโยกย้ายกลับไปปลุกปั่นนักเรียนและครูให้ออกมาขับไล่ตน ดังนั้น ตนจึงต้องออกมาพูดความจริงทั้งหมด รวมทั้งจะต้องนำผู้ที่ยักยอกเงินโรงเรียนไปสู่กระบวนการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงให้ได้ ขณะนี้ได้มีการยื่นเรื่องกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 เพื่อตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงและสอบสวนทางวินัยในลำดับต่อไป